‘รัฐสภา’ไฟเขียว ‘สูตร20หยิบ1’เลือก‘ผู้ร่างรธน.’ ด้าน‘พริษฐ์’แจงป้องผูกขาดเสียงข้างมาก

‘รัฐสภา’ไฟเขียว ‘สูตร20หยิบ1’เลือก‘ผู้ร่างรธน.’ ด้าน‘พริษฐ์’แจงป้องผูกขาดเสียงข้างมาก

วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.55 น.

"รัฐสภา"ไฟเขียว "สูตร20หยิบ1"เลือก"ผู้ร่างรธน." ด้าน"พริษฐ์"แจงป้องผูกขาดเสียงข้างมาก ชี้สูตรอื่นถูกกินรวบมากกว่า เคลมต่อจ่อใช้เป็นนโยบาย"พรรคส้ม"รณรงค์ตอนหาเสียง

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง โดยได้เข้าสู่มาตราสำคัญ ว่าด้วยวิธีการได้มาของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐสภาคัดเลือกด้วยสูตร 20 หยิบ 1 ที่ให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่มกันกลุ่มละ 20 คน เลือก กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 1 คน เสนอต่อรัฐสภา ซึ่งการเสนอดังกล่าวจะถือว่าได้รับเลือกโดยไม่มีการลงมติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในร่างมาตราดังกล่าว กมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นแก้ไขเปลี่ยนแปลง เพราะมองว่าที่มาดังกล่าวตามมติของ กมธ.เสียงข้างมาก ไม่สามารถป้องกันการครอบงำ หรือจัดตั้งได้ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ข้อกำหนดให้ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญมาจากรัฐสภาคัดเลือก และกำหนดให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่มเลือกนั้น ตนมองว่าเป็นเนื้อหาที่ขัดหรือแย้ง เนื่องจากกำหนดว่ารัฐสภาคัดเลือกดังนั้นต้องเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพราะข้อกำหนดให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่ม 20 คนเลือกนั้นเป็นสถานะของสมาชิกไม่ใช่ฐานะรัฐสภา

นพ.ชลน่าน อภิปรายต่อว่า ดังนั้นตนขอเสนอว่า เมื่อรัฐสภาได้รายชื่อผู้สมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ต้องให้รัฐสภาออกเสียงลงคะแนน เป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่ง และจำนวนดังกล่าวต้องมีสมาชิกรัฐสภาที่มีสถานะเป็นฝ่ายค้านเห็นชอบ 20% ของจำนวนฝ่ายค้านที่มีอยู่ และได้เสียงเห็นชอบ สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือ 40 คน โดยใช้วิธีการขานชื่อลงคะแนนไปทั้ง 35 คน เพื่อป้องกันการครอบงำ ชี้นำ และจัดตั้งของสีใดสีหนึ่งได้ เพราะต้องได้ความเห็นร่วมจากฝ่ายค้าน และ สว.ซึ่งวิธีนี้จะตัดปัญหาสูตร 20 หยิบ 1 ที่มีปัญหาการจัดตั้งและครอบงำ

ขณะที่ นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.อภิปรายว่า สูตร 20 หยิบ 1 นั้น เป็นประเด็นที่สะท้อนการกำหนดสัดส่วนตามความหลากหลายของสมาชิกรัฐสภา แม้มี 20 คน เป็นเสียงส่วนน้อยยังสามารถได้คนร่างรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นตอนเลือกตั้งสามารถนำนโยบายไปขายได้ว่า เลือกพรรคไหนจะได้รัฐธรรมนูญแบบใด

“ถือเป็นความรับผิดรับชอบทางการเมือง ในเลือกตั้งสามารถนำเสนอนโยบายว่าจะแก้กติกาการอยู่ร่วมกันอย่างไรและผมต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำพันธสัญญากับประชาชนและเมื่อกลับมารัฐสภาต้องโหวตเห็นชอบก่อนทำประชามติมีหลายขั้นตอนเพื่อป้องกันการผูกขาด และมีหลายขั้นตอนรับผิดชอบทางการเมือง” นายภัณฑิล กล่าว

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่าสูตร 20 หยิบ 1 ไม่ได้เสนอมาแทนที่คูหาให้ประชาชนเลือกผู้ร่าง แต่ป้องกันการผูกขาด กินรวบ โดยสีใดสีหนึ่งได้ ไม่ว่าจะมีคูหาเลือกตั้งผู้ร่างหรือไม่ และแม้สูตร 20 หยิบ 1 อาจจะทำให้กลุ่มใดมีเสียงข้างมากในรัฐสภากลายเป็นมีเสียงข้างมากร่างเช่นกันหากใช้ร่างอื่นที่เสนอ ทั้งเกณฑ์เสียงข้างมาก หรือเกณฑ์สูตรผสม กลุ่มใดก็ตามที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภาจะทำให้เกิดการผูกขาดกินรวบได้มากขึ้น ไม่ใช่น้อยกว่าสูตร 20 หยิบ 1 ทั้งนี้ เจตนาของ นพ.ชลน่าน ตรงกันคือป้องกันการกินรวบและผูกขาด แต่ตีความคำว่ารัฐสภาคัดเลือกแตกต่างไป ทำให้ต้องเพิ่มขั้นตอนให้รัฐสภาลงมติรับรองรายชื่อที่มาจากการรวมกลุ่ม อย่างไรก็ดีประเด็นดังกล่าวอาจมองต่างกัน หรือคิดว่าเป็นประเด็นที่จะรณรงค์กับสังงคมให้มีความรับผิดรับชอบทางการเมืองของรัฐสภาว่าแต่ละกลุ่มนั้นเสนอ กมธ.ที่หลากหลาย หรือเหมาะสมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ได้อภิปรายแล้วเสร็จ ที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมากเห็นด้วยกับการแก้ไขของ กมธ.เสียงข้างมาก เห็นชอบกับประเด็นที่มาของกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญด้วยสูตร 20 หยิบ 1

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top