วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กัญจนา ร่ายยาว แจง ท็อป ซบภูมิใจไทย ดิ้นหนีตายทางการเมือง

กัญจนา ร่ายยาว แจง ท็อป ซบภูมิใจไทย ดิ้นหนีตายทางการเมือง

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 10.36 น.

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa ระบุว่า ปกติ..เฟสของดิฉันจะไม่พูดเรื่องการเมือง…

แต่ครั้งนี้ขอใช้โพสต์นี้ ช่วยน้องชี้แจงเหตุผลที่เขาต้องลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนาไปอยู่พรรคภูมิใจไทย… (เขาไม่ได้ขอให้ดิฉันชี้แจง แต่ดิฉันต้องการชี้แจงเองค่ะ)…


โพสต์นี้จะยาวหน่อยนะคะ แต่มันกลั่นมาจากใจ… บนพื้นฐานของความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบ… การเขียนของดิฉัน จะลำดับเรื่องราวเป็นข้อๆนะคะ…

1. การทำงานการเมืองในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า การเป็นพรรคขนาดเล็ก..ทำงานลำบากมาก…

2. ทราบไหมคะว่า ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 ..ท็อปลงในแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรคชาติไทยพัฒนา และเกือบสอบตก…
ท็อปได้เป็นสส.ปัดเศษ..

3. พรรคชาติไทยพัฒนาแม้จะได้สส.เขตทั้ง 5 เขต (ซึ่งก็ต้องขอบคุณคุณคนสุพรรณ ที่ช่วยกรุณาเลือกค่ะ) แต่แม้แต่ช่วงที่พ่อบรรหารยังอยู่..คะแนนพรรคเราก็ไม่ได้อันดับหนึ่ง… ทั้งๆที่พ่อ และพรรค ทำงานเพื่อคนสุพรรณมาเกือบทั้งชีวิตของพ่อ… ยิ่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุด.. คะแนนพรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นที่ 3 ด้วยซํ้า แพ้คะแนนพรรคที่ไม่เคยทำอะไรให้กับจังหวัดสุพรรณเลย…

4. ก็เพราะท็อปและสส.ของพรรคยังต้องการทำงานให้คนสุพรรณ และประเทศชาติโดยรวมอยู่ จึงต้องหาพื้นที่ที่จะสามารถยืนอยู่บนถนนการเมืองต่อไปได้…

5. ซึ่งเมื่อตัดสินใจว่า จะต้องย้ายมาอยู่พรรคใหญ่ พวกเขาต้องเลือกพรรคที่ยึดมั่นในชาติ ศาสน์ กษัตริย์…จึงเลือกมาอยู่พรรคภูมิใจไทย…

6. การลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนามาอยู่พรรคภูมิใจไทย..ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทิ้งพรรคที่พ่อทำมา แต่หมายความตามที่ดิฉันกล่าวแล้วข้างต้นว่า …ถ้ายังอยู่ที่เดิมคงไม่มีพื้นที่ที่จะทำงานการเมืองต่อได้…

7. เหมือนชีวิตของพ่อบรรหาร …แม้พ่อรักสุพรรณแค่ไหน พ่อก็ยังต้องจากสุพรรณมาเพื่อมาทำมาหากินที่กรุงเทพฯ จนมีฐานะมั่นคง แล้วจึงกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน… ถ้าใช้ความคิดว่า..เพราะรักสุพรรณ ต้องอยู่แต่สุพรรณตลอด พ่อคงไม่มีโอกาสเติบโต จนได้ทำงานใหญ่ให้บ้านเกิด และประเทศชาติได้..

8. ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ… สำหรับท็อปและชาวพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ต้องออกมาสู่พรรคใหญ่…

9. ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา…ในอนาคตดิฉันก็จะมารับรักษาการเป็นหัวหน้าพรรค แต่จะไม่มีกิจกรรมใดทางการเมือง แค่เพียงรักษาพรรคไว้..

10. ดิฉันก็ชี้แจงเท่าที่ทำได้…

ยอมรับว่ารุ่นลูก เราไม่เก่งเท่าพ่อ แต่เราสองคนพี่น้องก็ได้พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว…ตัวดิฉันเองนั้น ไม่ได้ชื่นชอบวิถีการเมืองเลย เพราะรู้ดีว่าไม่เหมาะกับนิสัยตัวเอง..ช่วงที่พ่ออยู่ก็แค่ช่วยพ่อ.. สำหรับดิฉัน…การเมืองมีประโยชน์เพียงช่วยให้ดิฉันได้ทำงานช่วยชีวิตสัตว์และคนตัวเล็กตัวน้อยได้มีพลังขึ้น เพราะถ้าเราไม่มีตรงนี้ เวลาไปประสานทางการ …ข้าราชการก็อาจไม่ค่อยฟังเรา ไม่ช่วยงานเรา…แม้สิ่งที่เราขอให้เขาทำ ก็คืองานในความรับผิดชอบของเขาทั้งสิ้น ไม่เคยมีผลประโยชน์ส่วนตัวของเราเองเลย… ที่ดิฉันชี้แจงมา.. ท่านใดเข้าใจ ดิฉันก็ขอบพระคุณ

แต่ดิฉันก็ไม่สามารถก้าวล่วงวิจารณญาณของแต่ละท่านได้ค่ะ.. แค่รู้สึกว่าอยากจะชี้แจงเท่านั้นค่ะ…และไม่อยากได้ยินใครมาพูดอีกว่า..รุ่นลูก ทิ้งพรรคที่พ่อสร้างมา…ถ้าท็อปยุติบทบาททางการเมืองนั่นสิ  ถึงจะเป็นการทิ้งงานที่พ่อทำมา..ไม่สานต่อ…

ขอบพระคุณสำหรับท่านที่อ่านจนจบนะคะ….

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top