วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
"พล.อ.ณัฐพล" แถลง ไทยบรรลุเงื่อนไข 3 ประการ กัมพูชา ประกาศหยุดยิงก่อน ย้ำ! มีผล 12.00 น. ห้ามเคลื่อนกำลัง เพิ่มเติม ยั่วยุ เฝ้าระวัง 72 ชม. ผุดสายด่วน รมว.กห.-ผบ.ทสส.2 ชาติ ลั่น! ทหารไทย ไม่สูญเสียเปล่า
27 ธ.ค.68 ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อเวลา 08.50 น. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดน GBC โดยในเวลา 09.30 น. ที่บริเวณ ด่านผ่านแดนถาวร บ้านผักกาดอ.โป่งน้ำร้อน พลเอกเตีย เซียฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา พร้อมคณะกว่า 100คน ได้เดินทางมาถึงสะพานข้ามคลองตะคียน. โดยมี พลโทจุมพต นุรักษเขต เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ในฐานะ เลขานุการ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC พร้อมด้วย ผู้ช่วยทูตทหาร หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรี ให้การต้อนรับ
โดย พล.อ.ณัฐพลและ พลเอกเตีย เซียฮา ได้เข้าประชุมโฟร์อาย (ประชุมลับสองต่อสอง) ที่อาคารชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยออกมาจากห้องประชุมในเวลาประมาณ 10.33 น. ก่อนที่ประธานทั้ง 2 จะเข้าห้องประชุมชั่วคราวที่มีคณะฝ่ายเลขารอยู่ เพื่อลงนามข้อตกลง
ทั้งนี้ ประธานทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม และจับมือให้สื่อมวลชนเก็บภาพ จากนั้นพลเอกเตีย เซียฮา และคณะได้เดินทางกลับทันที ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ.ณัฐพล ถึงบรรยากาศการพูดคุย พล.อ.ณัฐพล พยักหน้าและกล่าวว่า ที่ประชุมมี 2-3 คำถามที่สงสัย พร้อมบอกว่า เดี๋ยวไปแถลงข่าวทีเดียว ที่ โรงแรมชาเทรียม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการลงนามว่า
ที่โรงแรมชาเทรียม จันทบุรี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการลงนามข้อตกลง การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC)ว่า ตลอดช่วงเวลาการปะทะตามแนวชายแดนที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักการที่ชัดเจนและไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือการปกป้องอธิปไตยความปลอดภัยของประชาชนและเกียรติภูมิของประเทศชาติ

ขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่าสถานการณ์ครั้งนี้เริ่มต้นจากการใช้อาวุธของกัมพูชา ซึ่งส่งผล ให้กําลังพลของเราได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพจึงจําเป็นต้องตอบโต้ภายใต้สิทธิ์ในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศและภายใต้หลักการทางทหารสากลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การพิจารณาหยุดยิงนั้นไทยได้กําหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน 3 ประการ เพื่อให้เกิดความสงบอย่างแท้จริงยั่งยืนดังนี้
1. ต้องมีการประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการและจริงใจ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ประกาศไว้ในที่ประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียนว่าจะหยุดยิงตั้งแต่ 22 ธ.ค. เวลา 22.00 น.โดยไม่มีเงื่อนไข แต่ฝ่ายไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าการหยุดยิงที่จะเกิดความยั่งยืนต้องเกิดทั้งสองฝ่ายได้มาพูดคุยกันอย่างจริงใจจึงเป็นที่มาของการประชุมจีบีซี ในครั้งนี้และจัดทําแถลงการณ์ร่วม ระหว่างไทย-กัมพูชาเพื่อเป็นหลักการสําคัญในการแก้ไขปัญหาระหว่างสองประเทศแบบทวิภาคีอย่างแท้จริง
2.การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่องดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงร่วมกําหนดมาตรการสําคัญ ได้แก่ ให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้(27ธ.ค.) และประเด็นที่สําคัญที่สุดให้ทั้งสองฝ่ายยังคงกําลังทหารในพื้นที่ระดับปัจจุบัน โดยต้องไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือเสริมกําลังเพิ่มเติมเข้าหากัน และไม่มีการโจมตีหรือยั่วยุซ้ํา ให้ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์การหยุดยิง 72 ชั่วโมงเพื่อยืนยันว่าการหยุดยิงเกิดขึ้นจริงและมีความต่อเนื่องก็ต่อเมื่อสถานการณ์สงบลงประชาชนจะสามารถกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัยจากนั้นจะมีการปล่อยตัวทหารกัมพูชาทั้ง18นาย ทั้งนี้เป็นไปตามหลักสากลที่กําหนดให้ปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์
นอกจากรายงานผลการปฏิบัติการทางทหารกองทัพสามารถควบคุมภูมิประเทศสำคัญที่กระทบต่อประชาชนตามที่กำหนดไว้แล้ว การเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของทหารไทยหลายนายในครั้งนี้จะต้องไม่สูญเปล่า แต่ขณะเดียวกันเราต้องคำนึงปัจจัยระดับยุทธศาสตร์ด้านอื่นๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ และความชอบธรรมของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศที่สำคัญอย่างยิ่งในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาที่ตระหนักอยู่เสมอ คือชีวิตและเลือดเนื้อของทหารที่ต้องเสียสละเพื่อพิทักษ์ไว้อธิปไตยของชาติ แต่ในฐานะที่ตนเคยเป็นทหารมาก่อน ย่อมรู้ดีว่าทหารทุกนายถือว่าการปกป้องประเทศชาติเป็นหน้าที่และเป็นเกียรติสูงสุด แม้จะต้องเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต
สำหรับกลไกที่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงและการตรวจสอบการปฏิบัติ ได้แก่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT ซึ่งเป็นกลไกตามความร่วมมือของอาเซียนในการรักษาความมั่นคงของภูมิภาค และสำนักงานประสานงานชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเป็นกลไกระดับพื้นที่
ขณะเดียวกันในระดับนโยบายจะมีการสื่อสารโดยตรงผ่านสายด่วนระหว่าง รมว.กลาโหมและผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)ของทั้ง 2 ฝ่ายในกรณีจำเป็น ผู้แทนระดับสูงทั้ง 2 ฝ่ายจะลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน

นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้ทีมสื่อสารทั้ง 2 ประเทศทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องข่าวบิดเบือนและให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าข่าวบิดเบือนข่าวปลอมและข่าวยั่วยุที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายทำให้แก้ไขปัญหาในทุกระดับมีความยาก ขึ้นมาโดยตลอด
3.มีเจตนาตั้งใจสุจริตในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นประเด็นด้านมนุษยธรรมที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจึงเห็นพ้องในแนวทางลดความตึงเครียดและกำหนดกลไกปฏิบัติที่ชัดเจนผ่านคณะทำงานร่วมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมหรือ JTCF เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีระบบปลอดภัยโปร่งใส ทั้งนี้ขอย้ำว่าจะต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้แล้วเสร็จ ทำให้พื้นที่มีความปลอดภัยก่อนที่จะมีการสำรวจและจัดทำหลักเขตในระยะต่อไป
นอกจากเงื่อนไข 3 ประการที่จะทำให้การหยุดยิงเกิดขึ้นได้จริงและต่อเนื่องแล้ว ข้อตกลงฉบับนี้ยังคงรักษาสาระสำคัญตามข้อตกลงทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชาคือการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งจะต้องมีการดําเนินการต่อเนื่องต่อไป
พลเอก ณัฐพล กล่าวย้ําว่า สําหรับประชาชนชาวไทยเข้าใจถึงความรู้สึกโกรธเจ็บปวดและห่วงใยชาติบ้านเมือง รัฐบาลไม่เคยมองข้ามเสียงเหล่านี้ และไม่ได้ประมาทบทเรียนจากความสูญเสียที่ผ่านมา ขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อกําลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ อดทนเสียสละ รวมถึงครอบครัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต การสูญเสียของท่านไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขในรายงาน แต่เป็นรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่จะดูแลเรื่องสิทธิสวัสดิการ เยียวยา การดูแลผู้บาดเจ็บและครอบครัวในระยะยาว รวมถึงการพิจารณาดูแลกําลังพลหลังการรบด้วยความจริงจังต่อเนื่องและเร่งด่วน
ขอยืนยันต่อประชาชนและกําลังพลทุกนายว่า การหยุดยิงในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยสันติวิธีในเวทีทางการทูตเพื่อกลับเข้ามาสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันอีกครั้ง รัฐบาลและกองทัพจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตัดสินใจทุกขั้นตอนบนข้อเท็จจริง โดยยึดถืออธิปไตยศักดิ์ศรีของชาติ ความปลอดภัย และการใช้ชีวิตปกติของประชาชน ขอบคุณทหารทุกนายและประชาชนชาวไทยที่ยืนหยัดเคียงข้างประเทศชาติและกองทัพไทยด้วยความเข้าใจและเข้มแข็งในช่วงเวลาสําคัญของประเทศชาตินี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี