หัวข้อนี้บรรดานักคิด นักเขียน นักวิชาการ วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา แต่สำหรับผมถือเป็นความหวังในการพัฒนาประเทศภาคตะวันออก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความก้าวหน้า ต่อยอดจากอีสเทิร์นซีบอร์ด และเชื่อว่าผลผลิตที่เกิดขึ้นจากกฎหมายฉบับนี้จะนำมาซึ่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมและความเป็นธรรม
ร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณารับรองจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เนื้อหาสำคัญ มาตรา 6 กำหนดให้สามารถตราพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)ให้พื้นที่บางส่วนในเขตจังหวัดที่ติดต่อ หรือเกี่ยวข้องกับพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกด้วย และมาตรา 10 มีการเพิ่มสัดส่วนอื่นๆ อาทิรมว.กลาโหม รมว.ศึกษาธิการ เข้ามาเป็นคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกด้วย
เพราะเป็นความมั่นคงของชาติ
มาตรา 49 กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนิติบุคคล และเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เฉพาะเพื่อการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตได้
เมื่อต้นเดือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ นำครม.สัญจรที่จันทบุรี และตราดผลักดันประเทศไทยเป็นมหาอำนาจด้านผลไม้เมืองร้อนของโลก มีการนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำเอ็มโอยู เพื่อผลักดันโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯก็เดินสายไปญี่ปุ่น ดึงภาคธุรกิจจาก ฟุกุโอกะเข้ามาขยายการลงทุน และลงทุนเพิ่มเติมในเขตอีอีซี
เรียกว่าทุกอย่างมุ่งสู่ภาคตะวันออกของประเทศไทย
ส่วนแม่ทัพน้อยของ อีอีซี ทั้ง อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ คณิศแสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กศน.) ก็ลุยพื้นที่ไปล่วงหน้า
รายงานตัวเลขน่าสนใจคือ มีการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ในปี 2560 รวมเป็นเงินลงทุน 296,890 ล้านบาท 368 โครงการ เป็นการส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
ทั้ง กนศ. มีมติเห็นชอบประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติม19 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดระยอง จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ เหมราชระยอง 36, อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง), เหมราชตะวันออก(มาบตาพุด), เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด และอมตะซิตี้ มีพื้นที่ประกาศเขตส่งเสริมรวม 40,268 ไร่ และเป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับการลงทุน 8,043 ไร่ และคาดว่าจะมีเงินลงทุนได้ 290,113 ล้านบาท
จังหวัดชลบุรี จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ อมตะนคร 1-2, ปิ่นทอง 1-5, ยามาโตะอินดัสทรีส์, เหมราชชลบุรี 1-2, เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ดแห่งที่ 2-3 มีพื้นที่ประกาศเขตส่งเสริมรวม 42,300 ไร่ เป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับการลงทุน 17,663 ไร่ และคาดว่าจะมีเงินลงทุนได้ 762,092 ล้านบาท
จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ทีเอฟดี 2 มีพื้นที่ประกาศเขตส่งเสริมรวม 841 ไร่ เป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับการลงทุน 660 ไร่ และคาดว่าจะมีเงินลงทุนได้ 51,900 ล้านบาท
กนศ. เห็นชอบแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งสิ้น 168 โครงการวงเงินลงทุน 988,948.1 ล้านบาท โดยมีหลักการมุ่งพัฒนาโลจิสติกส์แบบไร้รอยต่อ (One Seamless Transport) เชื่อมโยงทั้งทางบก น้ำ อากาศ ในพื้นที่อีอีซี และพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่ง โดยการแก้ไขปัญหาคอขวดและเชื่อมโยงโครงข่ายให้สมบูรณ์ ส่งเสริมการคมนาคมทางรางและน้ำ เพิ่มความปลอดภัยของการเดินทางและขนส่งทุกรูปแบบ และยกระดับคุณภาพการให้บริการของการเดินทางของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว
แผนปฏิบัติการแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะเร่งด่วนตั้งแต่ปี 2560-2561 จำนวน99 โครงการ วงเงิน 292,882.63 ล้านบาท ได้แก่ โครงการอู่ตะเภาระยะที่ 1 โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3โครงการมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด โครงการอาคารผู้โดยสาร ท่าเรือจุกเสม็ด โครงการปรับปรุงโครงข่ายถนนสายรอง
ระยะกลางตั้งแต่ปี 2562-2564 จำนวน 62 โครงการ วงเงิน 414,360.59 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ (แหลมฉบัง-มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด) โครงการก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 ท่าอากาศยานอู่ตะเภา โครงการ Air Cargo อู่ตะเภา ระยะที่ 1 โครงการ Free Trade Zone ท่าอากาศยานอู่ตะเภา โครงการมอเตอร์เวย์ แหลมฉบัง-ปราจีนบุรี โครงการปรับปรุงโครงข่ายถนน
สายรอง โครงการเพิ่มโครงข่ายทางเลี่ยงเมือง
ระยะต่อไปตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไปจำนวน 7 โครงการ วงเงิน 252,879.5ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟเชื่อมอีอีซี-ทวาย-กัมพูชา โครงการ ICD ฉะเชิงเทรา โครงการ Air Cargo อู่ตะเภา ระยะที่ 2 โครงการมอเตอร์
จัดหนัก จัดเต็ม ให้ภาคตะวันออกแล้วอย่าลืมไปพัฒนาภาคอื่นนะครับท่านนายกรัฐมนตรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี