‘ก๊วนเฉลิมชัย’ตบเท้าซบ’กล้าธรรม’ ชู‘ธรรมนัส’นายกฯ ประกาศลั่นพร้อมสู้ศึกทุกภาค

‘ก๊วนเฉลิมชัย’ตบเท้าซบ’กล้าธรรม’ ชู‘ธรรมนัส’นายกฯ ประกาศลั่นพร้อมสู้ศึกทุกภาค

วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘ก๊วนเฉลิมชัย’ตบเท้าซบ’กล้าธรรม’

ชู‘ธรรมนัส’นายกฯ

ประกาศลั่นพร้อมสู้ศึกทุกภาค

พท.เปิด‘ยศชนัน’ลูก‘สมชาย’

เบอร์หนึ่งแคนดิเดตนายกฯ

 

“ภูมิใจไทย” ประชุมติวเข้มผู้สมัครสส. ชูสโลแกนสู้ศึกเลือกตั้ง “พูดแล้วทำพลัส” แกนนำปลุกใจลูกพรรค ถ้าตั้งใจหาเสียงกวาดเกิน 200 ที่นั่งแน่ “เพื่อไทย” เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ “ยศชนัน-จุลพันธ์-สุริยะ” ชูนโยบายเร่งด่วน เดินหน้า “หวยเกษียณ” ใน 3 เดือน-ล้างหนี้ทั่วประเทศ-สานต่อรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใน 3 เดือน "นฤมล"รับ"ธรรมนัส"แคนดิเดตนายกฯอันดับ1พรรคกล้าธรรม ขณะที่’ก๊วนเฉลิมชัย’ตบเท้าซบ กธ. มั่นใจสู้กระแส "ภท.-ปชป."ภาคใต้และทุกภาคได้ อุบจับมือใครตั้งรบ.ขอดูหลังเลือกตั้ง


เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) สวมเสื้อให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทยคนใหม่แล้ว

ภท.ติวเข้มปลุกใจผู้สมัครสส.

จากนั้น พรรคได้มีการแบ่งประชุม ว่าที่ผู้สมัคร สส. เป็น 2 ชุด ชุดแรก คือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง ส่วนชุดสอง คือ ภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยทั้งสองวงแกนนำพรรค ได้มีการกำชับให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กกต.กำหนดอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำให้ทุกคนเต็มที่กับการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังข้อกฎหมาย ให้เป็นไปตามกติกา เนื่องจากช่วงนี้จะมีหลายเทศกาล ซึ่งมีการแข่งขันทางการเมืองสูงและขอให้รอฟัง กกต.ที่จะประกาศขั้นตอนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ตั้งใจเกิน200ที่นั่ง/ชู‘พูดแล้วทำพลัส’

ทั้งนี้ แกนนำพรรคยังได้พูดถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อไปบอกประชาชนว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะเดียวกันแกนนำพรรค ยังระบุว่า เมื่อก่อนนี้เป็นพรรคภูมิใจไทย“พูดแล้วทำ”จากนี้ จะเป็นพรรคภูมิใจไทย“พูดแล้วทำพลัส”คือทำมากกว่าพูด ทำมากกว่าที่วางไว้ ทำมากกว่านโยบายที่หาเสียงไว้

พร้อมกันนี้ยังปลุกใจว่า เรามีหน้าที่ไปหาเสียง ทำคะแนน ถ้าทุกคนที่อยู่ในนี้ตั้งใจก็จะได้สส.เกิน 200 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่าน่าจะจบก่อนปีใหม่

พท.’เปิด3แคนดิเดตนายกฯโชว์วิชั่น

เวลา 10.30 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ได้จัดงาน“ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้”เพื่อเปิดตัวผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย 3 คน ประกอบด้วย คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์, บุตรชาย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนักการเมืองรุ่นกลางที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์ เคยเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีหลายกระทรวง อยู่ในพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย

ทั้งนี้ ก่อนเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ได้เปิดคลิปวีดีโอการหาเสียงตั้งแต่ยุค นายทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชายวงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเชษฐา ทวีสินและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร

โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ ร่วมกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยและพี่น้องประชาชน โดยทั้ง 3 คนขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์และเปิดนโยบายล็อตแรกของพรรคเพื่อไทยในงานวันดังกล่าวด้วย

ชู’หวยเกษียณ’ใน3เดือน-ล้างหนี้ทั่วปท.

นายจุลพันธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่าวันนี้ตนมานำเสนอนโยบายเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยจะผลักดัน “หวยเกษียณ”ภายใน 3 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล เพื่อเปลี่ยนการเสี่ยงโชคเป็นการออม สร้างหลักประกันทางการเงินให้ผู้สูงอายุ ควบคู่กับสวัสดิการของรัฐ พรรคเพื่อไทยเตรียมเดินหน้ามาตรการ “ล้างหนี้ให้คนไทย” มองว่าปัญหาหนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยประกอบด้วย การแก้หนี้นอกระบบด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การเปิดโอกาสให้ปิดหนี้เสีย (NPL) ด้วยการจ่ายเพียงบางส่วน โดยกลุ่มหนี้นอกระบบ เราให้สินเชื่อรายละ 5 หมื่นบาท เพื่อปิดหนี้นอกระบบ กลุ่มหนี้เสีย เราจะให้กลุ่มที่หนี้ไม่เกิน 200,000 บาท จ่ายหนี้เพียงแค่ 10% กลุ่มเกษตรกร เราจะพักหนี้ให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท กลุ่มผู้สูงอายุ เราจะปลดหนี้เสียวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท กลุ่มลูกหนี้ดี ชำระตรง ควรได้รับรางวัล เราจะจ่ายให้ฟรี 1 งวด สำหรับยอดเงินไม่เกิน 100,000 บาท

“การแก้หนี้ประชาชน ไม่ใช่การแจกเงิน แต่คือ การซ่อมฐานรากของระบบเศรษฐกิจไทย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมุ่งสร้างสังคมที่ประชาชน “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” และพร้อมยกเครื่องประเทศไทย เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า”นายจุลพันธ์ กล่าว

สานต่อรถไฟฟ้า20บ.ตลอดสายใน3เดือน

นายสุริยะ กล่าวช่วงหนึ่งว่าขอบคุณที่พรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้ตนเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกญของพรรคเพื่อไทย โดยนโยบายเร่งด่วน ยืนยัน การสานต่อ“รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนจะสามารถใช้ได้ภายใน 3 เดือน พร้อมพัฒนา Feeder ควบคู่ผ่านนโยบาย“รถเมล์แอร์10บาท”เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงการเดินทางคุณภาพได้จริง ส่วนนโยบาย“บ้านเพื่อคนไทย”ได้เริ่มต้นด้วย 4 โครงการนำร่อง เน้นบ้านในทำเลศักยภาพ ใกล้ระบบคมนาคม ใกล้แหล่งงาน และจ่ายไหว เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพาคนเดินทาง แต่ช่วยให้คนไทยตั้งหลัก มีบ้าน มีคุณภาพชีวิต และมีอนาคตที่มั่นคง

ยกเครื่องประเทศ-ยกระดับชีวิต

“คนข้างนอกบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถกลับไปอยู่จุดเดิมได้อีก แต่เราไม่คิดแบบนั้น เรายังมีไฟ เรายังมีฝัน เรายังมีพลัง อุดมการณ์เดียวกันกับพลังคนรุ่นใหม่ เราอยากทำนโยบายดีๆให้ประชาชน พร้อมอาสารับภารกิจในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อรวมพลัง“ยกเครื่องประเทศไทย”ให้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมและยกระดับชีวิตคนไทยทุกคน”นายสุริยะ กล่าว

‘ยศชนัน’ลั่นฉุดบ้านเมืองพ้นวิกฤติ

นายยศชนัน โชว์วิสัยทัศน์ว่าชีวิตตนคือภาพสะท้อนคนไทยจำนวนมากที่เติบโตจากครอบครัวข้าราชการและพยาบาล ย้ายถิ่นฐานไปหลายจังหวัด เรียนโรงเรียนประจำจังหวัดได้รับการปลูกฝังว่าความรู้ ความขยัน คือหนทางเปลี่ยนชีวิต ประเทศไทยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ปี 2540 สามารถฟื้นตัวได้จากความเชื่อมั่นว่า คนไทยทำได้ อย่างพรรคไทยรักไทยใน อดีตที่สร้างนโยบายเปลี่ยนชีวิตประชาชน ปลดวิกฤติให้ประเทศแต่ตลอดเส้นทางเผชิญความไม่เป็นธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงปัจจุบันปี2568 ประเทศไทยเผชิญ Perfect Storm ทั้งเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี นายกฯพรรคเพื่อไทย จะแก้ปัญหาเหล่านี้เต็มที่ แต่สถานการณ์การเมืองไทยทำให้ต้องเปลี่ยนนายกฯปีละครั้ งแต่ทำได้ขนาดนี้ต้องชื่นชมอดีตนายกฯพรรคเพื่อไทย ส่วนทิศทางอนาคตประเทศไทยนั้น ถ้าวันนี้เราเลือกทำสิ่งใหม่ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างเทคโนโลยี ใช้ความคิดสร้างสรรค์คนไทย เชื่อว่าอนาคตที่ดีของประเทศไทยเป็นไปได้

“ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะนำประเทศไทยพ้นวิกฤตที่กำลังเผชิญไปให้ได้ มีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยสู่ประเทศรายได้สูงให้เร็วที่สุด ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และAI เป็นแกนหลัก ผ่านยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจเดิมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในส่วนภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการผลิต ภาคการบริการ พร้อมไปกับการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่จากศักยภาพท้องถิ่นผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ครอบคลุมการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ การผลิตอุตสาหกรรม และสุขภาพและคุณภาพชีวิต” นายยศชนัน ย้ำ

ลุยยกระดับภาครัฐปรับบทบาท3ด้าน

นายยศชนัน กล่าวอีกว่าบทบาทภาครัฐเองต้องปรับตัวเพื่อรองรับเศรษฐกิจมูลค่าสูง สิ่งรัฐบาลต้องเดินหน้า3ด้านคือ1.สร้างความมั่นคงรอบด้าน ทั้งการทหาร ความมั่นคงไซเบอร์ ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และการรับมือ Climate Change ควบคู่การทูตที่รักษาสมดุลผลประโยชน์ของไทย 2.สร้างความเชื่อมั่นผ่านการฟื้นฟูหลักนิติธรรมคืนความยุติธรรมให้ประชาชน ใช้ Digital Goverment สร้างความโปร่งใส ป้องกันการคอร์รับชัน ควบคู่ไปกับ AI Transformation สร้างระบบรัฐแบบ One Stop Service 3.การวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ ตั้งแต่คมนาคม โลจิสติกส์ ความปลอดภัยด้วย AIโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พลังงานสะอาด สวัสดิการ การศึกษา วิจัย และนวัตกรรม รองรับเศรษฐกิจใหม่และยกระดับเศรษฐกิจเดิม ให้ความสำคัญการเตรียมคนให้สอดรับการวางโครงสร้างรากฐานเศรษฐกิจใหม่คนไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสเติบโตที่เท่ากัน จะเกิดที่ไหนในแผ่นดินไทยก็เป็นคนไทย ต้องได้รับโอกาสเท่ากัน ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใด แต่ทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง มีหัวใจอยู่ที่ประชาชน

ปลุกร่วมกันยกเครื่องประเทศทำได้แน่

“การเดินทางครั้งนี้ ไม่ใช่การเดินทางของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการเดินทางให้เรากลับมาช่วยสร้างประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง วันนี้ทุกคนจากพรรคไทยรักไทย ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ทุกคนกลับมาที่บ้านของพวกเรา บวกกับคนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย มารวมกัน มั่นใจว่าเราทำได้ เริ่มจากวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ยกเครื่องประเทศไทย ถ้าเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้แน่นอน”นายยศชนัน กล่าว

‘นฤมล’โวลั้นภาคใต้กธ.แข็งแกร่งขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมในวันนี้ว่า ยอมรับว่ากลุ่มนายเฉลิมชัย จะมาสมัครวันนี้ ขอให้รอดู ตอนเที่ยงวันนี้ เราเชิญทุกพรรค วันนี้จะเป็นการเปิดแค่กลุ่มของนายเฉลิมชัย ก่อน

นางนฤมลกล่าวอีกว่าการได้กลุ่มของนายเฉลิมชัย มาเป็นสมาชิกพรรคแล้วจะทำให้ในภาคใต้มีความแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน รวมถึงภาคอื่นด้วย ตอนนี้จะมีสมาชิกใหม่เข้ามาเรื่อยๆจะทยอยเปิดตัวไป เมื่อกกต.เปิดรับสมัครแล้ว คงจะมีความชัดเจนขึ้น ยอมรับว่ามีสมาชิกเข้ามาเพิ่มขึ้น เราต้องตั้งเป้าสส.ตัวเลขใกล้ๆกับครั้งที่แล้ว

รับ’ธรรมนัส’แคนดิเดตนายกฯอันดัน1กธ.

เมื่อถามว่าจะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรมเมื่อไหร่ นางนฤมล กล่าวว่ายังไม่ได้คุยกันซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 แน่นอน ส่วนตนเองจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่าจะส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้ง 3คนหรือไม่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง นางนฤมลกล่าวว่าคงไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ดูที่ความเหมาะสมมากกว่า

‘ก๊วนเฉลิมชัย’ตบเท้าซบ’กล้าธรรม’

เวลา12.20น.ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.)นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรรค ต้อนรับอดีต สส.และ อดีต สจ.กลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กธ. เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยนางนฤมลได้สวมเสื้อพรรค กธ.ให้ประกอบด้วย

1.นายประมวล วงศ์ถาวรเดช อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ 2.พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ อดีต สส.สงขลา 3.นายยูนัยดี วาบา อดีต สส.ปัตตานี 4.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร อดีต สส.อุบลราชธานี 5.ว่าที่ร้อยโทยุทธการ รัตนมาศ อดีต สส.นครศรีธรรมราช 6.น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต สส.พัทลุง 7.นายชาตรี หล้าพรหม อดีต สส.สกลนคร 8.น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9.นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ 10.นายฐิตินัย ตั้งบูรพากิจ สจ.ประจวบคีรีขันธ์ 11.นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ ยังมี จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม มาร่วมด้วย ทั้งนี้นายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เดินทางมาในครั้งนี้ด้วย

โดยนางนฤมลกล่าวว่าวันนี้มาต้อนรับ“กลุ่มเพื่อนต่อ”ของนายเฉลิมชัยที่มาอยู่กับพรรค กธ.เราจะร่วมมือกันทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่แค่ภาคใต้ แต่รวมถึงภาคตะวันออกและภาคอีสานโดยในเร็วๆนี้จะมีการเปิดแคมเปญหาเสียง และเปิดตัวผู้สมัครสส.จะประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกับผู้สมัคร

มั่นใจสู้กระแส‘ภท.-ปชป.’ภาคใต้ได้

เมื่อถามว่าการรับอดีตสส.ประชาธิปัตย์เข้ามา ไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ซับซ้อนใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เราคุยกันได้อยู่แล้ว เพราะบางคนไม่ได้ลง สส. ก็อยู่เบื้องหลัง คงจะต้องมีการพูดคุยกัน และขอให้รอดูบ้านใหญ่ที่กำลังจะทยอยเข้ามา เมื่อถามว่า การรับอดีต สส.ประชาธิปัตย์เข้ามา ถือเป็นการเสริมกำลังให้กับพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ นฤมล กล่าวว่า ใช่ ทั้ง จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อถามว่าจะเป็นการไปชนกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า การเลือกตั้งต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คงจะไม่มีการหลบหรือเลี่ยงในลักษณะนั้น เราสู้เต็มที่ในจุดที่เราจะไปรับใช้ประชาชนและผู้สมัครทุกคนมีความจริงใจ ต้องการไปรับใช้ประชาชนจริงๆพรรคจะสนับสนุนทุกคนอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะสู้กระแสของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ได้หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ทุกพรรคมีกระแสของตัวเอง เราไม่กังวล

ยันกธ.ส่งผู้สมัครครบ400 เขต

นางนฤมล กล่าวว่าส่วนเป้าหมายที่นั่ง สส.เราไม่ได้โฟกัสที่ตัวเลข แต่จะทำให้ดีที่สุด ส่งผู้สมัครครบ400 เขต มั่นใจว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ เราไม่ได้จะเป็นแค่ผู้ชนะเท่านั้น แต่จะชนะเพื่อไปรับใช้ประชาชนในเขตที่แต่ละคนรับผิดชอบ ส่วนสนามเลือกตั้ง กทม.นั้น เดี๋ยวจะเปิดตัว ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กธ.ยังไม่ได้มีการหารือกัน จะต้องมีการพูดคุยกับบุคคลที่เข้ามาใหม่ด้วย

อุบจับมือใครตั้งรบ.ขอดูหลังเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งคิดไว้หรือยังว่าจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคใด นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่มีใครในใจ รอผลการเลือกตั้งก่อน ขอไม่คุยอะไรล่วงหน้า เอาแค่ตอนนี้ที่จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร เราจะทำให้ดีที่สุดในการเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ.นี้ ย้ำว่าการทำงานการเมือง ต้องทำงานได้กับทุกพรรค

‘กลุ่มเพื่อนต่อ’ปัดมาต่อรองเก้าอี้

ด้านนายประมวล พงศ์ถาวรเดช อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายเฉลิมชัยเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม หากสมาชิกกลุ่มเดินทิศทางใดไม่มีปัญหา เพราะเป็นคนที่เปิดกว้าง

ส่วนการที่กลุ่มเพื่อนต่อ มาอยู่พรรคกธ.หวังจะการันตีเก้าอี้หรือไม่ นายประมวล กล่าวว่าไม่ว่าจะอยู่ไหน ไม่เคยพูดถึงเก้าอี้ เพราะเราเห็นนโยบายของพรรคกล้าธรรมที่ช่วยเหลือเกษตรกร และเราพยายามดำเนินการ เพราะเป็น สส.บ้านนอก ต้องดูแลปากท้องพี่น้องประชาชน

เมินกระเปลี่ยนพรรคสั่งลงลุยทุกพื้นที่

เมื่อถามว่า การแข่งขันที่เข้มข้น กลุ่มเพื่อนต่อได้มีการวางแผนอย่างไร นายประมวล กล่าวว่า ให้ สส.ทุกคนพยายามเข้าไปในพื้นที่ พยายามดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนในแต่ละเขตพื้นที่ เพราะฉะนั้น การทำหน้าที่ของ สส.เขตในกลุ่มของนายเฉลิมเข้มแข็งมาโดยตลอด

เมื่อถามว่ากลัวกระแสเปลี่ยนพรรคแล้วคะแนนหายหรือไม่ นายประมวล กล่าวว่า เป็นปกติของการเมือง สส.ต้องลงพื้นที่อย่างขยันแข็ง และนโยบายของพรรคเป็นที่ถูกใจของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ดูแลพรรคและ สส.เขต

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top