วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กระแสในโซเชียลเกิดขึ้นแทบจะทันที
หลัง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่
และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค
ให้สัมภาษณ์ภายหลังการดีเบตที่ไทยรัฐจัด
คำถามที่ถูกโยนมา นักการเมืองในดวงใจคือใคร
คำตอบคือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
ดร.เอ้ตอบทันที เลือกพิธาทุกครั้ง
เมื่อถูกนำไปเทียบกับนักการเมืองหลายชื่อ
ตั้งแต่ อนุทิน ชาญวีรกูล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ชวน หลีกภัย
ไปจนถึง แพทองธาร ชินวัตร
ทุกคู่เทียบ
คำตอบคือพิธา
ต่อเนื่องเกือบสิบครั้ง
แบบถาม-ตอบที่เน้นความเร็ว
เสียงชื่นชมมี
แต่เสียงตั้งคำถามดังไม่แพ้กัน
เพราะผู้ตอบไม่ใช่ผู้ชมการเมืองทั่วไป
แต่เป็นหัวหน้าพรรค
และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569
คำตอบสั้น ๆ ของ ดร.เอ้
ยากจะแยกออกจากบริบทการหาเสียง
และไม่ได้หยุดอยู่แค่
ชอบพิธาเพราะอะไร
แต่ขยับไปถึงว่า
กำลังส่งสารอะไร
ไปถึงใคร
แนวคิดของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
วิพากษ์บทบาทกองทัพว่า
“ทหารมีไว้ทำไม”
“รบไปผมก็ไม่คิดว่าคุณจะชนะ”
“บางประเทศไม่มีกองทัพ ถ้าผู้นำฉลาดพอ”
และเคย ชูนโยบายแก้ไขมาตรา 112
ซึ่งทำให้พิธาโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
และทำให้พรรคก้าวไกลถูกยุบ
คำพูดและนโยบายเหล่านี้
อาจถูกใจผู้สนับสนุนบางกลุ่ม
โดยเฉพาะคนที่สนับสนุนการวิพากษ์กองทัพ
และบางกลุ่มที่สนับสนุนการแก้ 112
แต่ก็สร้างคำถามและความกังวลในอีกฝั่งของสังคม
สำหรับหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่
ที่กำลังขอคะแนนจากประชาชน
คำถามกลับเกิดขึ้นทันที
ดร.เอ้คิดแบบพิธาไหม?
หรือเพียงใช้ภาพของ “ความใหม่” เพื่อเชื่อมกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางกลุ่ม
ยิ่งมองย้อนกลับไปที่เส้นทางของดร.เอ้
อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร
ในนามพรรคประชาธิปัตย์
ที่มี ชวน หลีกภัย และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นสัญลักษณ์
นักการเมืองกลุ่มนี้
มีวิธีคิดต่อรัฐ
และบทบาทกองทัพ
ต่างจากพิธาอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อถึงจังหวะเลือก
ดร.เอ้กลับข้ามชื่อเหล่านั้นทั้งหมด
แล้วเลือกพิธาเป็นนักการเมืองในดวงใจ
แบบไม่ลังเล
ภาพที่ออกมาจึงชวนตั้งคำถาม
ไม่ใช่เรื่องอารมณ์
แต่เป็นเรื่องยุทธศาสตร์การเมือง
เขายืนอยู่ตรงไหนในสนามเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569
พรรคไทยก้าวใหม่
ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ยังไม่มีฐานเสียงชัดเจน
และต้องแนะนำตัวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก
คำพูดของหัวหน้าพรรค
ไม่ใช่แค่ความเห็นส่วนตัว
แต่คือส่วนหนึ่งของการหาเสียง
ปัญหาไม่ใช่แค่พรรคยังไม่มีฐานเสียง
แต่การประกาศนักการเมืองในดวงใจแบบนี้
ยิ่งชวนตั้งคำถามตรง ๆ จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ว่าดร.เอ้เห็นด้วยกับความคิดแบบพิธาไหม
ทั้งเรื่องบทบาทกองทัพและ นโยบายแก้ไขมาตรา 112
คำพูดที่ฟังดูเท่
อาจได้เสียงปรบมือ
แต่ไม่แปลว่าคะแนนจะตามมา
ในสนามเลือกตั้งจริง
คะแนนเสียงคือคำตอบสุดท้าย
พิธาอาจเป็นนักการเมืองในดวงใจของดร.เอ้
แต่สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนหนึ่ง
คำถามสำคัญคือ
ดร.เอ้คิดแบบพิธาไหม
และคำตอบแบบนี้
กำลังช่วยให้พรรคไทยก้าวใหม่
ได้คะแนนเพิ่มใน 8 กุมภาพันธ์ 2569
หรือกำลังทำให้คะแนนที่ยังไม่เกิด
ค่อย ๆหลุดมือไปเอง
ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี