หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn เฮ้อ!!! การเมืองในยุค “ขาลง” ไม่ว่าจะรัฐบาลเลือกตั้งหรือรัฐบาลแต่งตั้ง ล้วนมีสภาพไม่แตกต่างกัน ใครที่เคยอ่านประวัติศาสตร์การเมืองไทยน่าจะทราบดี “เสือไท” ไม่แน่ใจว่า บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้อ่านประวัติศาสตร์ท่อนนี้หรือไม่ ถ้าว่ากันตามลักษณะนิสัย ภูมิศาสตร์ของไทย ความอดทนของคนไทยต่อการเมืองมีเพียง 2-3 ปีเท่านั้นเอง...
nn ตรงๆ เลยคือว่า ความอดทนต่อการเมืองของคนไทย หากในยุครัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ปีแรกจะให้โอกาสทำตามนโยบายที่หาเสียงและแถลง ปีที่สองจะรอว่าผลงานจะออกมาหรือไม่ พอปีที่สามคือปีประเมินผลงาน ถ้าไม่มีผลงานคือ “ไล่” จะไม่ถึง 4 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และนายกฯมาจากสส.ที่บริหารประเทศได้ครบ 4 ปี ทั้งรัฐบาลและสภา มีอันต้องไปก่อนวาระทั้งนั้น คือถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ป่านนี้โดนไล่ตะเพิดไปแล้ว...
nn ทีนี้มาถึงรัฐบาล บิ๊กตู่ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สถานการณ์ที่มันเดินช้าเพราะรัฐบาลมีอำนาจม.44 อยู่ในมือ และมีคำสั่งมีประกาศคสช.อีกนับร้อยฉบับ เป็น “เกราะ” คุ้มกันรัฐบาล บรรดาพวกตรงข้ามก็ทำตัวเหมือน “คนตาย” ไม่เคลื่อนไหวไม่แสดงออก หลอกให้ตายใจ ความจริงอยากจะออกมาไล่รัฐบาลนานแล้ว แต่ติดด้วย “กับดัก”ของคสช.ที่วางเอาไว้ แค่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน กับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ไม่มีใครกล้าขยับ นี่ไม่นับม.116 ที่มีหลายคนเข้าซังเตไปแล้ว....
nn ฉะนั้น “อาการ” เหล่านี้ บรรดานักการเมืองตรงข้ามเขาเก็บไว้ เมื่อถึงเวลาจะต้อง “เช็คบิล” กัน แล้ววันเวลาก็มาถึงเมื่อ บิ๊กตู่ ทนเสียงเรียกร้องไม่ไหวว่าให้ประกาศตัวให้ชัดว่าจะเป็นนายกฯต่อ จะเล่นการเมือง จะลงเลือกตั้งหรือไม่ เสียงจากปากนักข่าวเหล่านี้ล้วนแต่เป็น “กับดัก” ที่ถูกล่อให้ “ตายใจ” แม้น บิ๊กตู่ จะใจแข็งรู้ทันเล่ห์เพทุบายของฝ่ายตรงข้าม แต่สุดท้ายก็ต้องประกาศว่า “ผมเป็นนักการเมือง” จนได้ เท่านั้นแหละ “ขาประจำ” ทั้งหลายก็พร้อมใจกันถล่ม “บิ๊กตู่” ทันที...
nn การประกาศเป็น “นักการเมือง” ของ “บิ๊กตู่” ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลดความเกรงใจเกรงกลัวลง เพราะถือว่ามาอยู่ในสถานะเดียวกันแล้ว ทำให้เขากล้าวิพากษ์วิจารณ์บิ๊กตู่และคสช.มากขึ้น ทั้งผ่านปากนักการเมืองโดยตรงและผ่านเครือข่ายสื่อของฝ่ายตรงข้าม จึงทำให้สถานะของ บิ๊กตู่ ตกที่นั่งลำบาก ครั้นจะใช้อำนาจมากเหมือนเดิมก็ไม่ได้ และยิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้งเท่าไหร่ บรรดานักการเมืองและข้าราชการทั้งหลาย ก็เข้าเกียร์ “ว่าง” รอว่าหลังเลือกตั้งใครจะมาเป็นนายกฯ จะเป็น “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กไหน” ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน เลยทำให้ “งาน” ของรัฐบาลอยู่ในภาวะชะงักงันไปด้วย นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ “บิ๊กตู่” ต้องงัดโครงการไทยนิยมยั่งยืน ออกมาในช่วงนี้จะบอกว่าหาเสียงก็ไม่เชิง แต่ลึกๆ คือต้องการสร้างผลงานและต้องการสั่งให้ข้าราชการไม่ใส่ “เกียร์ว่าง” เผลอๆ อาจได้กลับมาอีก...
nn ภาวะ “ขาลง” แน่นอนว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่เคยเห็นเคยเจอ แต่นักการเมืองที่ผ่านสนามเลือกตั้งมาอย่างโชกโชนเขามองเหตุการณ์ล่วงหน้าออก ฉะนั้น 1 ปีที่เหลือ จึงเป็น 1 ปีที่ยากลำบากของ “บิ๊กตู่” ไม่ว่าจะเลือกตั้งช้าหรือเลือกตั้งเร็ว ก็ล้วนแต่ตกเป็น “จำเลย” ไปแล้ว...
nn ส่วนประเด็น “นิด้าโพล” นั้น “เสือไท” ได้ข่าววงในมาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของ “นิด้า” เอง ไม่มี “ใบสั่ง” จากใครทั้งสิ้น เป็นแนวทางการบริหารของอธิการบดีนิด้า ที่ขอ “เซ็นเซอร์โพลล์” ที่เกี่ยวกับการเมืองก่อนจะมีการเผยแพร่ นี่จึงเป็นเหตุที่สั่งระงับการเผยแพร่ “โพลล์นาฬิกา” เพราะอธิการฯหวั่นจะไปกระทบกับการเมืองกับผู้มีอำนาจ ส่วนประเด็นที่ว่าเป็นการแทรกแซงเสรีภาพทางวิชาการหรือไม่ ให้เป็นเรื่องภายในที่ “นิด้า” จะไปว่ากันเอง แต่ประทานโทษ พอ “อธิการ” ทำแบบนี้ คนที่โดนถ
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี