ความศรัทธาของมหาชนที่มีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบันเสื่อมลงมากหากเทียบกับช่วงหลังจากที่คสช.เพิ่งเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะเกิดเรื่องอื้อฉาวส่อไปในทางไม่โปร่งใสของบุคคลสำคัญในอำนาจรัฐคสช. ขณะเดียวกันผลงานการปฏิรูปประเทศในเรื่องสำคัญต่างๆ รวมทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับฐานรากเพื่อลดความเหลื่อมล้ำแก้ปัญหาความยากจนของคนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่เห็นผลเป็นชิ้นเป็นอัน
ชนวนแห่งวิกฤติศรัทธาของมหาชนทุกหมู่เหล่าที่มีต่ออำนาจรัฐคสช.ที่สำคัญก็คือกรณีการครอบครองนาฬิกาหรูราคาแพง 25 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่อ้างว่าเป็นนาฬิกาที่เพื่อนให้ยืมใส่และคืนไปหมดแล้วซึ่งส่อไปในทางไม่โปร่งใสอำพรางข้อเท็จจริงจนสร้างความคลางแคลงใจต่อสาธารณชนถึงที่มาของนาฬิกาหรู
วิกฤติศรัทธาของมหาชนที่มีต่อ พล.อ.ประวิตร ยังลุกลามบานปลายกระทบความเชื่อถือของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้เนื่องจากประธานป.ป.ช.คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ซึ่งเคยเป็นอดีตลูกน้องเก่าที่ใกล้ชิดกับพล.ต.อ.ประวิตร และที่สำคัญวิกฤติศรัทธาของมหาชนยังส่อเค้าลุกลามไปถึง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ไปจนถึงอำนาจรัฐคสช.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์เคยเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประวิตรเมื่อครั้งรับราชการทหารทำให้ถูกมองว่ายังเกรงใจไม่กล้าดำเนินการกับ พล.อ.ประวิตร
ช่วงก่อนที่จะเกิดกรณีอื้อฉาวนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร มหาชนส่วนใหญ่ไม่ต่อต้านหากจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป แต่ปัจจุบันจากผลสำรวจของโพลล์สำนักต่างๆ สะท้อนสอดคล้องกันว่า มหาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็สะท้อนความศรัทธาที่มีต่ออำนาจรัฐคสช.ตกต่ำลงอย่างมาก แม้แต่ผู้ที่เคยสนับสนุนคสช.อย่างหัวปักหัวปำ ซึ่งที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะมหาชนเริ่มรู้สึกว่าอำนาจรัฐคสช.ที่คนทั้งประเทศฝากความหวังว่าจะเป็นอัศวินม้าขาวเข้ามาปฏิรูปประเทศให้พ้นจากวังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายโดยเหล่านักการเมือง แต่เอาเข้าจริงพฤติกรรมของคนสำคัญในอำนาจรัฐคสช.ตกเป็นข่าวอื้อฉาวแทบไม่ต่างจากนักการเมืองที่เรียกว่าน้ำเน่า ซึ่งกำลังจะถูกปฏิรูป
ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดทำให้มหาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มอึดอัดในอนาคตของประเทศที่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ โดยขณะที่ประชาชนเบื่อหน่ายเอือมระอาต่อพฤติกรรมของนักการเมืองที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และอยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยไม่หวนกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายอีกโดยฝากความหวังการปฏิรูปประเทศไว้กับอำนาจรัฐคสช. แต่ฝ่ายที่เป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งสำคัญกลับมีพฤติกรรมเล่นพรรคเล่นพวกส่อไปในทางไม่สุจริตเสียเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี