เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่กันแล้ว น่าจะเป็นการดี หากได้หยุดนั่งพักสักนิด ลองคิดไตร่ตรอง ทบทวนตนเอง และสังคมรอบตัวเราในรอบปีที่ผ่านมา แล้วลองถามตัวเราเองว่า ปีใหม่นี้เราจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร มีอะไรที่จะต้องทำและมีอะไรที่จะต้องเผชิญ หรือมีอะไรที่จะเป็นสิ่งท้าทายที่จะเข้ามาถึงตัวเราบ้าง ซึ่งเมื่อถามแล้ว ก็น่าจะช่วยให้พบว่า เรื่องราวมันช่างมากมาย บางเรื่องก็ดูสับสน ยากเย็น แล้วก็คิดต่อไปให้ได้ว่า เมื่อเกิดมาแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น ปีนี้จึงต้องแข็งใจ มุ่งหน้าต่อไปอย่างไม่ลดละ เพื่อสร้างชีวิตที่มั่นคงและดียิ่งขึ้น โดยพยายามช่วยกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อความเจริญก้าวหน้า
เมื่อคิดได้แล้ว ก็ยังมีคำถามต่อไปว่า แล้วจะเริ่มต้นขับเคลื่อนชีวิตในปีใหม่นี้ที่ตรงไหนหรือพอจะมองหา “คู่มือ” ชีวิตเล่มใด มาใช้ช่วยเป็นแสงไฟส่องทางได้บ้าง
คงไม่ต้องไปมองหาไกลหรือไปค้นหา ขวนขวายใฝ่หากันใหม่ นั่นก็เพราะเราทุกคนต่างก็นับถือศาสนา โดยทุกศาสนาต่างก็สอนให้ทุกคนเป็นคนดีกันทั้งนั้น นั่นคือเป็นผู้ขยันหมั่นเพียร อยู่ในศีลในธรรม ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและให้มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เกื้อกูลกันตามพละกำลัง หรือขีดความสามารถ และเพียรพยายามอยู่ร่วมกันในสังคมบ้านเมืองนี้มีขื่อมีแป ก็ต้องเคารพกฎหมายกันไปตามนั้นและแต่ละวันก็หาความสงบให้กับตัว โดยตั้งสติพิจารณาตนเอง แล้วตั้งหลักใหม่เพื่อดำเนินชีวิตไปให้ได้อย่างมั่นคง
นอกจากนั้น ชาวไทยเราต่างก็รักเทิดทูน เคารพบูชาล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ที่แม้จะทรงจากเราไปแล้ว แต่ได้ทรงพระราชทานข้อคิด หลักปฏิบัติ และผลงานไว้ให้เราอย่างมากมาย และยังทรงปฏิบัติให้ดู เป็นผลจริงจังจับต้องได้ อีกทั้งเราชาวไทยก็ต้องถวายงานพระองค์ท่านด้วยการทำหน้าที่และความดีงาม ละเว้นความชั่วใดๆทั้งปวง พระองค์ท่านได้ทรงตรัสไว้ว่า ต้องทำชีวิตให้เป็นประโยชน์ ก็คงทรงหมายถึง การกระทำประโยชน์ที่ดีต่อตนและต่อสังคม ชีวิตจักพึงมีคุณค่า และสังคมสงบเจริญก้าวหน้า และในเมื่อเราทุกคนต่างเป็น “ลูกหลาน” ของพระองค์ท่าน แล้วทำไมเราจะทำกันไม่ได้เล่า
พระองค์ท่านก็ทรงกล่าวสอนไว้ โดยเฉพาะเรื่องความพอเพียง หรือความพอตัว พัฒนาตนเอง พัฒนาคุณภาพชีวิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ทีละขั้นตอน ดังนั้นก็อย่าเพิ่งไปเร่งรีบเกินกาล หรือนัยหนึ่งอย่าไปโลภ อย่าไปใจร้อน
โดยทั่วไป เรามักจะพูดเชิงบ่นว่า รายได้ไม่พอกันกับค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องจริง แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง ให้เริ่มต้นที่ว่า ทำอย่างไรให้รายจ่ายสมดุลกับรายได้ที่มีอยู่ก่อนให้ได้ ถ้าคิดอ่านว่าต้องมี ต้องให้มีมากๆ หรือให้มีเท่าเพื่อนๆ หรือเราก็จะทำตนเกินตัวอย่างไม่ลดละไปกันตลอดกาล
วัฒนธรรมการบริโภคนิยม การเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นหรืออยู่กันแบบเกินกำลังตนก็เข้ามาครอบงำตัวเรา แถมยังรัฐบาลที่มักจะส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าการสร้างงานและสร้างรายได้เป็นสำคัญ เป็นลำดับแรกเสียก่อนควบคู่ไปกับการพัฒนาการศึกษา การสาธารณสุข และการจัดหาที่อยู่อาศัยให้เพียงพอและรับภาระได้ (Affordable)ตามระดับรายได้ ความมั่นคงในชีวิตก็เกิดขึ้น แล้วสังคมก็จะมีเสถียรภาพ และความเหลื่อมล้ำก็ลดน้อยลงเป็นลำดับ
ประเด็นก็อยู่ที่ผู้เป็นรัฐบาลประเทศว่า มองประเด็นปัญหาและโอกาสของบ้านเมืองอย่างไร และจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างไร โดยให้สอดคล้องกับพละกำลังด้านการเงิน ขีดความสามารถและความพร้อมทางจิตใจ ความนึกคิดของบุคลากร
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจะไปได้จริงนั้น การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งไม่ใช่ที่เกิดขึ้นจากอำนาจกระบอกปืน และการขู่บังคับ หรือกฎเหล็ก แต่ต้องเป็นเสถียรภาพที่เกิดขึ้นจากการเห็นพ้อง การยอมรับ และการมีความเข้าอกเข้าใจร่วมกันในทิศทางและมาตรการ การเปิดใจกว้างเพื่อให้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ ด้วยข้อมูลที่สมบูรณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง มิใช่การคิดตัดสินใจและกระทำการด้วยผู้คนกระหยิบมือเดียว เสมือนทำตัวเป็นเทพ รู้ไปหมด เก่งไปหมด
ในเมื่ออาสาเข้ามาจัดการบ้านเมืองด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร พร้อมยังให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า จะคืนประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ ซึ่งก็หมายความว่า จะเข้ามาทำกิจทำการอันสำคัญเพื่อบ้านเมืองแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่บัดนี้ดูเสมือนว่า อยากจะอยู่ในอำนาจต่อไป เพื่อความยิ่งใหญ่ของตนเอง และด้วยความคิดว่า เพื่อให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพภายใต้การนำพา กำกับการของพวกตนเองเท่านั้น มิฉะนั้นชาติจะอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่รอดก็อาจเป็นจริงได้หากท่านประสงค์จะอยู่กับอำนาจต่อไป ก็ขอให้กล้าพูดออกมาให้ชัดๆ แล้วช่วยยกแม่น้ำทั้งห้ามายืนยันแล้วเปิดโอกาสให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์แล้วตัดสินใจ
หรือนัยหนึ่งหากไม่ต้องการให้สังคมไทยเป็นเสรีประชาธิปไตยเต็มใบก็โปรดว่ามา แล้วก็ดำเนินการไปพร้อมความรับผิดชอบต่อผลไม่ว่าจะดีหรือร้าย แต่โปรดอย่าอ้างคำว่าประชาธิปไตย แต่ในทางปฏิบัตินั้นกลับตรงกันข้าม มันจะทำให้คนฟังเขาผิดหวัง เหมือนโดนหลอก
การบ้านปีใหม่ 2561 นี้ ก็คือรูปร่างหน้าตาของประเทศไทยว่า จะเสรี หรืออำนาจนิยม แต่ทั้งนี้เราคนไทยทุกคนก็ต้องพัฒนาความเป็นพลเมืองที่ดีต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี