วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
"ศิริกัญญา" รับ 9 นโยบาย "สภาผู้บริโภค" เตรียมทุ่มเทสรรพกำลังรับการเลือกตั้ง 8 ก.พ.69นี้ วอนประชนอย่านอนหลับทับสิทธิ์ ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียง “ถ้าอยากได้รัฐบาลที่ตรงปก ไม่จกตา”
25 ธ.ค.68 ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชช.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวภายหลังรับข้อเสนอจาก สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค พร้อมคณะผู้ว่า ทางสำนักงานสภาผู้บริโภคฯ ได้มานำเสนอนหลากหลายนโยบาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งจากภัยออนไลน์ สินค้าด้อยคุณภาพและในเรื่องสิทธิต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับการบริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะ เรื่องของการสาธารณสุข รวมทั้งหมด 9 เรื่องหลัก ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันและเป็นครั้งแรกที่ตนได้เห็นตัวนโยบาย ซึ่งก็น่าสนใจหลายเรื่องและหลายเรื่องก็สอดคล้องกับแนวทางที่พรรคประชาชนได้ดำเนินการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขนส่งสาธารณะ ซึ่งทางพรรคประชาชนสื่อสารมาตลอด เรื่องของการคุ้มครองจากภัยออนไลน์ การบริการด้านสุขภาพ การศึกษาฟรี จึงค่อนข้างเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับทางพรรคประชาชน อาจจะมีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งเราก็จะรับฟังความเห็นของทางสำนักงานสภาผู้บริโภค เพื่อนำไปปรับปรุงในรายละเอียดของนโยบายที่พรรคประชาชนจะนำเสนอกับพี่น้องประชาชน รวมไปถึงจะเอาไปใช้เมื่อเป็นรัฐบาลด้วย
น.ส.สิริกัญญา กล่าวต่อว่า 9 นโบายหลักที่ สภาผู้บริโภคเสนอ ซึ่งแต่ละด้านมีรายละเอียดเยอะมาก ซึ่งทางพรรคก็จะทำรายละเอียดเพิ่มเติมว่าแต่ละเรื่องจะมีแนวทางผลักดันอย่างไรบ้าง รายละเอียด ข้อมูล ข้อเท็จจริง แต่ละเรื่องเป็นอย่างไร ก็คงจะต้องประสานแต่ละท่านที่ดูแลในแต่ละเรื่องเพื่อนำลายละเอียดเพิ่มเติม
รองหัวหน้าพรรคประชน กล่าวถึงนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่พรรคประชาชน ต้องการผลักดันอย่างเร่งด่วนที่สุดหากได้เป็นรัฐบาล จะจัดอันดับความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าด้วย ดังนั้น นโยบายที่เป็นนโยบายเฉพาะหน้าที่พักประชาชนจะแก้ไข คือ การกระตุ้นการ จับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้กลับคืนมา รวมไปถึงกระตุ้นการลงทุนของทางฝั่งเอกชนด้วย เราจะมีนโยบายคล้าย ๆกับคนละครึ่ง แต่เป็นคนละครึ่งบวกกับหวยใบเสร็จด้วย อีกทางหนึ่งก็จะมีการเติมเงินให้กับผู้บริโภค ให้ได้จับจ่ายใช้สอย ในขณะเดียวกันก็ให้แต้มต่อกับทางเอสเอ็มอี ที่เข้ามาอยู่ในระบบ โดยพรรคประชาชนจะทำเรื่องนี้ควบคู่กันไป ถึงแม้ว่าเงินเติมที่เป็นคนละครึ่งหมดไป แต่ว่าหวยใบเสร็จจะยังคงอยู่ไปเรื่อยๆเพื่อจูงใจให้เอสเอ็มอีเข้ามาอยู่ในระบบ และเป็นแต้มต่อสำหรับการที่จะไปดึงดูดยอดขายจากคนที่จะมาซื้อของด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทางพรรคประชาชนจะชูในเรื่องหวยใบเสร็จอยู่ใช่หรือไม่ ?
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทางพรรคประชาชนก็ยังคงผลักเน้นในจุดนี้ รวมไปถึงในเรื่องสวัสดิการต่างๆก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการสำหรับเด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ คนพิการ ต่าง ๆก็คงยังมีตาม คอนเซปเดิม แต่ว่าในระยะกลาง ระยะยาว ทางพรรคประชาชนก็จะมีแผนปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้มีความสมดุลย์ และพร้อมที่จะรับความท้าทายใหม่ๆ ต้องยกระดับทักษะแรงงานไทย ผ่านแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ รวมไปถึงการจะต้องมีเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะต้องเข้ามาพยุง มาทดแทนแทนอุตสาหกรรมเดิมที่อาจจะล้าสมัยไปแล้ว
สำหรับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว หากพรรคประชาชน ได้เป็นรัฐบาล ก็จะมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะสั้น ส่วนระยะยาว เราก็จะมีการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยให้เป็นหน้าที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆที่จะได้รับเงินอุดหนุนสำหรับการสร้างแหล่งท่องเที่ยว และหากปัญหาชายแดนจบลงได้อย่างรวดเร็ว ก็คงจะให้รัฐบาลเปิดแนวลบในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้กำลังสู้จบอย่างเดียว ก็ให้ความสำคัญกับสงครามการสื่อสาร การปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสาร รวมไปถึงการใช้สแกรมป์เมอร์เข้ามาจัดการตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ของฮุนเซนต์ให้หมดไป ไม่เช่นนั้น การรบการประทะหรือปัญหาความขัดแย้งอาจจะไม่จบลงง่าย ๆ และการท่องเที่ยวก็จะยังไม่กลับมา
ถามว่า คาดหวังอย่างไรกับ การเลือกตั้งครั้งนี้ ของพรรคประชาชน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทางพรรคประชาชน ก็ทุ่มเทสรรพกำลังเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะว่าเราก็เชื่อเหลือเกินว่าเราจะยังคงได้ความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเหมือนครั้งที่ผ่านมา และต้องมากขึ้นด้วย หลายคนอาจจะท้อแท้ว่าเลือกพรรคส้มไปแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาลสักที แต่ว่าครั้งนี้เราก็พยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะปิดจุดอ่อน จุดเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้เราไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องขอแรงพี่น้องประชาชน ถ้าอยากเห็นพรรคส้ม พรรคประชาชน ได้เป็นรัฐบาล ได้เป็นรัฐบาลประชาชน ก็ต้องเลือกพวกเราให้เยอะๆ เพื่อให้เรามีเสียงมากพอ และก็ไม่ต้องไปง้อพรรคการเมืองอื่นๆด้วย ดังนั้นก็ต้องขอแรงพี่น้องประชาชน
ถามว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้กับครั้งที่แล้ว คิดว่าครั้งไหนจะยากกว่ากันในการเลือกตั้ง น.ส.สิริกัญญา กล่าวว่า เราก็ว่ายากทั้งคู่ แต่ครั้งนี้ โจทย์เราค่อนข้างซับซ้อนกว่าเดิม เพราะว่าหลังจากสามเลือกตั้ง เราก็ผ่านมาเรียกได้ว่าทุกเหตุการณ์ทุกสถานการณ์แล้ว ก็ทำให้การที่เราจะจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เลยยิ่งยากกว่าเดิม แล้วก็ผ่านการทำเอ็มโอยู และทั้งเอ็มโอเอมา แต่การที่จะมีคำมั่นสัญญาข้อตกลงอะไรกับพรรคการเมืองอื่น ก็ต้องทำอย่างระมัดระวังอย่างยิ่งยั่วไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมอีกด้วย ดังนั้นพรรคประชาชนจึงต้องการคะแนนเสียงที่มากพอไม่อย่างนั้นก็จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้อย่างยากลำบาก รวมไปถึงนโยบายที่เราอยากที่จะนำไปขับเคลื่อน ทำจริง ในฐานะที่เป็นรัฐบาลประชาชน ก็จะทำได้ยากด้วย ดังนั้นก็ต้องทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ทุกเสียงของประชาชนมาสะท้อนหน้าตาของรัฐบาลที่แท้จริง ว่า รัฐบาลไหนชนะอันดับหนึ่งก็ควรจะต้องได้รัฐบาลที่พรรคนั้นเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราก็ขอให้ประชาชนที่คิดแบบเดียวกับเรา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 นี้ อย่านอนหลับทับสิทธิ์ ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันให้เต็มที่ รวมไปถึงออกไปแสดงพลังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งที่เราสามารถกำหนดหน้าตาของรัฐบาลได้ “ถ้าอยากได้รัฐบาลที่ตรงปก ไม่จกตา” ก็ออกไปใช้สิทธิ์ให้มากๆ และก็เลือกพรรคประชาชนเพื่อให้ได้รัฐบาลประชาชนที่ตรงปก

ด้าน สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า นโยบายที่ สภาผู้บริโภค นำมาเสนอแก่พรรคประชาชนในวันนี้ ง่าย ดี และได้คะแนน ซึ่งเป็นนโยบายของสภาผู้บริโภค 9 นโยบาย แบ่งเป็น 3 ข้อหลัก กับ 3 ข้อย่อย โดยข้อแรก ภัยมิจฉาชีพออนไลน์ แบ่งเป็น กองทุนเยียวยาผู้เสียหายจากภัยมิจฉาชีพออนไลน์, ช็อปชัวร์ทุกแพลตฟอร์ม, อวสานแพ็คเกจแพง, ข้อ 2. เมืองที่เป็นธรรม แบ่งเป็น ตั้งกองทุนขนส่งสาธารณะทุกจังหวัด, เปลี่ยนที่ว่างเป็นที่พึ่ง, หยุดสร้างโรงไฟฟ้าเปิดฟรีโซลาร์เซลล์, และข้อ 3 คุณภาพชีวิต แบ่งเป็น เรียนฟรีต้องฟรีจริง, ทุบทิ้ง พ.ร.บ.อาหาร ฉบับไดโนเสาร์, รัฐจ่ายเงินสามกองทุนสุขภาพอย่างเท่าเทียม
สารี กล่าวว่า ในส่วนของสแกรมเมอร์ เราแบ่งเป็น ด้านการเงิน สินค้า บริการ และโทรคมนาคม ซึ่งด้านการเงินนั้นทุกคนทราบดีว่ามีคดีการถูกหลอกถูกโกงทุกวัน ถูกหลอกเอาเงินไป ถูกหลอกให้ลงทุน ถูกหลอกให้ซื้อของ โจรขายของอยู่หลังแพลตฟอร์มซึ่งเกิดขึ้นหลายแสนคดีและคนได้เงินคืนน้อยมาก ดังนั้นจะทำอย่างน้อย ให้ผู้บริโภคหรือคนที่ถูกหลอกได้เงินคืนก่อนที่คดีจะสิ้นสุด เพราะบางคนหมดเงินทั้งก้อนของชีวิตที่เก็บไว้ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สภาผู้บริโภคนำนโยบายนี้มาเสนอให้พรรคประชาชน
ส่วนด้านสินค้า สภาผู้บริโภค ก็อยากเห็นว่า โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม ที่เป็นแพลตฟอร์มขายของ อย่าง Facebook ในประเทศไทย ก็มีโฆษณาติดท็อปเท็นที่ได้สปอนเซอร์ ในขณะที่คนใช้ Facebook ไม่รู้เลยว่าตัวตนอยู่ที่ไหน โจรเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นสภาผู้บริโภค จึงเห็นว่า Facebook ควรที่จะขึ้นทะเบียนเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม คนใช้ Facebook จะได้รู้ว่าใครเป็นผู้ขายของ ไม่ใช่โจรขายของ
ส่วนเรื่องการโทรคมนาคม รัฐจะต้องมีหลักประกันเรื่องการเข้าถึงโทรคมนาคม ไม่ว่าเพื่อการศึกษา เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งเพื่อเอนเตอร์เทน ดังนั้นควรจะมี package พื้นฐานที่คนเข้าถึงได้ไม่ใช่มี package เฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่ทุกคนควรจะได้เข้าถึง package ที่ไม่แพงและสามารถดูหนังฟังเพลงได้ ราคาเป็นมิตรกับผู้บริโภค
ส่วนที่ 2 เรื่องเมืองที่เป็นธรรม สภาผู้บริโภคอยากเห็นการแก้ปัญหาภัยพิบัติ ซึ่งรัฐ มีที่ว่างเปล่าเยอะ ดังนั้นควรเปลี่ยนที่ว่างเปล่าเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยรัฐต้องใช้พื้นที่ว่างเปล่าเป็นพื้นที่รับน้ำ ไม่ใช่มีบ้านประชาชนเป็นที่รับน้ำ ส่วนเรื่อง ขนส่งสาธารณะ สภาผู้บริโภค เสนอให้มี กองทุนขนส่งระดับจังหวัด โดยทำให้ทุกจังหวัดมีขนส่งสาธารณะโดยใช้เงินจากภาษีที่ทุกคนซื้อรถต้องจ่าย จ่ายภาษี ก็ให้เอาเงินภาษีจากส่วนนี้ มาจัดสัดส่วนใช้สำหรับบริการขนส่งสาธารณะจังหวัดให้ชัดเจน ขณะนี้รัฐส่งภาษีไปให้ จังหวัดอาจจะนำไปทำเสากินนารี ไม่ได้นำไปทำเรื่องขนส่งสาธารณะจังหวัด ดังนั้น เราจึงอยากเห็นการจัดสัดส่วนเรื่องการทำขนส่งสาธารณะจังหวัดให้ชัดเจน และก็มีนโยบายเรื่องค่าโดยสารของประชาชนไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ขั้นต่ำ รวมถึงเรื่องพลังงาน ซึ่งขณะนี้เราจ่ายค่าไฟให้การสำรองไฟ เรามีโรงไฟฟ้า เพราะฉะนั้นต้องหยุดการสร้างโรงไฟฟ้าจนกว่าระบบสำรองนี้จะอยู่ที่ 15% จึงจะสร้างโรงไฟฟ้าได้ เพื่อเป็นพลังงานหมุนเวียน และเปิดฟรีให้เอกชนผลิตโซล่าเซล ไม่ควรจำกัดเอกชนจะผลิดโซลาร์เซลล์ ให้ผลิตได้เลย
ส่วนกลุ่มที่ 3 เรื่อง คุณภาพชีวิต เรามีกฎหมายและมีรัฐธรรมนูญรองรับ แต่ทุกคนยังไม่รู้จักสิทธิต่างๆทั้งสิทธิทางการศึกษา เรียนฟรีต้องฟรีจริง กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไม่ควรเป็นการกู้ยืม แต่ควรมาสนับสนุนการเรียนของเด็ก รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับอาหาร ขณะนี้เรายังมีอาหารที่ยังไม่ปลอดภัย ดังนั้นควรทุบทิ้ง บ.ร.บ.อาหารฉบัลไดโนเสา ควรจะทำให้อาหารที่ทุกคนกินแล้วปลอดภัย ทั้งอาหารที่นำเข้าและอาหารที่ผลิตในประเทศ และควรมีเป้าหมายเกี่ยวกับอาหารอินทรีย์ที่เป็นรูปธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดควรจะทำหน้าที่เปิดตลาดให้คนที่ทำเกษตรอินทรีย์มาขายสินค้าเกษตรอินทรี ส่วนเรื่องการบริการสุขภาพ เราอยากเห็นรัฐสนับสนุนทั้ง 3 กองทุนสุขภาพให้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้มีมาตรฐานการรักษาเท่าเทียมกัน
“สภาผู้บริโภคได้นำเสนอนโยบายดังกล่าวนี้ให้กับพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน รวมถึงจะเดินทางไปนำเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ด้วย และวันที่ 7 ม.ค. สภาผู้บริโภค จะจัดเวทีขึ้น ก็เชื่อว่าพรรคประชาชนจะส่งตัวแทนไปร่วม ซึ่งกันมาเสนอนโยบายเก้าข้อกับพรรคประชาชนวันนี้ถือว่าทางพรรคประชาชนมีข้อเสนอที่ตอบรับทั้ง 9 ด้าน ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ตอบรับเรื่องการเรียนฟรี ส่วนพรรคเพื่อไทยก็รับข้อเสนอของสภาผู้บริโภคหลายข้อด้วยกัน ส่วนเรื่องที่สภาผู้บริโภคอยากให้พรรคการเมืองทำเป็นอันดับเร่งด่วนคือเรื่องเกี่ยวกับสแกรมเมอร์ เนื่องจากมีการร้องเรียนความเสียหายเข้ามามากถึง 900 กว่าล้านบาท ดังนั้นเราสภาผู้บริโภคจึงอยากเห็นการจัดการเรื่องนี้ เราอยากเห็นการจัดการโจรที่ขายของ ดังนั้น โซเชียลมีเดีย เฟชบุ๊ก ไลน์ ขายของควรขึ้นทะเบียน เพื่อจัดการกับโจรที่ขายของในแพลตฟอร์มของคุณ รวมถึงเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งมีสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเรื่องบริการสุขภาพ ทั้งในส่วนของผู้ประกันตนเอง ของบัตรทอง ของข้าราชการ เรื่องสแกรมเมอร์ ภัยทุจริตออนไลน์ อยากให้ระบบตรวจสอบ ระบบป้องกัน เนื่องจากระบบเหล่านี้ออนแอที่สุด ดังนั้น ธนาคาร และ กสท และ กสทช.ควรมีระบบป้องกันทีดี ทั้งนี้ สภาผู้บริโภค ก็คาดหวังว่าพรรคการเมืองที่เราไปนำเสนอนโยบายจะได้นำนโยบายของเราไปปรับใช้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี