วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘โฆษกกลาโหม’แจงหนังสือ‘เตีย เซ็ยฮา’ ไม่ระบุชัด‘หยุดยิง’ แต่มีนัย เหตุกัมพูชาแสดงเจตจำนง 22 ธ.ค. แต่ต้องไปถกเวทีจีบีซี
25 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชาหรือ GBC ซึ่งอยู่ในห้วงของการประชุมฝ่ายเลขานุการ ระหว่างไทยและกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี
สำหรับการประชุม เริ่มตั้งแต่วานนี้(24 ธ.ค.68) โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาสืบเนื่องจากได้มีการเสนอประเด็นหารือให้ฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบไปเมื่อวานนี้ ซึ่งให้ฝ่ายกัมพูชาได้หารือเป็นการภายใน และเมื่อเช้านี้ได้กลับมาร่วมประชุมและได้เสนอประเด็นเพิ่มเติมให้กับฝ่ายไทยได้รับไว้พิจารณา ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างพิจารณาประเด็นต่างๆ ในเวลา 15.00 น.วันนี้ จะกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อสรุปประเด็นหารือ จะมีเนื้อหาอะไรกันบ้าง
พลเรือตรี สุรสันต์ ระบุว่า การประชุมจีบีซีในครั้งนี้จะมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)ของทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมประชุมด้วย ถือเป็นนัยสำคัญของการประชุมเพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใส ให้ทาง AOTได้ทราบขั้นตอนการปฏิบัติโดยตลอดเวลา และในช่วงของการประชุมจริง ในวันที่ 27ธันวาคม ก็จะมีคณะAOT มาร่วมสังเกตการณ์ด้วยเช่นเดียวกัน คาดว่าในวันนี้เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ในวันพรุ่งนี้(26ธ.ค.)ก็จะมีการประชุมฝ่ายเลขาจีบีซีต่อไป
พลเรือตรี สุรสันต์ ยังระบุถึงหนังสือกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่ส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมไทย มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับการขอหยุดยิงหรือไม่ ว่า ประเด็นหยุดยิงหรือไม่หยุดยิง ทางฝ่ายกัมพูชาได้ชี้แจงและนำเสนอไปแล้วในช่วงของการประชุม รมว.ต่างประเทศอาเซียนที่ผ่านมา ก็ได้เสนอประเด็นนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว อยากให้หยุดยิง ในเวลา 22.00 น.ของวันที่ 22 ธ.ค. แต่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า จะพูดคุยเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อรายละเอียดยังไม่มี
ล่าสุดจึงมีหนังสือของ พลเอก เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าในตัวหนังสือไม่ได้พูดตรงๆว่าเป็นการหยุดยิง แต่มีนัยรายละเอียดคือฝ่ายกัมพูชามีความประสงค์อยากให้หยุดยิง แต่ต้องไปพูดคุยในเวทีจีบีซี สำหรับตัวหนังสือออกมา22 ธ.ค.ที่ส่งมาทางเดียวไม่ได้มีการหารือรายละเอียดกับฝ่ายไทยก่อนหน้านี้
เมื่อถามว่าในหนังสือ อยากให้ 2 ฝ่ายกลับไปอยู่ก่อนเหตุการณ์ปะทะครั้งที่2 พลเรือตรี สุรสันต์ ยอมรับว่า ในตัวหนังสือมีนัยเช่นนั้น แต่ตนมองว่าทางจีบีซีและฝ่ายเลขากําลังพูดคุย คงต้องรอให้ได้ข้อสรุป และเชื่อว่าน่าจะมีความคืบหน้า ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างรับข้อเสนอของแต่ละฝ่ายเอาไว้เพื่อนำมาพิจารณาในรายละเอียด ถือว่ามีความคืบหน้าที่มีนัยสําคัญ
ส่วนการปะทะที่เบาบางลงนั้นทางเหล่าทัพ ที่รับผิดชอบพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากมีบทเรียนที่ผ่านมา เราเชื่อใจ ไว้ใจกัมพูชา มากไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องระมัดระวังและทางกองทัพพร้อม รวมถึงการปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า หากกัมพูชาไม่รับ 3 ข้อเสนอไทย พลเรือตรี สุรสันต์ กล่าวว่า ไม่อยากจะพูดชักนําหรือชี้นํา คาดหวังว่า ทุกอย่างจะกลับมาสู่สภาวะปกติได้มากที่สุด
พร้อมย้ำว่าความสำเร็จของการประชุมนี้จะเกิดขึ้นได้ อยู่ที่กัมพูชาเนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มสร้างสถานการณ์เหล่านี้ขึ้นมา หากจะยุติให้ได้ความสำเร็จฝ่ายกัมพูชาต้องเป็นฝ่ายยุติ ด้วยกันหยุดยิงความจริงใจในการดำเนินการ วิธีการกระทำและแสดงออกไม่ใช่แค่วาจา โดยเฉพาะเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมในห้วงที่ผ่านมาใช้เวลาสั้นๆ นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก แผนที่วางเอาไว้ โดยวานนี้ที่มีการประชุมครึ่งชั่วโมง ทางฝ่ายกัมพูชามารับประเด็นของฝ่ายไทย กลับไปพิจารณา และเมื่อเช้าก็นำประเด็นตรงนี้มาเสนอร่วมกับประเด็นที่เขาอยากจะเสนอด้วย
ส่วนเรื่องบุคลากรที่มาร่วมก็เป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกันดีอยู่แล้ว ในเรื่องความสัมพันธ์ ประเด็นหารือพูดคุย ไม่มีปัญหา เพียงแต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตกลง เนื้อหาการหารือร่วมกัน ได้ข้อยุติร่วมกันเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง โดยบ่ายสามโมงวันนี้น่าจะมีความคืบหน้า ซึ่งส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียด
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี