‘โรม’ ปูดเครือข่ายทุนเทา โยง‘MOU ดีอี’ พัน ‘Prime-World Coin - Hui One’โยงก๊วนเดียวกันหมด

‘โรม’ ปูดเครือข่ายทุนเทา โยง‘MOU ดีอี’ พัน ‘Prime-World Coin - Hui One’โยงก๊วนเดียวกันหมด

วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.24 น.

‘โรม’ ปูดเครือข่ายทุนเทาโยง‘MOUกระทรวงดีอี’ พัน ‘Prime - World Coin - Hui One’ โยงก๊วนเดียวกันหมด แนะไทยตามตัว‘ยิม เลียก’ ผ่านกลไกสนธิสัญญาส่ง ‘ผู้ร้ายข้ามแดน’

11 ธ.ค.2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีความผิดปกติของการลงนาม MOU  ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กับภาคเอกชนว่า หากมองเรื่องนี้แยกส่วนกันจะไม่เห็นขนาดของปัญหาที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันพบความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งหมด


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จุดเริ่มต้นจากกรณีบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี (Prime Opportunity Fund VCC) จากสิงคโปร์ ซึ่งได้ทำ MOU กับกระทรวงดีอีนั้น หน่วยงานที่มาร่วมทำ MOU จริง ๆ แล้วมีสถานะเป็นกองทุน ล่าสุดได้รับแจ้งจากกระทรวงดีอีว่ามีการยกเลิก MOU ดังกล่าวไปแล้ว และจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาผู้เกี่ยวข้องและการกระทำความผิด ซึ่งในความเป็นจริงหน่วยงานสามารถตรวจสอบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทุนนี้ได้ไม่ยาก เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นปรากฏตัวอยู่ในห้องวันที่มีการเซ็นสัญญา

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพยานและบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในวันดังกล่าว   ทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รวมถึงนายเบน สมิธ ซึ่งทาง กมธ.ความมั่นคงฯ  ได้พยายามสอบถามถึงหนังสือเชิญ และสถานะการเข้าร่วม แต่ได้รับแจ้งว่าไม่พบหนังสือเชิญแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์ที่ผิดปกติของระเบียบราชการ

ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวอีกว่า ส่วนความเชื่อมโยงว่า Prime Opportunity Fund VCC มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ทำเรื่อง World Coin Crypto (เวิลด์คอยน์)นั้น มีการเก็บข้อมูลม่านตาประชาชนกว่า 1 ล้านราย  โดยปัจจุบันมีการประสานงานข้ามหน่วยงานเพื่อสั่งให้ลบข้อมูลดังกล่าว หากลบไม่ได้หรือพบการกระทำความผิด ทางหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอาจดำเนินการปรับทางแพ่งหรืออาญา ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาทต่อ 1 ไอดี หากคำนวณจากจำนวนข้อมูลกว่าล้านราย ค่าปรับอาจสูงถึงหลักพันล้านบาท โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) น่าจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว

นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าวยังเชื่อมโยงต่อไปยัง  Hui One Group ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางเคยเข้าจับกุมไปก่อนหน้านี้ แต่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะพบกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเพียงกระเป๋าเดียว มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยึดอายัดได้เพียง 46 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ปปง. สอบสวนกลาง และตำรวจไซเบอร์ กำลังขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเซ็น MOU กับกระทรวงดีอี

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ทั้ง Hui One, Prime Opportunity Fund และ World Coin ล้วนอยู่ในเครือข่ายเดียวกันและเป็นผู้ต้องสงสัยในการกระทำผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และอาจเกี่ยวพันกับขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งมีความผิดร้ายแรง

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายเบน สมิธ ส่วนกรณีของ ยิม เลียก (Yim Leak) และภรรยา ได้มีการออกหมายจับและขอออกหมายแดงเรียบร้อยแล้ว หากพบตัวในต่างประเทศสามารถจับกุมได้ทันที โดยเฉพาะหากหลบหนีไปยังกัมพูชา ไทยสามารถใช้กลไกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีได้ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในขณะนี้อาจไม่ปกตินักก็ตาม

ทั้งนี้ ตนมีกำหนดการที่จะเข้าไปชี้แจงและติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ที่กระทรวงดีอีในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top