วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
"นายกฯอนุทิน"ชี้อาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์เป็นภัยคุกคามระดับโลก เน้นย้ำความร่วมมือกับนานาชาติ เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง บังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดน และผลักดันหุ้นส่วนโลกสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ห้อง Ballroom 1 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (International Conference on the Global Partnership against Online Scams) ซึ่งเป็นการประชุมที่ประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระหว่างวันที่ 17 - 18 ธันวาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระดับโลกในการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (online scams)
การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมทั้งในระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี เอกอัครราชทูตจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ตลอดจนผู้แทนจากสหภาพยุโรป องค์การระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และนักวิชาการ รวมทั้งสิ้นมากกว่า 300 คน จาก 60 ประเทศ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสกล่าวในงานเลี้ยงรับรองฯ พร้อมขอบคุณผู้เข้าร่วมการประชุมจากทุกภาคส่วน และยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของรัฐบาลไทยในการต่อต้านการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต หรือ online scams โดยการเข้าร่วมของผู้แทนจากหลายภูมิภาคทั่วโลกในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า “อาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ไม่ใช่เพียงปัญหาในระดับภูมิภาคอีกต่อไป หากแต่เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องเผชิญร่วมกัน” และการรวมตัวกันของนานาประเทศในครั้งนี้ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการทำงานอย่างเป็นเอกภาพเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประสบการณ์จากการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปคที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำหลายประเทศได้หยิบยกประเด็นปัญหาอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตขึ้นมาหารืออย่างต่อเนื่อง โดยเห็นพ้องกันว่า ไม่ว่าประเทศจะอยู่ในภูมิภาคใด หรือมีระดับการพัฒนาอย่างไร ประชาชนล้วนตกเป็นเป้าหมายของเครือข่ายอาชญากรรมที่อาศัยช่องว่างของระบบกฎหมายในการแสวงหาประโยชน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงทั้งต่อมนุษย์และระบบเศรษฐกิจโลก
“ปัญหาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางร่วมกันของประชาคมโลก ซึ่งไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง จึงจำเป็นต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมืองที่เข้มแข็งและความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตอย่างจริงจังของรัฐบาล โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญสูงสุดของรัฐบาลและเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งได้ดำเนินมาตรการเชิงรุก อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบังคับใช้กฎหมาย การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะทางและศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงโดยเฉพาะ รวมถึงการยกระดับการประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ เพื่อขจัดเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ดำเนินการอยู่ในอาณาเขตของประเทศไทย
บทเรียนสำคัญจากการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ คือ การดำเนินการในระดับชาติที่เข้มแข็งจำเป็นต้องควบคู่ไปกับความร่วมมือในระดับนานาชาติ เนื่องจากเครือข่ายอาชญากรสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามพรมแดน เคลื่อนย้ายเงินได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที และปรับตัวได้เร็วกว่าระบบในประเทศ ดังนั้น การตอบสนองของประชาคมโลกจึงจำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด มีความชาญฉลาด และมีความมุ่งมั่นในระดับเดียวกัน
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาคมโลกจะต้องยกระดับการหารือไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนข่าวกรองและข้อมูล การยกระดับการบังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดน และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต พร้อมระบุว่า การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต และ “แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ (Bangkok Joint Statement)” ที่จะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว
“อาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้นได้จากการขาดความร่วมมือที่เป็นเอกภาพ แต่จะอ่อนแรงลงเมื่อทุกประเทศรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว โดยประเทศไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกประเทศและทุกภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนการหารือในครั้งนี้ให้กลายเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืน และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในระดับโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าวปิดท้าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี