'นายกฯ'เน้นย้ำความร่วมมือ'ไทย-OECD' พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ

'นายกฯ'เน้นย้ำความร่วมมือ'ไทย-OECD' พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ

วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.41 น.

นายกฯเปิดการประชุม OECD Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 เน้นย้ำความร่วมมือไทยและ OECD พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ที่ห้องประชุมรอยัล บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการทางวิชาการด้านการงบประมาณ OECD Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดโดยสำนักงบประมาณร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)


โดยการประชุมครั้งนี้มี นายริชาร์ด วินเดเยอร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เครือรัฐออสเตรเลีย และนายกรณินทร์ กาญจโนมัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ร่วมเป็นประธานการประชุม พร้อม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารจากสำนักงบประมาณ ผู้บริหารระดับสูงจากประเทศสมาชิก OECD และประเทศอื่นๆ อาทิ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย ภูฏาน บรูไน กาตาร์ เป็นต้น รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น IMF และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการคลังจากหลายประเทศ จำนวนรวมประมาณ 100 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม โดยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกคนในโอกาสการประชุม Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 พร้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม OECD ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2545 เวทีนี้ได้สะท้อนถึงความร่วมมืออันยืนยาวระหว่างไทยกับ OECD และได้พัฒนาขึ้นเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างธรรมาภิบาลทางการคลัง และยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การประชุมในปีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และความคาดหวังที่สูงขึ้นของประชาชนในเรื่องความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ซึ่งในสภาพแวดล้อมดังกล่าว การจัดทำงบประมาณอย่างรอบคอบและการบริหารการคลังอย่างรับผิดชอบ ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจเชิงเทคนิค แต่เป็นรากฐานของความเชื่อมั่นระหว่างรัฐบาลและประชาชน โดยไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาความเชื่อมั่นนี้ไว้

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประเทศ และส่งเสริมการใช้จ่ายภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การปฏิรูปกฎหมายอย่างรอบด้าน และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลดิจิทัลที่ยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลถือว่าวินัยการคลัง ความโปร่งใส และความรับผิดชอบเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารประเทศ โดยมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดสำคัญ และต้องการให้เม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนระยะยาวของประเทศ

นอกจากนี้ หัวข้อหลักของการประชุมปีนี้ที่ให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืนทางการคลัง การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล และการเสริมสร้างศักยภาพภาครัฐ” สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบนโยบายการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพพร้อมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ รัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าปรับปรุงระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล และพิจารณาการใช้เทคโนโลยี AI อย่างรับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสของระบบราชการ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ด้านการคลังแก่ประชาชน และผลักดันการมีส่วนร่วมของสาธารณชน เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนในสังคมไทย

สำหรับเส้นทางของประเทศไทยสู่การเข้าเป็นสมาชิก OECD นั้น นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ไทยได้ก้าวมาถึงหมุดหมายสำคัญ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งมอบบันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum) แก่รองเลขาธิการ OECD เพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการทบทวนเชิงเทคนิคในระยะต่อไป พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยต่อกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างไทยและเวที Asian Senior Budget Officials จะมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ รวมถึงโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสำนักงบประมาณและ OECD ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษ ได้เสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นบนพื้นฐานของเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งไทยขอขอบคุณมิตรภาพและความร่วมมืออันยาวนานนี้เป็นอย่างยิ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวปิดท้ายว่า การหารือในช่วงสองวันของการประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนมุมมองว่าระบบการคลังควรปรับตัวอย่างไรต่อความท้าทายในอนาคต ทั้งในการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการที่ชาญฉลาด และการสื่อสารกับประชาชนอย่างโปร่งใส ซึ่งล้วนเป็นเป้าหมายของทุกประเทศในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมประธานร่วมและสำนักเลขาธิการ OECD ที่สนับสนุนการจัดงานอย่างต่อเนื่อง และอวยพรให้การประชุมบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top