ชำแหละหนังสือ‘เตีย เซ็ยฮา’ พยายาม‘รีเซ็ตเกม’ในช่วงที่เขมรเสียเปรียบ และทางออกของไทย

ชำแหละหนังสือ‘เตีย เซ็ยฮา’ พยายาม‘รีเซ็ตเกม’ในช่วงที่เขมรเสียเปรียบ และทางออกของไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 11.13 น.

ชำแหละหนังสือ‘เตีย เซ็ยฮา’ พยายาม‘รีเซ็ตเกม’ในช่วงที่เขมรเสียเปรียบ และทางออกของไทย

25 ธันวาคม 2568 ปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) และกรรมการสภาดิจิทัล (DCT) แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก กรณี พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กตอบโต้ว่าไม่ได้ขอไทยหยุดยิง แต่สื่อไทยแปลเอกสารผิดพลาด ระบุว่า...


กัมพูชาไม่ได้โกหกที่บอกว่าไม่เคยส่งหนังสือหยุดยิงมาให้กับฝ่ายไทย เพราะหนังสือที่ส่งมาเมื่อวันที่ 24 นั้นไม่ได้ระบุว่าต้องการ “หยุดยิง” แต่เป็นหนังสือ “อยากยิง” มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

1) เป็นเอกสารที่ “ล็อกกรอบ” ไทยไว้ล่วงหน้า

กัมพูชาไม่ได้เขียนมาเพื่อเปิดเจรจา แต่เขียนมาเพื่อ กำหนดเงื่อนไขของการเจรจาแทนไทย

ทั้งรูปแบบการประชุม

ทั้งสถานที่

ทั้งการอ้างมติเดิม

ทั้งกรอบ “ต้องหยุดยิงก่อน”

นี่คือเทคนิคคลาสสิกของรัฐที่รู้ว่าตัวเอง เสียเปรียบในสนามจริง จึงพยายามดึงเกมเข้าสู่สนามเอกสารและกติกา

เมื่อไทย “รับ” กรอบนี้ จะกลายเป็นฝ่ายที่ต้องอธิบาย ต้องปฏิบัติตาม แทนที่จะเป็นฝ่ายตั้งคำถาม

2) การดึง ASEAN และ AOT = ลดน้ำหนักความชอบธรรมของไทย

เอกสารฉบับนี้อ้าง “ประชาคมอาเซียน” และเสนอให้มีผู้สังเกตการณ์จาก AOT เข้ามารับรองกระบวนการ

ฟังดูดี แต่ในเชิงการเมืองคือการ ทำให้เรื่องทวิภาคี กลายเป็นพหุภาคี

ผลคือ

• ไทยถูกทำให้ดูเป็น “คู่ขัดแย้งธรรมดา”

• ไม่ใช่ฝ่ายที่กำลังจัดการปัญหาอาชญากรรม / ความมั่นคงข้ามชาติ

• น้ำหนักการตัดสินใจของไทยถูกเฉลี่ยออกไป

สำหรับ ไทย นี่คือการเสียอำนาจต่อรองโดยไม่จำเป็น

3) เงื่อนไข “หยุดยิง–ถอนกำลัง–กลับสู่สภาพเดิม” = แช่ปัญหาไว้

ข้อความเรื่อง

• การหยุดยิง

• การถอนกำลัง

• การให้พลเรือนกลับสู่สภาพเดิม

ทั้งหมด ไม่แตะต้นตอของปัญหาเลย

ไม่มีคำว่า

• แก๊งสแกมเมอร์

• อาชญากรรมข้ามชาติ

• พื้นที่สีเทา

• เครือข่ายทุนผิดกฎหมาย

แปลตรงตัวคือ

“หยุดก่อน แล้วอย่าถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้น”

ซึ่งเป็นผลดีโดยตรงต่อโครงสร้างอำนาจในกัมพูชา และเสียกับไทยที่พยายามยกระดับประเด็นให้โลกเห็น

4) ภาพลักษณ์ที่เอกสารนี้พยายามสร้าง

ถ้าปล่อยให้เอกสารนี้เดินต่อโดยไม่มีการโต้ตอบ ภาพที่โลกจะเห็นคือ

• กัมพูชา = ฝ่ายเรียกร้องสันติภาพ

• ไทย = ฝ่ายที่ “ต้องถูกขอให้กลับเข้าสู่โต๊ะ”

ทั้งที่ในเชิงข้อเท็จจริง ไทยกำลังจัดการปัญหาความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ใช่สงครามยึดดินแดน

สรุปสั้น ๆ เอกสารนี้ คือความพยายาม “รีเซ็ตเกม” ในจังหวะที่กัมพูชาเสียเปรียบ

ทางออกของไทย คือไม่ปฏิเสธสันติภาพ แต่ต้องไม่ยอมให้สันติภาพกลายเป็นเครื่องมือปกป้องปัญหาเดิม

แก้ไข : โพสต์ครั้งแรกวันที่ 24 หลังจากสื่อไทยลงข่าวว่ากัมพูชาส่งหนังสือหยุดยิง แต่หลังจากนั้นไม่นาน กัมพูชาก็บอกว่าไม่เคยส่งหนังสือหยุดยิง และบอกว่าเป็นข่าวปลอมจากไทย

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top