สัปดาห์ที่แล้วผมเขียนถึงบทบาทของผู้นำที่บ้าอำนาจ Egoสูงอย่างจมไม่ลงของเมาเซตุง ซึ่งหลังจากปฏิวัติประชาชนเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1949 ได้สร้างปัญหามากมาย โดยเฉพาะการริเริ่มปฏิวัติวัฒนธรรมเพื่อรักษาหน้าตัวเองแต่ไม่นึกถึงประชาชนส่วนรวม เมาเซตุงเสียชีวิตในปี ค.ศ.1976 ก็มีผู้นำคนใหม่คือ เติ้ง เสี่ยว ผิง ผงาดขึ้นมาแทนที่
แต่ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมของเติ้ง เสี่ยว ผิงก็เจอปัญหามากมาย เพราะเป็นผู้ที่มีความคิดขัดแย้งกับอนุรักษ์นิยมของเมาเซตุง ซึ่งยังเน้นระบบการต่อสู้ของชนชั้น เศรษฐกิจยังอยู่ในมือของรัฐบาลแบบรวมศูนย์ในช่วงค.ศ. 1966-1976 เติ้ง เสี่ยว ผิง เองก็ถูกกำจัดออกไปจากการเมืองจีน 2 ครั้ง ถูกจำคุกหลายปี
ถ้าไม่มีเติ้ง เสี่ยว ผิง มากู้สถานการณ์ของประเทศจีนไว้ ก็ไม่แน่ใจว่าอนาคตของจีนวันนี้จะเป็นอย่างไร จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่คนไทยและผู้อ่านอาจจะนำมาพิจารณา และเรียนรู้ต่อไป
ภาวะผู้นำของ เติ้ง เสี่ยว ผิง ผมคิดว่ามาจากแนวคิดแบบเน้นความจริง มากกว่าเป็นทฤษฎี ลัทธิของภาวะผู้นำ หรือแนวปรัชญา ถ้าเป็นทฤษฎีของผม เรียกว่า2 R’s คือ Reality ตามความจริง และ Relevance ตรงประเด็น
เมาเซตุง
ของเติ้ง อาจจะใช้คำ Pragmatic คือเน้นความจริงและการนำสู่การปฏิบัติ จึงเป็นที่มาของคำพูดว่า “แมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน” ประเทศจีนภายใต้การนำของเติ้ง จึงเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น โดยใช้นโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ คือกำหนดให้มีทุนนิยมระบบตลาดเสรีให้มีการลงทุนจากต่างประเทศในขณะที่การเมืองยังเป็นระบอบคอมมิวนิสต์อยู่อย่างเดิม ซึ่งถ้าไม่มีความผิดพลาดอย่างมหาศาลของ เมาเซตุง เรื่องบ้าอำนาจ คลั่งลัทธิของตัวเอง จนนำไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมเติ้งเสี่ยวผิงก็อาจจะไม่ได้เกิด และถ้าไม่มีเขา อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศจีนที่มีประชากรกว่าพันล้านคน ต้องการการจ้างงาน และมีความอยู่ดีกินดีของประชาชนชาวจีน ถ้าระบบเศรษฐกิจยังเป็นการบริหารของรัฐแบบรวมศูนย์ จากรัฐบาลกลาง ไม่มีการอนุญาตให้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างเป็นของรัฐหมด ขาดแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการอะไรจะเกิดขึ้น
เติ้ง เสี่ยว ผิง
จากการวิเคราะห์ของผม ความเป็นผู้นำของเติ้ง เสี่ยว ผิง มีคุณลักษณะสำคัญหลายอย่างที่น่าสนใจมาก คือ
1.ผ่านความเจ็บปวดล้มเหลว แล้วเอาประสบการณ์ดังกล่าวมาใช้
2.เป็นผู้นำที่เข้าสู่อำนาจเมื่ออายุ 74 ปี ผ่านประสบการณ์มากมาย ไม่บ้าอำนาจ มีทีมงานที่มีประสบการณ์มากมายมาช่วย ทำงานเป็นทีม เน้นมืออาชีพมากกว่าการเล่นพวก
3.เป็นบุคคลที่สร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้แก่ประเทศจีนมาถึงทุกวันนี้ เมื่อเป็นผู้นำใช้ทุนแห่งความยั่งยืนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ดีที่สุด
4.หนังสือพิมพ์ Economist ยกย่องให้เติ้ง เป็น Stabilizer คือเป็นจักรกลในการสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้จีนมาถึงทุกวันนี้
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มาดูไทย ถ้าไม่มีความล้มเหลวของนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ที่ไม่รู้เรื่อง เป็นหุ่นเชิดให้พี่ชายสร้างปัญหาให้ประเทศ มีนโยบายจำนำข้าวแต่ติดเงินชาวนากว่าแสนล้านบาท ชาวนาจำนำข้าวไปหมดแล้ว ไม่มีเงินจ่ายแถมยังยุบสภาแล้วแต่ไม่ยอมลาออก นายกฯประยุทธ์จึงต้องปฏิวัติ
เป็นแนวทางเดียวกับจีนคือถ้าไม่มีเมาเซตุงก็ไม่มี เติ้ง เสี่ยว ผิง ถ้าไม่มีความล้มเหลวของยิ่งลักษณ์ ก็ไม่มีประยุทธ์มาถึงวันนี้
“ประเทศไทยโชคดีที่มีผู้นำอย่างนายกฯประยุทธ์”
นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี