• ผู้นำประชาชนที่แท้จริง ต้องจับหลักให้มั่น แสวงหาข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง ต้องลงพื้นที่ ตรวจสอบถูกผิดจึงจักเห็นภาพรวม ไม่มองเฉพาะเรื่องเฉพาะหน้า จึงจะก้าวไปข้างหน้าสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ผู้เฒ่าประสบการณ์สูงทางการเมืองบอกผ่าน ให้พวกที่เต้นแร้งเต้นกาฯให้มองความจริง
1.ไม่มี “เขา”, “มัน” ไม่ยอมลงแน่ และไม่มีใครเอาอยู่ ความเสียหายจะใหญ่หลวงยิ่ง
“มัน” คือ รัฐบาลนอมินีทุนสามานย์ ที่มีอำนาจรัฐ ทุน นักการเมือง นักวิชาการ มวลชน สื่อ ฯลฯ ซึ่งมีพลังมหาศาล อีกทั้งยังเล่นทุกรูปแบบ“ในกติกา” ที่ได้เปรียบ และ “นอกกติกา” ที่เสียเปรียบ
“เขา 1” คือ กปปส.-คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่นำโดยกำนันสุเทพและคณะ และผู้นำประชาชนวงการต่างๆในปี 2556–2557 โดยมุ่งหมายขจัดอิทธิพลของเผด็จการรัฐสภาพรรคการเมืองทุนสามานย์ที่โคตรโกง ใช้อำนาจมิชอบฯ และมีการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อการล้มล้างทำลายสถาบันฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม คุณูปการต่อบ้านเมืองคือ การนำเสนอ “ไม่เอาระบอบทุนสามานย์ และการปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง” การปลุกประชาชนให้ตื่นและเข้ามาร่วมภารกิจรักชาติปกป้องบ้านเมือง และลดอำนาจรัฐบาลนอมินีฯ
“เขา 2” คือกองทัพ โดยมีผู้นำฯที่กล้าตัดสินใจชื่อพลเอกตู่และคณะฯ ในสถานการณ์ที่คับขันใกล้วิกฤติ เพราะ “มวลมหาประชาชนถูกข่มขู่คุกคามและเสียชีวิตไปไม่หยุดฯ จากการใช้ “กองกำลังติดอาวุธฯ” และการตระเตรียมแผนใหญ่จากกองกำลังใหญ่จากภายนอก ฯลฯ จากภาวะวิกฤติเช่นนี้ และไม่มีวันจบ เพราะฝ่ายรัฐบาลนอมินีไม่ยอมลงยังหวงอำนาจอยู่ ฯลฯ พลเอกประยุทธ์และคณะฯ จึงได้ทำการรัฐประหาร เพื่อยุติเหตุการณ์ และดำเนินการสร้างประชาธิปไตยต่อ (รัฐประหารครั้งนี้ช่วยแก้วิกฤติของชาติ : คุณชวน หลีกภัย อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย) :
“ไม่มีใคร” คือ พรรคการเมืองน้ำดี และกปปส. (มวลชนเรือนล้าน) ทำเต็มที่ “มัน” ก็ไม่ยอมลง
2.การเคลื่อนไหวโจมตี “เขา” สร้างความแตกแยกใน “หมู่เรา”ให้เป็นแนวร่วมมุมกลับ คือ “มัน” แทบทุกเรื่องมีการดำเนินการโดย “ทีมงานมืออาชีพ” ที่มีสื่อ นักวิชาการ ทหารแตงโม ตำรวจแดง ฯลฯ ทำอย่างครบเครื่อง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่อง ใช้เครื่องมือทุกอย่าง “พลพรรคแกนนำ” นักวิชาการ สื่อ มวลชนและกลุ่มเคลื่อนไหวรายวันรวมทั้งการประสานกับเครือข่ายองค์กรระหว่างประเทศ ฯลฯ
2.1 “รัฐบาลและแม่น้ำ 5 สาย” ทำอะไร ผิดหมด ไม่มีอะไรดี, แม้เรื่อง “ร่าง รธน.ฉบับปราบโกง” ระดมคนไม่ให้รับ ในการลงประชามติ แต่ไม่สำเร็จ “ประชาชนลงมติอย่างท่วมท้น” ผ่านฉลุย หยิบข้ออ่อนหรือข้อบกพร่องผิดพลาดที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต มาโหมโฆษณาเกินจริง สร้างกระแสต่อเนื่อง
2.2 เอา ปัญหาพื้นฐานของสังคม ที่เกิดจากระบบโครงสร้างไม่เป็นธรรม เหลื่อมล้ำ มาโจมตีเพื่อกลบผลงานที่รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนเดินไปได้บางระดับ และความจริง “ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้” เกิดจากการสะสมมาของรัฐบาลเก่าโดยเฉพาะที่เกิดจาก “รัฐบาลระบอบทุนสามานย์และนอมินี” ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา,ซึ่งการแก้ให้ได้ผล ต้องใช้เวลา
2.3 การปล่อยข้อมูลไปให้ “นักเคลื่อนไหวรายวัน” โจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แล้วใช้วาทกรรมเท็จกล่าวว่า “รัฐบาลคสช.เลวกว่ารัฐบาลระบอบทุนสามานย์และนอมินี” ซึ่งไม่เป็นความจริง อย่างน้อย รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่เคยมีความคิดจาบจ้าง ทำลายสถาบันฯเหมือน “พวกมัน”ฯลฯ และมีข้อสังเกตต่อ “แกนนำรายวัน” ที่ไม่เคยกล่าววิพากษ์วิจารณ์ ระบอบทุนสามานย์และนอมินีเลย (จึงขอฝากมาให้ดู : 7 คลิปแม้วสั่งเผาเมืองhttps://www.youtube.com/watch?v=gDilc5PrrPI)
2.4 แผนร้าย ที่โหมกระหน่ำต่อรัฐบาลประยุทธ์ และกลไกรัฐ องค์กรอิสระและตรวจสอบฯ ส่วนที่ทำได้ผล เพราะ “มีเป้า” ว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ สนช. ป.ป.ช. ล้วนเป็นเครื่องมือของคสช. “ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด โดยการทำตัวเป็นศาลพิพากษาไปล่วงหน้าว่า “ผิด” และเป็นเครื่องมือปกป้องรัฐบาลและรัฐมนตรีฯ ซึ่งตามหลักการของกระบวนยุติธรรม ต้องปล่อยให้ “ทำหน้าที่ให้บรรลุ มติมีผลออกมาก่อน” ซึ่ง “ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกา” เช่น เรื่อง “นาฬิกา” ที่ถูกโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 เดือน เมื่อเรื่องไปถึง “ป.ป.ช.” ก็ต้องหยุด ฟังผลก่อน แต่ “พวกมัน” โหมข่าว จ้างสื่อฯ คนไม่รู้ทันก็หลงตาม
2.5 “คดีการเมืองทั้งของพธม.และกปปส.” ก็สร้างวาทกรรมว่า : รัฐบาล คสช.ไม่ช่วย “ยกเลิกคดี” แต่หากรัฐบาลใช้อำนาจรัฐ และมาตรา 44 ดำเนินการยกเลิกให้, “พวกมัน” ก็จะบอกว่า “2 มาตรฐาน”แต่ไม่ได้บอกต่อว่า “คดี” เกิดขึ้นและถูกตั้งข้อกล่าวหา ฟ้องร้องในยุครัฐบาลนอมินีฯ เรื่องนี้ได้ผลในระดับหนึ่ง เพราะ “จำเลยในคดีที่เป็นแกนนำพธม.” บางส่วน เกิดความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ และมีการนำไปพูดขยายความ ทั้งในกลุ่มในพวก และขยายต่อไปยังมวลชนฯ รวมทั้งเครื่องมือและสื่อในสังกัด ออกข่าวโจมตีรัฐบาลประยุทธ์เหมือนกับเป็นศัตรู ที่จะต้องล้มให้ได้ ส่วนแกนนำที่เข้าใจและเคารพกฎหมาย ก็ได้ต่อสู้กันไป ตามกติกา กฎหมายและรัฐธรรมนูญ
2.6 “เรื่องผลงานของรัฐบาลตู่” ที่ได้เที่ยวสร้างกระแสว่า “ไม่มีผลงานเลย เป็นรัฐบาลขาลง” คนส่วนหนึ่งแม้แต่แกนนำที่มีอคติอวิชชา ที่ไม่ได้สำรวจตรวจสอบหาข้อมูลที่เป็นจริงครบ “กลับเชื่อ” ทั้งๆ ที่สาธารณชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ แก้ปัญหาได้ทั้งในและต่างประเทศยอมรับ โพลล์ประชาชนออกมาสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 70% แต่ในช่วงหลังลดไปเพราะ “มัน” ปล่อยของเสียออกมา และต้องเข้าใจ “ผลงานรัฐบาลตู่” ทำได้ดีกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานได้ทันที
2.7 การเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเร็วของ “มัน” ได้ผลเพราะทำให้พรรคการเมือง นักเลือกตั้ง คล้อยตาม รวมทั้งนักประชาธิปไตยจ๋า ที่ไม่เคยสรุปบทเรียน หรือพวกที่ได้ผลประโยชน์ร่วมกันจากการเลือกตั้งทั้งๆ ที่พรรคการเมืองยังไม่ปฏิรูป คงเป็น “การเมืองเก่า” ที่ยึดติดรูปแบบของการเลือกตั้งจากต่างประเทศ ที่พรรคการเมืองทุนสามานย์ได้เปรียบฯและหากเข้ามาเป็นรัฐบาลสามานย์ และกระทำอย่างเดิม หากเกิดผลเสียใหญ่เป็นวิกฤติซ้ำวิกฤติ ใช้อำนาจมิชอบธรรม ประเทศเสียหาย จะมีความรับผิดชอบอย่างไร
และเรื่องการเลือกตั้งเร็วนี้ได้รับการขานรับจากสื่อ นักวิชาการและนักประชาธิปไตย (ที่ไม่เคยร่วมการต่อสู้) ใช้ทุกเรื่อง ทุกเงื่อนไขแม้แต่เรื่อง “รัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ” กลับมาวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า “ไม่เป็นประชาธิปไตย” จะเป็นการสืบทอดอำนาจของคสช.ไปอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปี และ “ก็ไปกวักมือ” เชื้อเชิญให้องค์กรต่างชาติและประเทศมหาอำนาจมากดดันรัฐประยุทธ์
• ซึ่งอาจจะสามารถตั้งคำถามว่า “พวกเหล่านี้ รักประชาชนประเทศชาติ จริงจัง เอาจริง หรือเปล่าและเคารพ ประชามติของประชาชนส่วนใหญ่ที่ผ่านรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง” หรือไม่
• พวกเรา นั่งฟัง “ผู้เฒ่ามากประสบการณ์ชี้แนะ” จึงเห็นภาพ และเข้าใจมากขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี