'สาทิตย์'ย้ำจุดยืน'อภิสิทธิ์' ประกาศไม่จับมือ'กล้าธรรม'เป็นมติและมีผลผูกพันกับพรรค

'สาทิตย์'ย้ำจุดยืน'อภิสิทธิ์' ประกาศไม่จับมือ'กล้าธรรม'เป็นมติและมีผลผูกพันกับพรรค

วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.26 น.

"รองหัวหน้า ปชป."ย้ำจุดยืน"อภิสิทธิ์" ประกาศไม่จับมือ"กล้าธรรม"เป็นมติและมีผลผูกพันกับพรรค แปลกใจ"ปชน."ไม่กล้าประกาศ ทั้งที่ก่อนหน้าบอกชัดไม่ร่วมงาน"ภท." ยังไม่ตอบพร้อมจับมือกับ"ส้ม"หรือไม่ หลัง"เท้ง"บอกเดินหน้าต่อ ม.112

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม (กธ.) ว่า นี่ถือเป็นจุดยืนทางการเมือง ที่ไม่ใช่เฉพาะของหัวหน้าพรรค และพรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้น แต่เกิดจากการรับฟังเสียงประชาชน ผ่านแคมเปญ "ประเทศไทยไม่ทน" ซึ่งประชาชนบอกว่าไม่สามารถทนกับการเมืองสีเทาและการทุจรติได้ การประกาศจุดยืนเช่นนั้นของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นความกล้า และเมื่อประกาศไปแล้วมีเสียงวิจารณ์ว่าที่สุดแล้วก็เหมือนเดิม ว่าเมื่อหัวหน้าประกาศจุดยืนไปแล้วกรรมการบริหารพรรคก็มีมติอีกทางเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แล้วสุดท้ายหัวหน้าพรรคก็ลาออก


"แต่มาวันนี้นายอภิสิทธิ์ ประกาศในที่ประชุม กก.บห.เองว่าขอให้เป็นมติผูกพัน และในทางข้อบังคับพรรค ถือเป็นการผูกพันไปถึงหลังเลือกตั้ง และเมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์จะอยู่จนครบวาระเพื่อทำการเมืองต่อไป" นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า รู้สึกแปลกใจว่าเมื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรมแล้ว ทำไมพรรคประชาชน (ปชน.) ถึงบอกว่าพูดไม่ได้ อ้างว่ากลัวผิดกฎหมาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยประกาศมาแล้ว จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จึงสงสัยว่าทำไมคราวนี้ถึงประกาศไม่ได้ ดังนั้น เห็นว่าการเมืองควรมีจุดยืนที่ชัดเจน ความตั้งใจของนายอภิสิทธิ์หลังออกจากวงการการเมือง 5 - 6 ปี ซึ่งการเมืองมาถึงจุดตกต่ำ และไม่เห็นด้วยกับการเมืองดีลลับสลับขั้ว ที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นนักการเมืองน้อยลง ถึงขั้นพูดว่าสมการการเมืองช่วงหลัง ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการนั้นเลย แต่ที่แปลกใจมากกว่านั้นทันทีที่ นายอภิสิทธิ์ประกาศออกไป ก็มีการตีความไปหลายทาง เช่น ประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งไม่เกี่ยว เพราะหัวหน้าพรรคติดสินใจเรื่องนี้โดยไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง แต่เป็นการประกาศ จุดยืนว่า "เราไม่เอาทุนเทา" แล้วทำการเมืองสุจริต พร้อมเรียกร้องให้ทุกพรรค มีจุดยืนที่ชัดเจนและยังมีการตีความไปอีกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาพรรคกล้าธรรม แล้ว ไปจับมือกับพรรคประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย (พท.) ถือเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง ที่มุ่งโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และบิดเบือนข้อเท็จจากจุดยืนของหัวหน้าพรรค และเมื่อผูกพันเป็นมติพรรคแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อดูจากกระแสการเมือง เหมือนมีการเตรียมจับมือร่วมรัฐบาลกันไว้ล่วงแล้ว ซึ่งทุกพรรคที่จะได้อันดับ 1 ก็เหมือนต้องการพรรคกล้าธรรมไปร่วมรัฐบาล เท่ากับเป็นการปิดประตูตายให้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน นายสาทิตย์ กล่าวว่า "ทำการเมือง อย่าดูถูกประชาชน" เชื่อว่าประชาชนต้องการเห็นจุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง ไม่มีใครคิดแทนประชาชนได้ เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นจุดยืนทางการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศ และการที่บอกว่ามีการจับมือกันล่วงหน้า ถือเป็นวิธีคิดที่ไม่มีประชาชนอยู่ในความคิดนั้น จากวันนี้ ถึงวันเลือกตั้งประชาชนจะติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนติดตามดูการดีเบต ดูจุดยืนยทางการเมือง ว่าใครหนีเวทีบ้าง ใครประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ไม่กล้าขึ้นเวทีดีเบต ในประเทศประบอบประชาธิปไตย การดีเบตคือการแสดงจุดยืนทางการเมือง ส่วนผลการเมืองตั้งเป็นอย่างไร ให้รอดูหลังวันเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ทำไมจึงประกาศไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมพรรคเดียว ทั้งที่พรรคอื่นก็ไม่โปร่งใส นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีเป็นซีรีย์ ขอให้ประชาชนติดตาม

เมื่อถามว่า ในอนาคตต้องจับมือกับพรรคประชาชน จะมีจุดยืนต่อมาตรการ 112 อย่างไร เพราะพรรคประชาชนยืนยันจะสานต่อเรื่องนี้ นายสาทิตย์ ย้ำจุดยืนว่า 112 เป็นมาตราที่ยังมีความจำเป็น แต่การบังคับใช้ต้องมีความชัดเจน และโปร่งใส ประเด็นไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่การบังคับใช้

เมื่อถามย้ำว่า ความชัดเจนที่จะจับมือทางการเมืองมีมากน้อยแค่ไหน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องดูจุดยืนทางการเมืองก่อน จะจับมือกับใครยังมีเวลาอีกนาน พร้อมอธิบายด้วยว่า หัวหน้าพรรคประชาชนไม่ได้บอกว่าจะแก้ ม.112 แต่มุ่งเน้นจะนิรโทษกรรมให้ผู้ต้องหาในคดี ม.112 ซึ่งตอนนี้กฎหมายฉบับนี้ถูกแช่แข็งอยู่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะมีมติให้เดินหน้ากฎหมายฉบับนี้หรือไม่

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top