อำนาจรัฐและอำนาจทุกชนิดทำให้คนผู้ไม่เคยมีอำนาจมาก่อนกลายเป็นคนบ้าและเสพติดอำนาจ เพราะคนที่ไม่เคยมีอำนาจมาก่อน เมื่อได้ลิ้มรสชาติของอำนาจแล้ว ก็จะหลงตัวลืมตน คิดว่าตนเองเท่านั้นคือผู้มีอำนาจสูงสุด จึงทำทุกหนทางเพื่อไขว่คว้ายึดกุมอำนาจไว้ให้นานที่สุด คนบ้าและเสพติดอำนาจมักเชื่อเอาเองว่า อำนาจทำให้ตนแสวงหาผลประโยชน์ได้มากมายมหาศาล ตามกระแสความโลภ และความตะกละตะกลามของตน
คนบางคนบ้าอำนาจรัฐจนไร้ขอบเขต บ้าเสียจนลืมคิดไปว่าอำนาจรัฐมีวันสิ้นสุด คนบ้าชนิดนี้จึงเสพกินอำนาจรัฐอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความหิวกระหาย และความตะกละตะกลาม เพราะเข้าใจเอาเองว่าอำนาจรัฐที่ตนยึดกุมไว้นั้นจะทำให้ผู้คนอื่นๆ บนแผ่นดินยอมก้มหัวศิโรราบให้โดยไม่มีเงื่อนไข
อำนาจรัฐเป็นของสำคัญและจำเป็นสำหรับการเมืองการปกครองก็จริง แต่ทว่าอำนาจรัฐก็สามารถกลืนกินและทำลายล้างผู้ใช้อำนาจรัฐที่หลงตัวลืมตนได้เสมอ แม้ผู้มีอำนาจรัฐทุกคนจะซาบซึ้งในสัจพจน์ข้อนี้เป็นอย่างดี แต่ก็นับเป็นเรื่องน่าสมเพชอย่างที่สุด ที่เรายังคงเห็นเสมอๆ ว่าผู้มีอำนาจรัฐจำนวนไม่น้อยมีสภาพเป็นคนบ้าอำนาจ จนกระทั่งวันหนึ่งก็ถูกอำนาจรัฐทำลายตนเองลงอย่างย่อยยับ
อำนาจรัฐคือเครื่องมือชนิดหนึ่งในการปกครองบ้านเมือง ซึ่งโดยตัวของมันเองนั้น อำนาจรัฐไม่มีความดีหรือความเลวในตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้อำนาจรัฐจะใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ หรือใช้กอบโกยผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อตนเอง
ผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจโดยสุจริต จะไม่อวดอ้างตนเองว่าตนเองคือผู้เสียสละสูงสุด และไม่อ้างว่าตนเองคือผู้ทำงานหนักกว่าใครๆ บนแผ่นดิน แล้วก็ไม่แสดงอาการหรือวาจายกตนข่มท่าน อีกทั้งจะไม่ทวงบุญคุณกับประชาชนว่าตนเองทำเพื่อบ้านเพื่อเมือง หรือเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อบ้านเมืองมากกว่าใครๆ
ผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจโดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลจะอุทิศตนเพื่อผลประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง แล้วก็จะนึกขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมไม้ร่วมมือช่วยกันอุทิศตนเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม
ผู้มีอำนาจรัฐที่เน้นในหลักธรรมาภิบาลจะแตกต่างกับผู้มีอำนาจรัฐที่ตะกละตะกลามหลายประการ แต่ประการหนึ่ง ที่วิญญูชนสามารถประจักษ์ได้คือ ผู้นำรัฐตะกละตะกลามมักจะอวดอ้างว่าตนเองทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ บนแผ่นดิน เหตุที่คนบ้าอำนาจและเสพอำนาจไม่รู้จักอิ่มชอบอ้างเช่นนั้น ก็เพราะคำอ้างดังกล่าวทำให้ผู้อ้างรู้สึกเอาเองว่าตนคือคนสำคัญของแผ่นดิน แผ่นดินจะล่มสลายหากปราศจากตนเอง
ส่วนผู้มีอำนาจรัฐที่ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลจะสำเหนียกตลอดเวลาว่า ตนเองเป็นเพียงฟันเฟืองตัวหนึ่งของสังคม แล้วไม่เคยลืมว่าในสังคมยังมีฟันเฟืองตัวอื่นๆ อีกมากมายมหาศาลจนนับไม่ถ้วน โดยฟันเฟืองทุกตัวต่างช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง หากฟันเฟืองตัวหนึ่งไม่สามารถเดินไปตามปกติได้ ความสำเร็จใดๆ ก็จะไม่มีวันบังเกิดขึ้น ผู้มีอำนาจรัฐชนิดที่กำลังกล่าวถึงนี้จะถ่อมตัว และแสดงความเคารพประชาชนด้วยใจจริง แล้วจะไม่มีวันประกาศแบบวัวลืมตีนว่าตนเองคือรัฏฐาธิปัตย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี