วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จากผลสำรวจของ ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันพระปกเกล้า (KPI Poll) ครั้งล่าสุดไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขสะท้อนอารมณ์ทางการเมืองของประชาชนเท่านั้น หากแต่กำลังส่งสัญญาณสำคัญว่าพฤติกรรมผู้มีสิทธิเลือกตั้งไทยกำลังเปลี่ยนโครงสร้างความคิดอย่างมีนัยยะ จากการเลือก“พรรค”ไปสู่การเลือก“ตัวบุคคล”โดยเฉพาะผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในการเลือกตั้งครั้งนี้
การเมืองที่ “แย่ลง” กับความคาดหวังที่สูงขึ้น
ตัวเลขประชาชนร้อยละ 45.7 ที่มองว่าการเมืองไทยกำลังแย่ลง บวกกับอีกกว่า 41% ที่รู้สึกว่า “เหมือนเดิม” สะท้อนภาวะ ความอิ่มตัวทางการเมือง และความรู้สึกว่าระบบการเมืองยังไม่ตอบโจทย์ชีวิตจริง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและปากท้อง
นี่คือบริบทสำคัญที่ทำให้ประชาชน ไม่ยึดติดกับพรรคใดพรรคหนึ่งแบบเดิม หากพรรคที่เคยเลือก ไม่สามารถเสนอ “ความหวังใหม่” ที่จับต้องได้
นายกฯ ในสายตาประชาชน: ผลลัพธ์มากกว่าวาทกรรม
ผลโพลชี้ชัดว่า คุณสมบัตินายกรัฐมนตรีในสายตาประชาชน ไม่ใช่อุดมการณ์หรือสำนวนการเมือง แต่คือ“ความสามารถเชิงปฏิบัติ”
แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องได้จริง (36.2%) มีความซื่อตรง (17.8%) รับฟังเสียงประชาชน (9.2%)
ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำว่า ประชาชนกำลัง ประเมินผู้นำแบบผู้บริโภคการเมือง คือดู “ผลลัพธ์” มากกว่า “ภาพลักษณ์” และพร้อมตัดสินใจใหม่หากไม่เห็นศักยภาพจริง
แคนดิเดตนายกฯกลับมาเป็น“ตัวแปรชี้ขาด”
กว่า 68% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าการประกาศชื่อแคนดิเดตนายกฯ มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนน นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทย ยุคหลังรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เคยลดทอนความหมายของตัวบุคคลลง
วันนี้ รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่เพียง“สัญลักษณ์เชิงพิธีกรรม” แต่กลายเป็นปัจจัยเชิงพฤติกรรมการเลือกตั้ง ที่สามารถดึง หรือผลักคะแนนเสียงได้จริง
คนไทย พร้อม“เปลี่ยนใจ”มากกว่ายึดมั่น
ผลโพลที่น่าจับตาที่สุด คือ ร้อยละ 41.6 ระบุว่า อาจจะเปลี่ยนใจ และร้อยละ 17.6 ระบุว่า เปลี่ยนแน่นอน หากพรรคที่ตนชอบเสนอแคนดิเดตนายกฯ ที่ไม่ถูกใจ
นี่สะท้อนความจริงข้อหนึ่งว่า ยุคการเมืองแบบฐานเสียงแข็ง (solid base) กำลังสั่นคลอน ประชาชนจำนวนมากกลายเป็น swing voter ที่พร้อมเคลื่อนไหวตามคุณภาพของผู้สมัคร มากกว่าประวัติหรือแบรนด์พรรค
สัญญาณเตือน ถึง“พรรคการเมืองใหญ่”
สำหรับพรรคการเมืองใหญ่ไม่ว่าจะเป็น
พรรคเพื่อไทย เปิดตัว 3 แคนดิเดต นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ เบอร์ 1,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่พรรคชู“ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้”
พรรคภูมิใจไทย แน่นอน อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องจับตาว่า จะเปิดตัวอีก 2 แคนดิเดต ตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่ ทั้ง เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตรองนายกฯและรมว.การคลัง และ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ อดีตรมว.พาณิชย์ ทั้งคู่โดดเด่นในการทำงานอย่างชัดเจนในช่วงเวลาสั้นๆ
พรรคประชาชน เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯของพรรคคือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฯ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค
พรรคประชาธิปัตย์ แคนดิเดตนายกฯเบอร์1 คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังกลับมาฟื้นฟูพรรคอีกครั้ง พร้อมคณะทำงานผู้บริหารชุดใหม่ผสมผสานคนรุ่นใหม่ จับตาอีก 2 แคนดิเดต ทั้ง กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง ที่โลกยอมรับ สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพ และเชี่ยวชาญ พร้อมคนรุ่นใหม่ วีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรคที่เคยเป็นผู้แทนการค้าไทย
พรรคกล้าธรรม เบื้องต้น แคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและส หกรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม
พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัว พลโทภราดร พัฒนถาบุตร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรคไทยสร้างไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ และยังมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคฯ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกคน
พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวพน้าพรรคฯ, ตรีนุช เทียนทอง เลขาธิการพรรคฯอดีตรมว.แรงงาน และ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฯ อดีตรมว.คลัง
ผลโพลนี้ คือ คำเตือนเชิงโครงสร้าง ว่า
“การคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ ผิดคน อาจแพ้ทั้งกระดาน”
โดยเฉพาะพรรคที่มีฐานเสียงเดิม แต่เสนอชื่อบุคคลที่ถูกมองว่า แก้เศรษฐกิจไม่เป็น ขาดความน่าเชื่อถือ
ไม่สะท้อนความหวังใหม่
ย่อมเสี่ยงต่อการสูญเสียคะแนนให้พรรคคู่แข่ง แม้ในพื้นที่ที่เคยได้เปรียบก็ตาม
เวทีดีเบต = เวทีชี้ชะตา
รายชื่อบุคคลที่ประชาชนอยากฟังดีเบตมากที่สุด สะท้อนว่าการเมืองกำลังเข้าสู่ยุค“พิสูจน์ฝีมือสด”ไม่ใช่แค่ป้ายหาเสียง หรือโฆษณา
ผู้ที่ตอบคำถามเศรษฐกิจ ปากท้อง และอนาคตประเทศได้ชัด มีโอกาสขยายฐานเสียงข้ามพรรค ขณะที่ ผู้ที่พลาด อาจฉุดคะแนนพรรคตัวเองลง โดยไม่รู้ตัว
ภาพการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ไม่มีพื้นที่ให้“ส่งใครมาก็ได้”
จากผลสำรวจของ KPI Poll ครั้งนี้ ชี้ชัดสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนไทยไม่เลือกตั้ง ด้วยความเคยชินอีกต่อไป แต่กำลังเลือกด้วยเหตุผล ความคาดหวังและการเปรียบเทียบแบบตรงไปตรงมา
สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่คำถามว่า “พรรคไหนใหญ่ที่สุด” แต่คือ“ใครเหมาะสมพอจะเป็นนายกฯในวันที่ประเทศกำลังติดหล่ม”
และในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ อาจเป็นตัวแปรที่พลิกเกม ทั้งระบบการเมือง มากกว่าที่หลายพรรคคาดคิด
- ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี