ลอบยิงทหารสาหัส2

การ์ดคปท.ปัดไม่ได้ลงมือ

ผบ.พล.1รอ.รุดเข้าเยี่ยม

ผบ.ตร.เต้นสั่งล่าคนลั่นไก

เมื่อวันที่ 6เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงทหารบริเวณซอยลิขิต หลังวัดเบญจมบพิตร ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) แขวงและเขตดุสิต กทม.ภายหลังตำรวจ สน.ดุสิต ได้รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบเหตุ โดยพบทหาร ประกอบด้วย จ.ส.อ.ชัยยันต์ เล็กพงษ์ และ ส.ต.ประเสริฐ จันทร์ศรี สังกัด ร.29 พัน 2 ถูกยิงที่หน้าอกขวากระสุนทะลุหลัง ถูกนำส่ง รพ.รามาธิบดี

                ลอบยิงทหารออกตรวจเจ็บ2
                สอบสวน จ.ส.อ.ไพโรจน์ กันทา พยานในที่เกิดเหตุ ให้การว่า ช่วงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับเพื่อนทหารรวม 5 คน ได้แต่งกายนอกเครื่องแบบและใช้จักรยานยนต์ออกลาดตระเวนตามปกติ ไม่มีอาวุธติดตัว โดยผู้บาดเจ็บทั้งสองขับจักรยานยนต์นำหน้า เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนรัวออกมาหลายสิบนัด กระทั่งผู้บาดเจ็บถูกยิงล้มลง ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนศรีอยุธยา ซึ่งจุดดังกล่าวมีบังเกอร์ของการ์ คปท.และยังมีบังเกอร์ของทหาร ที่ วัดเบญจมบพิตร

                พบการ์ดคปท.วิ่งจากบังเกอร์

                “ทันทีที่จักรยานยนต์ล้มลง มีการ์ด คปท.วิ่งออกมาจากแนวบังเกอร์ 2 คน ใช้ปืนจี้ศีรษะเป็นปืนขนาด .38 พวกผมต้องรีบแสดงตัวว่าเป็นทหาร เป็นชุดลาดตระเวนนอกเครื่องแบบ ทำให้การ์ดคนดังกล่าวเก็บอาวุธ ผมก็รีบประสานนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ยืนยันได้ว่าคนที่ยิงนั้นยิงออกมาจากแนวบังเกอร์ของการ์ด คปท.ที่ผ่านมาก็ลาดตระเวนเช่นนี้ทุกคืน แต่ไม่มีอะไรรุนแรง”  จ.ส.อ.ไพโรจน์ กล่าวและว่า บรรดาการ์ด คปท.มักจะรู้จักกันดี แต่เหตุครั้งนี้ ตนจำหน้าคนที่ใช้ปืนจี้ได้อย่างแม่นยำ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคงปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

                อย่างไรก็ดี ทางตำรวจได้เข้ามาสอบถามและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขณะที่ฝ่ายทหารก็กดดันให้ คปท.ส่งตัวคนที่ยิงทหารชุดลาดตระเวน ออกมามอบตัว เพื่อดำเนินคดีต่อไป

                ผบ.ตร.โร่สั่งสอบเหตุยิงทหาร

                ด้าน พ.ต.อ.หญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งตรวจสอบเหตุยิงทหารดังกล่าว พร้อมเก็บรวบรวมวัตถุพยาน รวมทั้งพยานบุคคลและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างรอบคอบ ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ได้กำชับให้ตำรวจใช้ความเป็นกลางและมาตรฐานทางกฎหมายเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม และยังคงจุดตรวจความมั่นคง ป้องกันเหตุแทรกซ้อน

                ทหาร-ตร.เข้าตรวจสอบเหตุ

                ต่อมาเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.ดุสิต พร้อมกำลัง และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐษน ร่วมกับกำลังทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบยิงทหารได้รับบาดเจ็บบนถนนลิขิต โดยพบแจ็กเก็ตหุ้มหัวกระสุนกระจายอยู่กว่า 18 จุด และพบหัวกระสุน ขนาด 11 มม.1 หัว

                พ.ต.อ.ศุภกิจ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นการ์ด คปท.หรือไม่ เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมืด ไม่มีแสงสว่างเพียงพอ จึงไม่สามารถมองเห็นผู้ที่ก่อเหตุได้ และกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งตนได้รายงานข้อมูลไปยัง พล.ต.อ.วรพงษ์ รอง ผบ.ตร.ผู้รับผิดชอบคดีนี้แล้ว

                ปาบึ้มแนวบังเกอร์กลุ่มคปท.

                นอกจากนี้ เวลา 22.30 น.วันที่ 5 เมษายน ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบปาระเบิดไม่ทราบชนิดใส่ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิต แยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลก ใกล้แนวบังเกอร์กลุ่ม คปท.แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ หลังจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบเศษกระดาษจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

                สอบสวนหัวหน้าการ์ด คปท.ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้เฝ้าระวังอยู่หลังบังเกอร์ กระทั่งได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จึงใช้กล้องส่องทางไกลดู พบคนร้าย 4 คน ขับจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดตรงแยกนางเลิ้ง ก่อนลงมือก่อเหตุ และยังมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดใกล้ๆ เมื่อใช้กล้องส่องดู ก็พบคนร้ายเลื่อนกระจกหลังพร้อมแสดงอาวุธปืน ลักษณะข่มขู่ด้วย

                บิ๊กแดงย้ำทหารไม่เลือกปฏิบัติ

                อีกด้านหนึ่ง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยม จ.ส.อ.ชัยยันต์ และ ส.ต.ประเสริฐ ที่ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บขณะออกลาดตระเวนพื้นที่ ว่า อาการของทหารทั้ง 2 นาย ปลอดภัยแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากการเข้าใจผิด ซึ่งมีการแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต ให้ทางตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

                “ผบ.ทบ.สั่งกำชับให้ทหารตรวจเข้มทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มใด เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นกับทหาร 2 นาย จะเห็นได้ว่าทหารไม่ได้ถืออาวุธไปปฏิบัติหน้าที่แต่กลับถูกทำร้ายจะได้หมดข้อกังขาเสียทีว่าทหารไม่ได้เลือกปฏิบัติ เราอยู่ข้างประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพียงแต่ขอให้มีการชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว

                เชื่อกลุ่มนปช.ไม่มีเหตุรุนแรง

                พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังคงเป็นไปอย่างปกติไม่มีเหตุอะไรที่น่าเป็นห่วง แกนนำ นปช.ประกาศว่าจะเดินทางกลับในวันเดียวกันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ชุมนุมก็ไม่ได้มากจึงไม่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ดี จากการตั้งจุดตรวจค้นเพื่อความปลอดภัย ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน กระสุนปืน ระเบิดปิงปอง และมีดดาบจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ไม่หวังดีลักลอบนำเข้าไปในที่ชุมนุม บริเวณถนนอักษะ

                วรพงษ์คุมเข้มผู้ชุมนุมทุกจุด

                ขณะที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.กล่าวประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่ม กปปส.และ กลุ่ม นปช.ว่า การชุมนุมมีทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย สวนลุมพินี สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานผ่านฟ้า แจ้งวัฒนะ และถนนอักษะ โดยมีเหตุใกล้ที่ชุมนุม คปท.ซึ่งทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ได้เร่งพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นพบวิถีมาจากแนวบังเกอร์กลุ่ม คปท.ก็จะมีการขออำนาจศาลนำหมายเข้าไปตรวจค้นต่อไป

                รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุแทรกซ้อนอื่นๆ นั้น มีเสียงประทัดยักษ์ดังขึ้นที่หน้าโรงเรียนราชวินิต ส่วนการตรวจค้นจับกุมที่จุดการชุมนุมถนนอักษะ สามารถจับกุมอาวุธปืนได้ 5 กระบอก และประทันยักษ์ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไว้เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมตลอด 3 วัน และในส่วนของเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีชุมนุมทุกกลุ่มได้ให้ฝ่ายกฎหมายถอดเทปเพื่อตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร

                หน.การ์ดคปท.ปัดยิง2ทหาร

                บ่ายวันเดียวกัน นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท.แถลงชี้แจงกรณีทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ที่ถนนลิขิต ภายหลังมีกระแสข่าวว่าเป็นฝีมือของการ์ด คปท.ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทาง คปท.จะส่งกระเช้าดอกไม้ไปเยี่ยมในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกัน สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น ทหารปะทะกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย แม้ทางทหารอ้างว่าจำหน้าคนร้ายที่เอาปืนจ่อศีรษะได้ว่าเป็นการ์ด คปท.แต่ตนยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของการ์ด คปท.เพราะจุดดังกล่าวอยู่นอกพื้นที่รับผิดชอบ โดย คปท.จะไม่ตอบโต้ใดๆ ข่าวที่ออกมาคงเป็นการเข้าใจผิด

                นายนัสเซอร์ กล่าวว่า ที่ทหารได้แจ้งความเอาผิดไว้ ก็มีการประสานและให้คำอธิบายไปแล้วว่า คปท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งทุกครั้งที่ทหารลาดตระเวนใกล้พื้นที่ คปท.จะมีการประสานกัน โดยทหารก็จะแต่งเครื่องแบบ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมครั้งนี้จึงแต่งกายนอกเครื่องแบบ ขอยืนยันว่า คปท.ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ หากเกิดเหตุรุนแรงที่คาดการณ์ได้ว่าเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุม คปท.จึงมีการตอบโต้ตามสิทธิในการป้องกันตัวทุกรูปแบบ