วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘มีส้มไม่มีเทา’หมดสิ้นฤทธิ์เดช
ปชน.หลอนจัด
ผู้สมัครสส.ถูกจับคดีฟอกเงิน
เอี่ยวยาเสพติด2หมื่นล้าน
‘เท้ง’ครวญอ้างเหตุสุดวิสัย
มติพรรคส่ง‘เท่าพิภพ’แทน
บก.ปส.บุกจับเครือข่ายยาเสพติด 22 เป้าหมาย 7 หมายจับ ในพื้นที่ 5 จังหวัด พบหนึ่งใน ผู้ต้องหา เป็นผู้สมัครสส.พรรคประชาชน เอี่ยวคดีบริษัทฟอกเงินยาเสพติด เงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้าน คุมตัวส่งตร.บช.ปส.เจ้าตัวยันบริสุทธิ์-ไม่ได้รับเงิน ยอมรับเป็นกรรมการ1ใน4บริษัทเครือข่าย ขณะที่กก.บห.ปชน.อ้างพลาดตรวจประวัติ เจอหมายจับโผล่ ยันคำเดิม“มีส้ม ไม่มีเทา” หัวหน้า ‘เท้ง’ขอโทษประชาชนชี้เป็นเหตุสุดวิสัย ตรวจสอบประวัติไม่พบเพราะหมายจับเพิ่งออก ย้ำมาตรฐานจริยธรรมสูง สั่งถอนชื่อผู้สมัครสส.ทันที พร้อมเร่งหาคนใหม่สู้ศึกก่อนปิดรับสมัคร31ธ.ค. ‘เท่าพิภพ’อาสาลงชิง โดย มติปชน.ส่ง’เท่าพิภพ’ลงสมัครแทน เตรียมสมัครพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)ได้ปล่อยแถวกำลังพลเปิดปฏิบัติการ Black Mirror TKP ตรวจค้นและทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด 22 เป้าหมาย 7 หมายจับ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.ลพบุรี และ จ.ตรัง โดยได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดปฏิบัติการพิเศษ ‘สยบไพรี’รวมจำนวนกว่า 120 นาย ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดชุดใหญ่ ส่งท้ายปีเก่า 2568 ต้อนรับปีใหม่ 2569 โดยมี พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานให้โอวาทและปล่อยแถวกำลังพล
โดยหนึ่งในจุดที่เข้าค้น คือบริเวณบ้านหรูหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในพื้นที่แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับได้ 2 ราย เป็นสามีชาวไทยและภรรยาชาวลาว พร้อมของกลางเป็นรถยนต์หรู 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เงินสดมูลค่า 1 ล้านบาท อาวุธปืนสั้น 11 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง อาวุธปืนยาว 5 กระบอก และตุ๊กตาหรู 3 ตัว
เปิดโปงบริษัทพัวพันค้ายาเสพติด
พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.)ซึ่งได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเปิดเผยถึงปฏิบัติการดังกล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11ก.พ.ที่ผ่านมา กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดชาวลาวได้จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติดอีกกว่า 7 คดี
ขณะเดียวกันยังพบว่าขบวนการดังกล่าวได้เปิดบริษัทเครือ TKP ซึ่งจดทะเบียนเป็นบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจขนส่ง จำนวน 4 บริษัทแต่ละบริษัทมีกรรมการจดทะเบียนในลักษณะของไขว้กันซึ่งแทบไม่ได้ทำกิจกรรมธุรกิจตามที่ได้จดทะเบียนเอาไว้เลย แต่พบว่าทั้ง 4 บริษัทมีเงินสะพัดหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาทใน 50 บัญชีบริษัท บางบัญชีมีเงินหมุนเวียนสูงสุดถึง 20 ล้านบาท โดยเงินที่หมุนเวียนนั้น พบว่าเป็นเงินที่เชื่อมโยงมาจากขบวนการค้ายาเสพติดและนำมาฟอกเงินอีกที จึงเป็นเหตุทำให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินการสืบสวนสอบสวนและเปิดปฏิบัติการทลายขบวนการยาเสพติดเครือข่ายดังกล่าว 22 จุดใน 5 จังหวัด โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 7หมายจับในข้อหาเกี่ยวกับฟอกเงินและยาเสพติด ซึ่งในจุดบ้านพักย่านแขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชันนี้พบว่าผู้ต้องหาสามีภรรยาคู่นี้เป็นกรรมการบริษัทให้การยอมรับว่า รับจดทะเบียนเปิดบริษัท แต่ไม่สามารถให้การเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทได้ เพราะไม่ได้ดำเนินธุรกิจเลย
หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้สมัคร สส.
ขณะเดียวกันยังพบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ในย่านฝั่งธนบุรี เขต33 เขตบางพลัดและบางกอกน้อย ยกเว้น แขวงศิริราช สังกัดพรรคการเมืองชื่อดังพรรคหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกจนพบว่ามีพยานหลักฐานทั้งเรื่องของเส้นทางการเงินที่รับเงินจากเครือข่ายดังกล่าวเป็นรายเดือนและผู้ต้องหาสามีภรรยายอมรับว่าให้เงินกับนักการเมืองรายนี้ จึงนำมาสู่การเสนอหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ โดยตอนนี้ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถจับกุมผู้สมัคร สส.รายดังกล่าวได้แล้วและกำลังนำตัวเข้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
คุมตัว“บุญฤทธิ์” ส่ง บช.ปส.
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดควบคุมตัว นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต 33 (บางพลัด–บางกอกน้อย ยกเว้นแขวงศิริราช) ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เข้าพิมพ์ลายนิ้วมือและดำเนินการตามขั้นตอน ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด
นายบุญฤทธิ์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนยันตนไม่ได้รับเงินเป็นรายเดือนจากเครือข่ายยาเสพติด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรับรู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ยอมรับว่าตนเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทจำนวน 4 คน ของบริษัทที่ถูกระบุว่าอยู่ในเครือข่ายของผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่ไม่ทราบถึงพฤติการณ์ที่ผิดกฎหมาย และไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ
ทั้งนี้นายบุญฤทธิ์ยังขอโทษพรรคประชาชนรวมถึงประชาชนทุกคน จากกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องทางคดีเดี๋ยว ต้องพูดคุยกันอีกที ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมเผยว่า หลังจากนี้ คงไม่อาจจะลงเล่นการเมืองได้อีกแล้ว
กก.บห.ปชน.ขอโทษประชาชน
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชนในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯแถลงข่าวด่วนว่าเมื่อช่วงเวลา 07.00 น. ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามตารางการหาเสียงช่วงปีใหม่ของ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย จึงได้ทราบว่าบุญฤทธิ์ถูกออกหมายจับเนื่องจากมีชื่อในบริษัทที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน
“ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูงโดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย พรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีบุญฤทธิ์ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลย ในวันที่17 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่พรรคได้ตรวจประวัติผู้สมัครทุกคนเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคจึงไม่ทราบเรื่อง มาทราบเมื่อเช้าตอนที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้สมัครแล้วทันทีที่ทราบเรื่องเมื่อเช้าวันนี้พรรคก็ได้ดำเนินการแจ้งผู้สมัครและแถลงต่อประชาชนว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรายืนยันว่าไม่มีการปกปิดหรือปกป้องใครทั้งสิ้น” นายพิจารณ์ กล่าว
เร่งหาตัวผู้สมัครใหม่-ย้ำมีส้มไม่มีเทา
นายพิจารณ์ ยืนยันว่าพรรคจะต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ ซึ่งสามารถทำกระบวนการได้ทันก่อนหมดเขตรับสมัครในวันที่ 31ธันวาคมนี้ ส่วนในคดีของนายบุญฤทธิ์ เจ้าตัวต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามสิทธิ์ ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง“มีส้มไม่มีเทา”ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง โดยพิจารณ์ยืนยันว่าการที่ตำรวจออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นพอสมควรก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามปกติ
“เท้ง”ยังย้ำพรรคมีจริยธรรมสูง
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท โดยพบความเชื่อมโยงทางบัญชีของ นายบุญฤทธิ์ ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่ากรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างการทำงานของพรรคประชาชน ที่พร้อมยอมรับความจริงและถอนชื่อผู้สมัครออกทันที แม้คดียังไม่ถึงที่สุด เพราะเรายึดมั่นว่าคนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมืองต้องมีมาตรฐานจริยธรรมสูง
“ผมขอแสดงความเสียใจและขอโทษกับประชาชนทุกคนอีกครั้ง ยืนยันว่าเราคัดสรรผู้สมัครอย่างเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนหน้านี้ไม่พบข้อมูลในระบบ เนื่องจากหมายจับเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่การจับกุมเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน” นายณัฐพงษ์กล่าว
มั่นใจคนใหม่ไร้ประวัติด่างพร้อย
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคจะดำเนินการส่งผู้สมัครคนใหม่ลงแทนในเขต 33 อย่างแน่นอน โดยต้องเร่งดำเนินการยื่นสมัครต่อ กกต. ให้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน โดยคนใหม่ที่จะมาแทนต้องเป็นคนที่พรรคมั่นใจว่ามีอุดมการณ์ตรงกันและไม่มีประวัติด่างพร้อย
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อแคมเปญหาเสียง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่กระทบความเชื่อมั่น แต่กลับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า “มีส้มไม่มีเทา” คือการกระทำจริง ไม่ใช่แค่คำพูด การขจัดสีเทาไม่ได้แปลว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเรา “ไม่ปกป้องพวกพ้อง” และจัดการทันทีที่ทราบข่าว พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาชนมีความรับผิดชอบทางการเมืองสูง และได้พิสูจน์แล้วด้วยการถอนตัวผู้สมัครทันที
“เท่าพิภพ”อาสาลงชิงสส.เขต33เอง
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีต สส.กทม. เขตคลองสาน ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ กทม. พรรคประชาชน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด ตนพร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพฯ อีกครั้งในฐานะผู้สมัคร สส. พรรคประชาชน แม้ตนจะประกาศไปแล้วว่า ขอวางมือจากงานการเมือง แต่วันนี้สถานการณ์คับขัน จึงยอมกลับคำพูด เพื่อให้พรรคได้มีผู้สมัครที่ประชาชนพอจะไว้วางใจได้ลงแข่งขันในสนามเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคนกรุงเทพฯ
มติปชน.ส่ง’เท่าพิภพ’ลงชิงแทน
ที่ทำการพรรคประชาชน สมาชิกพรรคประชาชนจังหวัดกรุงเทพฯ ได้ประชุมเพื่อจัดทำไพรแมรี่ตามกฎหมาย เพื่อคัดเลือกผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย แทนผู้สมัครเดิมที่โดนออกหมายจับ โดยผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติรับรองเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. ด้วยคะแนน 88-0 โดยหลังจากนี้จะนำรายชื่อส่งให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.)นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กก.บห.พรรคประชาชนผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งกรุงเทพและน.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชนจะนำผู้สมัครไปยื่นเอกสารการสมัครสส.ที่อาคารกีฬาเวส 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย–ญี่ปุ่น ในเวลา8.00น.จากนั้นเดินทางหาเสียงย่านบางขุนนนท์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี