l ค. แนวทางการสร้างและพัฒนาพรรคการเมืองใหม่
ในสังคมเมืองสารขันธ์ ที่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม ขาดคุณภาพ ขาดข้อมูลที่เป็นจริง ฯลฯ เป็นเรื่องยากที่สุด เพราะ“คนมีอุดมคติ รักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง” มีความจำกัด ขาดความพร้อม ฉะนั้นสิ่งที่จะต้องคำนึงและนำมาพิจารณา
1.ผู้นำ ที่มีศักยภาพและความพร้อม (ในระดับหนึ่งที่เป็นไปได้) มีความรู้ ความสามารถประสบการณ์ และมีศักยภาพที่เป็นจริง ในทางการเมืองเก่าและใหม่ ได้แสดงออกถึงความรักชาติรักประชาธิปไตยและสามารถแบกรับสถานการณ์ใหญ่เล็กที่แหลมคมได้
2.เป็นพรรคการเมืองที่รักชาติรักประชาธิปไตยและปกป้องรักษา
การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจักต่อต้านคัดค้านการล้มล้างสถาบันชาติศาสน์กษัตริย์
3.ใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ยึดธรรมนำและการส่งเสริมคนดี คัดค้านคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ
4.มีแนวคิดที่สอดคล้องกับการแก้วิกฤติของสังคมไทย ในระยะผ่าน คือ
-ไม่เอาพรรคการเมืองเก่าที่สร้างวิกฤติ ต่อต้านไม่ให้มีการรวมกันตั้งรัฐบาลของพรรคเก่า
-การสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ และผู้นำที่มีศักยภาพ ได้รับการยอมรับจากประชาชน
5.ได้รับการยอมรับและหนุนเสริมจากมวลประชามหาชนเรือนล้าน ทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต
6.ทุนที่มากพอ ทั้งจากตนเองและกลุ่ม และการสนับสนุนจากกลุ่มองค์กรธุรกิจและประชาชนอาชีพต่างๆ
7.ทีมงานที่มีศักยภาพในทุกด้าน เอาจริง ทุ่มเทใจเต็มร้อยในภารกิจเพื่อบ้านเมืองครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยเฉพาะ “การมียุทธศาสตร์ยุทธวิธี ขั้นตอน จังหวะก้าว” ในการเคลื่อนไหวที่ให้ผลจริง ที่สำคัญ คือ “การวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง” และการร่วมมือกับพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ฯลฯ และการมีแนวทาง นโยบาย ในการปฏิรูปการเมือง พรรคการเมือง ข้าราชการประจำ กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายความเป็นธรรม และการพัฒนาคุณภาพคนฯ และที่สำคัญ คือ การปฏิรูปสื่อ ซึ่งมีไม่น้อย ที่ตกเป็นเครื่องมือของธุรกิจการเมือง
8.มีงานแนวร่วมสร้างชาติสร้างประชาธิปไตยที่ดี กับกลุ่มองค์กรพรรคการเมืองฯที่เคารพประชาชนไทยทั้งในและต่างประเทศ (เพราะพรรคการเมืองใหญ่เก่า มักจะให้ข้อมูลเท็จ กับองค์กรระหว่างประเทศ)
9.การประสาน ร่วมมือกับพรรคการเมือง ข้าราชการ กองทัพ ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน ฯลฯ
10.ต้องมีการประเมินและสรุปบทเรียนในทุกช่วง เพราะสถานการณ์การเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ที่อาจจะคาดไม่ถึง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
-พรรคการเมืองเก่าเดิมที่สร้างวิกฤติใช้ทุน สื่อ ประชานิยมฯจะกลับมาสร้างวิกฤติที่เลวร้ายกว่าเดิม
-พรรคการเมืองใหม่ ที่รักชาติรักประชาธิปไตย รักประชาชนและประเทศชาติ เป็นทางออกของสังคมไทย
l ง. เงื่อนไขของสังคมในปัจจุบัน เป็นคุณต่อการสร้างและพัฒนา “การเมืองใหม่”
1.เหตุการณ์วิกฤติที่ก่อโดยพรรคการเมืองเก่า นักการเมือง มวลชนและสื่อของเขา ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ปี 2553 และการบุกเข้าทำลายการประชุมอาเซียน+ 6 ที่พัทยา ปี 2552 การใช้อำนาจมิชอบ ทั้งทางฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ จนถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคของเขาไปถึง 2 ครั้ง
สรุปคือ ศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองฯได้มีมติ ความผิดของอดีตนายกฯพี่ชาย และนายกฯน้องสาว ถึงการโกงและการใช้อำนาจมิชอบธรรมฯ แต่กลับไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม โดยหนีไปต่างประเทศ อีกทั้ง สส.ส่วนใหญ่ของพรรคของเขา มีคดีใหญ่ที่มีแนวโน้มมีความผิด ที่อาจส่งผลต่อการเลือกตั้งปี 2561 ซึ่งการที่มวลมหาประชาชนเรือนล้านออกมาต่อต้านฯจะมีผลทำให้ “พรรคนี้แย่ลง” ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือ “จะหลอกลวงประชาชน” มิได้เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะ “ประชาชน” มิได้โง่ และรู้ทัน
2.รัฐธรรมนูญใหม่ เป็นรัฐธรรมนูญที่ต้านโกง และมีการปรับกระบวนในหลายประเด็นที่เป็นคุณต่อชาติ ซึ่งแม้ว่า “จะถูกนักการเมืองเก่าออกมาบิดเบือน” แต่ยิ่งทำให้ประชาชนรู้จักพรรคการเมืองนั้นๆ ดีขึ้นเพราะ “ประชามหาชนที่ไปลงมติรับรัฐธรรมนูญใหม่อย่างท่วมท้น ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ออกมาคัดค้าน” และตามหลักการของนักการเมืองที่ดี เมื่อพรรคของตนคัดค้านรัฐธรรมนูญที่ประชาชนลงประชามติเห็นด้วย ก็ไม่ควรจะลงสมัครเลือกตั้ง, แต่หากยังดื้อลงสมัคร ก็จะได้รับการปฏิเสธ และไม่ยอมรับจากมหาชน
3.รัฐบาลคสช.แม้มาจากรัฐประหาร แต่ก็ได้พิสูจน์ถึงการมีเจตนาที่ออกมาปกป้องประชาชนและประเทศ อีกทั้งผลงานที่ออกมาในรอบ 3 ปีกว่า ได้รับการยอมรับจากประชาชนกว่า 70% ทุกครั้งในการทำโพลล์สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลเลือกตั้ง และสร้างผลงานใหม่ ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ จนเป็นที่ยอมรับจากประชาชนไทยและต่างประเทศ แม้ว่า “นักการเมืองจากพรรคการเมืองเก่าบางส่วน” ที่ออกมาบิดเบือนกล่าวหาว่า “รัฐบาลไม่มีผลงาน เป็นรัฐบาลขาลง” ซึ่งการใช้สื่อในเครือข่ายและสส.ออกมาพูดรายวัน ซึ่งอาจจะมีคนบางส่วนหลงเชื่อแต่คนส่วนใหญ่ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงผลงานของรัฐบาล ผู้มีความรู้สามารถแยกแยะได้ ระหว่างผลงานที่เกิดขึ้น และปัญหาพื้นฐานของสังคมที่เกิดจากสังคมเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะต้องใช้เวลา และรัฐบาลที่ดี ที่มิใช่รัฐบาลเก่าที่มาจากการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ที่สร้างวิกฤติไว้
4.สำหรับผู้นำที่จะมาสร้างพรรคการเมืองใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาตินั้น ต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ในการนำมวลชนเรือนล้านออกมาต่อต้านรัฐบาลนอมินี จนต้องหมดอำนาจไป และการออกมาสนับสนุนรัฐบาล คสช. แทนการคัดค้านเหมือนพรรคการเมืองเก่า เป็นเรื่องที่ดี ถูกต้อง ทำให้รัฐบาลมีโอกาสในการทำงาน แก้วิกฤติของบ้านเมือง ที่เกิดจากนักการเมืองเก่าที่ทิ้งปัญหาไว้ ซึ่งแม้จะมีพรรคการเมืองเก่าหรือกลุ่มคนบางส่วน ที่ออกมาวิจารณ์ว่า “ผู้นำไม่มีผลงาน” เพื่อดิสเครดิต แต่ไม่ได้ผล สำหรับมวลมหาประชาชนเรือนล้านที่ยังคงเชื่อมั่นในผู้นำและคณะของเขาที่ทำเพื่อบ้านเมือง แทนที่จะหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้าส่วนตนเหมือนนักการเมืองเก่า กลับคิดเพื่ออนาคต “บ้านเมืองมาก่อน” ผู้นำเช่นนี้ เป็นบุคคลที่ประชาชนต้องการ ให้มาสร้างพรรคการเมืองใหม่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ
และมวลมหาประชาชนที่ได้เข้าร่วมในการแสดงความรักชาติศาสน์กษัตริย์และรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา จะเดินแถวเข้ามาร่วมกับพรรคการเมืองใหม่แนวมวลชน ทั้งการเป็นสมาชิก การลงสมัครเลือกตั้ง และการสนับสนุนหนุนช่วย เพื่อทั้งมิให้ “ประเทศและประชาชนตกอยู่ในภาวะวิกฤติอันเลวร้ายอีก” และการร่วมส่วนในการ “ปฏิรูปสังคม” ในทุกด้าน ในเวทีการเมืองทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร เพื่อเข้าไปร่วมกับ “ผู้นำที่เหมาะสมและพรรคการเมืองใหม่”ในการแก้ไขวิกฤติของบ้านเมืองได้จริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี