‘บิ๊กเล็ก’ลั่น!เร่งเดินหน้า ปฏิบัติการจน‘กัมพูชา’สิ้นสุดสภาพปฏิปักษ์

‘บิ๊กเล็ก’ลั่น!เร่งเดินหน้า ปฏิบัติการจน‘กัมพูชา’สิ้นสุดสภาพปฏิปักษ์

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.49 น.

"บิ๊กเล็ก"เผยลงพื้นที่ให้กำลังใจทหาร-ประชาชนชายแดน ยอมรับการสูญเสียคาดไว้แล้ว เหตุการรบยืดเยื้อกำลังใกล้เคียงกัน เร่งเดินหน้าปฏิบัติการจนกัมพูชาสิ้นสุดสภาพปฏิปักษ์ กำชับเหล่าทัพดูแล"กำลังพลปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน"ให้สามารถรบได้อย่างต่อเนื่อง เผยการดูแลครอบครัว-ทายาทผู้เสียชีวิต ขอบคุณ"จุฬาฯ"ให้โควตาลูกหลานเข้าเรียน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ไปตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจทหาร รวมถึงประชาชนในพื้นที่ชายแดนเท่าที่จะทำได้ และไม่กระทบต่อการทำงานของกำลังพลที่อยู่แนวหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ส่วนการที่ไปลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) ก็ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแนวหลัง และพูดคุยกับผู้บังคับบัญชา ที่กองกำลังบูรพา


พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า กรณีการกู้ร่างทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ พื้นที่เนิน 350 ปราสาทตาควายนั้น กองทัพต้องการได้ร่างทหารกลับคืนมาโดยเร็ว แต่จะไปเร่งรัดก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้ความ ระมัดระวัง

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นภาพที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น เพราะเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปว่าหากเกิดการสู้รบในรอบนี้สถานการณ์จะหนักกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากการรบที่เร็วและได้เปรียบ หมายความว่าฝ่ายไทยจะต้องมีกำลังมาก แต่ครั้งนี้กำลังทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาใกล้เคียงกัน จึงทำให้การรบยืดเยื้อและสูญเสียมาก ในฐานะที่เคยเป็นเจ้ากรมยุทธการมาก่อนจึงเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสามารถจินตนาการภาพออกว่าเมื่อเกิดการรบขึ้นเมื่อไหร่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการสูญเสีย

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงพยายามแสดงท่าทีให้เกิดการเจรจา แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบรับ แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงวันนี้ก็ต้องเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป เพื่อให้ไปกัมพูชาสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์หรือที่ ทบ.ใช้คำว่าให้กัมพูชาสิ้นสุดสภาพทางทหาร

ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ประจำเดือนธันวาคม 2568 ว่า ที่ประชุมวันนี้มี 3 เรื่องหลัก คือ 1.รับทราบสถานการณ์ไทย - กัมพูชา ซึ่งตนได้เน้นย้ำเรื่องการดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ทั้งในการส่งกำลังอาหาร กระสุน และอาวุธต่างๆ ให้สามารถปฏิบัติการรบได้อย่างต่อเนื่อง และดูแลกำลังพลในส่วนที่เสียชีวิต ดูแลครอบครัว ทายาท ซึ่งตนได้ปวารณากับทางกองทัพไว้ว่าในกรณีที่มีการพระราชทานเพลิงศพในพื้นที่ภาคกลาง ตนจะไปเป็นประธานให้เพื่อเป็นเกียรติแก่กำลังพลที่เสียชีวิตและครอบครัว

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า 2.กระทรวงกลาโหม กำลังทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนาความรู้ด้านการศึกษา เป้าหมายเพื่อให้กำลังพลทุกระดับและครอบครัว ตั้งแต่พลทหาร นายสิบ นายทหาร และนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา จะมีหลักสูตรต่างๆ ที่หลากหลาย และที่สำคัญทางจุฬาได้ให้โควตาครอบครัวกำลังพลที่ปฏิบัติราชการชายแดนไทย - กัมพูชา ที่เสียชีวิต ก็จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปเรียน ซึ่งต้องขอบคุณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และ 3.ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้ฝากให้เหล่าทัพดูแลประชาชน บริการประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ แต่ก็ทราบดีว่าปัจจุบันกำลังพลส่วนใหญ่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ดังนั้น พื้นที่ใดไม่สามารถทำได้ก็ไม่เป็นไร ให้ประสานหน่วยข้างเคียงดำเนินการ นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ ทั้งของกระทรวงกลาโหม และพื้นที่ที่มีการจัดงานปีใหม่ โดยประสานกับหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด ในการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ได้พักผ่อนในช่วงปีใหม่ด้วยความสวัสดิภาพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่เป็นปกติ หรือเชื่อมโยงกับสถานการณ์ชายแดน ที่อาจจะมีพวกสายลับหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นปกติ แต่ให้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top