สั่งจำคุก20ปี  ‘โจ้ พฤทธิกร’  เด็ก‘ก้าวหน้า’  ทำผิด‘ม.112’

สั่งจำคุก20ปี ‘โจ้ พฤทธิกร’ เด็ก‘ก้าวหน้า’ ทำผิด‘ม.112’

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก20 ปี “โจ้ พฤทธิกร”อดีตทีมงานก้าวหน้า โพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบันกว่า 10 ครั้ง ด้านเจ้าตัวหลบหนี ก่อนออกหมายจับ

เมื่อวันที่ 18ธ.ค.23568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1485/2566 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพฤทธิกร สาระกุล หรือโจ้ อดีตทีมงานก้าวหน้า ในข้อหาหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 65 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูล ข้อความ รูปภาพและตัวอักษร ส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตลงในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ก่อนโพสต์ข้อความดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ 10ครั้ง เป็นการปลุกปั่นทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและจูงใจให้ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ จนอาจนำมาซึ่งความเกลียดชัง โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลที่จำเลยโพสต์นั้นเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานสอบสวนชุดจับกุมเบิกความเป็นพยานสอดคล้องต้องกันว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้องโพสต์ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จึงขอหมายค้นตรวจห้องชุด และพบจำเลย จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของจำเลยพบการเข้าใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์มีการโพสต์ข้อตความดูหมิ่นรวม 10 ครั้ง พร้อมถ่ายภาพยืนยันให้จำเลยว่าเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ดังกล่าว เห็นว่า พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน มีการตรวจพบการข้าถึงบัญชีและโพสต์ข้อความตามฟ้องโดยไม่มีส่วนได้เสียในคดี เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความไปตามจริง การที่มีภาพถ่ายยืนยันและลงลายมือชื่อไว้ในคำสอบสวน เกิดจากความสมัครใจของจำเลย จำเลยเป็นบุคคลที่กระทำความผิดจริง โดยเป็นเจ้าของและคราอบครองคอมพิวเตอร์ที่เข้าบัญชีเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ดังกล่าว การกระทำของจำเลยหาใช่การแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการมุ่งใส่ร้ายถึงพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง อันเป็นการใส่ความอย่างร้ายแรง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การกระทำความผิดโดยโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เป็นการนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เป็นความผิดเกี่ยวกักการนำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นบทลงโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 10 กระทง รวมจำคุก 30 ปี

จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยกระทงและ 2 ปี รวม 10 กระทง รวมจำคุก 20ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยได้หลบหนีประกัน ในชั้นสืบพยาน ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและมีการสืบพยานลับหลังจำเลย ก่อนจะนัดอ่านอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ให้ทนายจำเลยฟัง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top