สรรพสิ่งไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ 100% ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เช่นกันมีจุดอ่อนจุดแข็งข้อดีข้อเสียเหมือนคนทั่วไป แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้นำประเทศคือจะต้องมีภาวะความเป็นผู้นำและมีจุดอ่อนข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด
จุดแข็งที่เด่นชัดที่สุดของ บิ๊กตู่ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือความซื่อสัตย์สุจริตและความตั้งใจจริงใจต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนในความพยายามที่จะปฏิรูปประเทศให้หลุดพ้นจากวังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายที่สร้างความย่อยยับให้ประเทศมานานกว่า 10 ปีอย่างยั่งยืน
แต่จุดแข็งในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของ บิ๊กตู่ จะถูกด้อยค่ามัวหมองลงทันทีหากรัฐมนตรีในรัฐบาลหรือคนใกลชิดแวดล้อม บิ๊กตู่ ส่อพฤติการณ์ทุจริต
ผลงานของรัฐบาลในภาพรวมนั้นหากมองอย่างเป็นธรรมตรงไปตรงมามีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว ซึ่งผลงานที่รัฐบาลยังแก้ไม่ตกที่สำคัญก็คือปัญหาปากท้องของประชาชนระดับฐานรากโดยเฉพาะเกษตรกรที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำซ้ำซากโดยเฉพาะราคาข้าวและยาง ทั้งๆที่รัฐบาลบริหารประเทศมานานกว่า 3 ปีแล้ว รวมทั้งการปฏิรูปประเทศในหลายด้านที่จนบัดนี้ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันโดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ
จุดอ่อนประการหนึ่งของ บิ๊กตู่ คือการไม่เลือกใช้คนที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับงานซึ่งจากคณะรัฐมนตรีชุดแรกมาจนปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่า บิ๊กตู่ เหมือนยังเกรงใจเพื่อนพ้องน้องพี่และต้องการตอบแทนเหล่าทหารตำรวจที่ร่วมเสี่ยงยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 จึงต้องให้รางวัลด้วยเก้าอี้รัฐมนตรีซึ่งพอเข้าใจได้ในการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของอำนาจรัฐในช่วงแรกแต่ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ดังนั้นหลังเวลาผ่านไปพอสมควรแก่เวลาแล้วก็ควรคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองเป็นหลักโดยทยอยดึงรัฐมนตรีมืออาชีพเข้ามาทำงาน เพราะหากคิดให้ดีแล้วหากผลงานการบริหารประเทศเป็นที่ศรัทธาชื่นชมทำให้มหาชนมีความสุขนั่นคือเสถียรภาพความมั่นคงอย่างแท้จริงและยั่งยืนของคสช.และรัฐบาล
ทั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ากระทรวงด้านเศรษฐกิจนั้นเป็นเรื่องที่ทหารไม่ถนัดและเป็นเรื่องที่มีชาติบ้านเมืองและคนทั้งประเทศเป็นเดิมพัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีรัฐมนตรีมืออาชีพตรงกับความรู้ความสามารถและเป็นที่ยอมรับอย่างสูงเข้ามาบริหารโดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของการเปลี่ยนผ่าน
การใช้คนที่ไม่เหมาะสมกับงานผลก็ย้อนกลับมาทำลาย “บิ๊กตู่” เองเพราะหากรัฐมนตรีสร้างผลงานเข้าตามหาชนและมีการประชาสัมพันธ์ผลงานที่ดีก็เท่ากับแบ่งเบาภาระของผู้นำรัฐบาล แต่ที่ผ่านมารัฐมนตรีหลายกระทรวงบริหารงานล้มเหลวและขาดชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนเป้าหมายการถูกวิพากษ์วิจารณ์โจมตีจึงพุ่งมาที่ บิ๊กตู่ ซึ่งแบกรับทุกปัญหาตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบทั้งๆที่ควรเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องแบ่งเบาภาระเพื่อให้ผู้นำประเทศมีเวลาและสมาธิในการคิดและแก้ปัญหาของประเทศในภาพรวม
จุดอ่อนอีกประการหนึ่งของ บิ๊กตู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะนิสัยแบบทหารนั่นคิดอะไรก็โพล่งออกมาอย่างขาดการใช้สติไตร่ตรองให้รอบด้าน อาทิ การพูดเชิงประชดประชันว่าทำไมถึงรังเกียจทหารนักหนา ซึ่งความจริงไม่มีใครรังเกียจทหาร ซ้ำยังไว้วางใจทหารด้วยซ้ำไป แต่หากทหารทำอะไรที่ผิดพลาดหรือมีจุดอ่อนก็ต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุด้วยผลอย่างจริงใจ เพราะผลงานการบริหารกระทรวงด้านเศรษฐกิจของรัฐมนตรีที่มาจากทหารหลายกระทรวงต้องยอมรับว่าไม่เข้าตามหาชนหรือไม่เข้าตาแม้แต่ในสายตา บิ๊กตู่ เอง ไม่อย่างนั้น บิ๊กตู่ คงไม่ใช้มาตรา 44 สั่งเด้งฟ้าผ่าอธิบดีกรมการจัดหางานจนนำไปสู่การลาออกยกทีมของพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน โดยสาเหตุน่าจะมาจากความอืดอาดในการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
อีกจุดอ่อนหนึ่งของ บิ๊กตู่ ก็คือเมื่อมอบหมายงานแล้วขาดการติดตามประเมินผลงานอย่างต่อเนื่องทำให้หลายเรื่องกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้วจากความเสียหายที่เกิดขึ้น อาทิ ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่จนบัดนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่เดินทางกลับประเทศตัวเองแล้วไม่ยอมกลับมาลงทะเบียนทำงานในประเทศไทยทำให้ธุรกิจของไทยเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล หรือปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ
นอกจากนี้ บิ๊กตู่ ยังมีปัญหาในเรื่องการสื่อสารกับประชาชนด้วยคำพูดที่บางครั้งเยิ่นเย้อ ซับซ้อนวกวน เข้าใจยาก หรือตรงเกินไป จนบางเรื่องกลายเป็นจุดอ่อนให้ถูกโจมตีอย่างกรณีการตั้ง 6 คำถามถึงประชาชน
เพราะฉะนั้นการปรับครม.ประยุทธ์ 5 ที่จะมีขึ้นได้แต่หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเปลี่ยนวิธีคิดวิธีการทำงานโดยคำนึงถึงชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคยร่วมยึดอำนาจถือว่าได้รางวัลมาพอสมควรแก่เวลาที่งานเลี้ยงต้องเลิกราแล้ว ทั้งนี้หากไม่เปลี่ยนวิธีคิดวิธีการทำงานขจัดจุดอ่อนตัวเอง ต่อให้ปรับครม.อีกกี่ครั้งก็ยังต้องเจอวังวนปัญหาแบบเดิมๆ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี