โลกเราทุกวันนี้กำลังตื่นตัวอย่างกว้างขวางในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนวิธีการรักษาพยาบาล และเกิดกระแสเรียกร้องต้องการให้ฟื้นฟูการแพทย์ทางเลือก หรือนัยหนึ่งก็คือการนำแบบแผนยาและวิธีการรักษาโรคแบบโบราณมาใช้มากขึ้น
เกิดการเผชิญหน้ากันในหลายปริมณฑลของโลกเกี่ยวกับพิษและเภทภัยของการรักษาพยาบาลแผนปัจจุบัน ตลอดจนยารักษาโรคจำนวนมาก
มีหลักฐานจำนวนมากที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายารักษาโรคจำนวนมาก แท้จริงคือยาพิษหรือสารพิษที่เป็นพิษเป็นภัยร้ายแรงแก่ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ และต้องยกเลิกเพิกถอนตำรับยาและแบบแผนวิธีการรักษาที่เป็นเภทภัยเหล่านั้นไปแล้วเป็นจำนวนมาก
ดังตัวอย่างเช่นการยกเลิกการใช้ยาหลายชนิด ซึ่งในระยะ 30-40 ปีมานี้ได้มีการยอมรับและนำขึ้นเป็นตำรับยา ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องอาหารและยา จากนั้นก็มีการโฆษณาถึงสรรพคุณและนำไปใช้ในการรักษาคนป่วยคนเจ็บเป็นจำนวนมาก
ครั้นต่อมาผลการวิจัยและผลการพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายาเหล่านั้นเป็นยาพิษ เป็นสารพิษ และก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงแก่มนุษย์ ถึงขนาดที่ล้มตายลงไปแล้วเป็นจำนวนมาก และต้องรับผลกระทบจากพิษของยานั้นกันเป็นจำนวนมาก
แต่ก็หามีใครหน้าไหนรับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชาติทั้งหลายที่ถูกยัดเยียดให้ใช้ยาพิษและต้องเจ็บต้องตายหรือได้รับผลกระทบที่ทรมานเป็นจำนวนมาก
ในบ้านเมืองของเราก็ได้รับผลอย่างเดียวกับประชาชาติต่างๆ ในโลก แต่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบ แม้แต่คำขอโทษสักคำหนึ่งก็ไม่มี
ในขณะนี้กำลังเกิดกระแสเกี่ยวกับโรคบางชนิดที่เกิดขึ้นเป็นชุดเป็นขบวนและเกิดแล้วก็ต้องรักษากันจนตายนั่นก็คือโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไตโรคตับ โรคเส้นเลือดตีบ แตก ตัน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อแต่เกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น และยารักษาโรคเหล่านี้ล้วนเป็นพิษเป็นภัยและก่อให้เกิดโรคเทือกเถาเหล่ากอนี้จนมีผู้ป่วยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกำลังเป็นภยันตรายคุกคามประชาชนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในขณะนี้
มีการพบว่ายารักษาความดันแท้จริงก็คือสารเคมีที่เป็นพิษ จำพวกหนึ่งกระตุ้นหัวใจเพื่อให้สูบฉีดโลหิตผิดปกติ และในที่สุดก็จะเกิดโรคหัวใจติดตามมาและต้องรักษาโรคหัวใจต่อไปอีก อีกจำพวกหนึ่งก็กระตุ้นการขับถ่ายปัสสาวะเพื่อขับสารที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ทำให้การทำงานของไตผิดปกติ ทำให้การทำงานของตับอ่อนผิดปกติ จนเกิดเป็นโรคไตและโรคเบาหวานตามมา
ที่สำคัญคือขนาดการใช้ยาที่การผลิตยานั้นถือเอาโครงสร้างสรีระของฝรั่งเป็นหลัก ซึ่งเป็นพวกตัวใหญ่ โครงสร้างใหญ่ ต่างกับคนไทย ซึ่งโครงสร้างเล็กกว่า ตัวเล็กกว่า ดังนั้นเมื่อรับยาขนาดเดียวกันจึงเป็นผลให้รับยาเกินขนาด นั่นคือเร่งการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตให้เร็วขึ้นนั่นเอง
มิหนำซ้ำ ยังมีการกำหนดมาตรฐานการถือว่าเป็นโรคความดันจากที่เคยถือเอาระดับ 150, 140 มาวันนี้ก็ถือเอาที่ระดับ 130 จึงเป็นผลให้คนวัยกลางคนซึ่งปกติมีความดัน 130-140 กลายเป็นคนเป็นโรคความดันและเข้าสู่ระบบการรักษาแบบมีพิษเภทภัยดังกล่าว สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กิจการยาของต่างชาติ
ชะตากรรมของคนไทยในเรื่องนี้ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครรับผิดชอบหรือคิดอ่านแก้ไข จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนจะต้องไปตายเอาดาบหน้า ดิ้นรนรักษาตัวกันเอาเอง หรือไม่ก็ยอมเข้าขบวนการเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นเทือกเป็นเถาหรือกลุ่มโรคไปจนตาย และในที่สุดก็ต้องตายด้วยโรคเหล่านั้น
อีกโรคหนึ่งซึ่งกำลังเกิดกระแสกลัวภัยอย่างกว้างขวางคือโรคมะเร็ง เพราะอาหารที่เป็นพิษที่ส่งเสริมช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันนักหนา ได้ทำให้เกิดความเป็นพิษขึ้นในร่างกายมนุษย์และทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น และเป็นกันกระทั่งเด็กหนุ่มเด็กสาวไปจนถึงคนแก่ และก็สร้างความเชื่อว่าเป็นมะเร็งแล้วรักษายาก ส่วนใหญ่จะต้องตาย
โดยมีแบบแผนการรักษาเป็นชุดคือ ผ่าตัด ฉีดคีโม สลับกันไป และในที่สุดก็ตายคาที่ หรือมิฉะนั้นก็ตายเร็วกว่าปกติ เพราะเกิดโลหิตติดเชื้อที่เกิดขึ้นเฉพาะในโรงพยาบาล หรือที่เรียกว่าโรค Hospital Disease แล้วตายไปอย่างฉับไว
เพื่อดิ้นรนให้มนุษย์หลุดพ้นอันตรายจากโรคมะเร็ง จึงมีการค้นคว้าหายามารักษากันทั่วโลก ที่สำคัญคือ คณะแพทย์ไทยได้ค้นพบว่า สารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อย่างเฉียบขาด ทั้งยังพบตำรับยาโบราณคือยาสุนทรนิทรา ซึ่งเป็นยาช่วยในการนอนให้หลับลึก หลับสนิท และยาสว่างอารมณ์ซึ่งเป็นยาช่วยในการสร้างความเบิกบานในอารมณ์ ไม่งุน ไม่งง ไม่ง่วง ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
ซึ่งตำรับยาเหล่านี้เคยมีมาแต่โบราณ แต่ถูกยกเลิกเพิกถอนเพราะอ้างว่ากัญชาเป็นพืชเสพติด ดังนั้นจึงต้องใช้ยาพิษ สารพิษในการรักษาแทน แล้วก็เกิดเหตุเภทภัยดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ป่วยการที่จะไปร้องขอความเห็นใจหรือเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไข เพราะกี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เนื่องจากต้องค้อมหัวให้กับผู้ผลิตยารายใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมีอำนาจเหนือรัฐหลายประเทศ รวมทั้งบ้านเมืองของเราด้วย
ทว่าเมื่อภยันตรายคุกคามขยายตัวจนไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้ว ประชาชนก็ต้องยืนบนขาของตัวเอง ใช้พลังอำนาจของประชาชนเองในการกำหนดชะตากรรมของตนในอนาคต ด้วยการร่วมกันรณรงค์เรียกร้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องทำการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อใช้เป็นเวชภัณฑ์ในการรักษาโรคมะเร็งและโรคร้ายอีกหลายชนิดให้สำเร็จจงได้
ถือเป็นวาระที่จะต้องต่อสู้กันในทางการเมือง พรรคการเมืองไหน นักการเมืองใดไม่ให้สัญญาเรื่องนี้ก็อย่าไปเลือกมันเพราะใครไหนก็ตามหากไม่อนาทรด้วยทุกข์ยากของราษฎรแล้วเลือกไปก็เสียเปล่า เมื่อใดที่ประชาชนยืนหยัดร่วมกันเช่นนี้แล้วก็จะไม่มีอำนาจใดมาต้านทานได้ และเมื่อนั้นทางออกเรื่องสุขภาพของประชาชนก็จะบังเกิดขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี