สาขาอาชีพต่างๆในสังคมไทยในวันนี้ อาทิข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน นักวิชาการ นักกฎหมาย นักการตลาด เป็นต้น ซึ่งถ้าจัดลำดับความนิยมชมชอบในสายตาประชาชนกันแล้ว คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่อาชีพนักการเมือง จะมาเป็นที่โหล่ ทั้งๆที่เป็นอาชีพที่ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนพลเมือง
นอกจากนั้น ความตกต่ำของอาชีพนักการเมืองในสายตาของประชาชนพลเมืองแล้ว ยังมาถูกโหมด้วยฝีมือของวิกฤติทางการเมืองไทยครั้งที่ผ่านมา โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าฝ่ายนักการเมืองอาชีพเป็นต้นเหตุของความสับสน ยุ่งเหยิงของบ้านเมืองทั้งปวง
ฉะนั้น ก็คงต้องถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่บรรดาผู้มีอาชีพเป็นนักการเมือง จะต้องกลับมาทบทวนพิจารณาตนเองว่า จะปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือจะรีบเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ปฏิรูปตนเองกันได้แล้วอย่างไม่รอช้า เพราะถ้าคิดจะปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรเลย เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง คงต้องตอบคำถามจากสังคมที่ว่า“ยังจะมีหน้าอาสาเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองได้อีกหรือ?”
การเปลี่ยนรูปโฉมภาพลักษณ์จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวันนี้และตลอดไปที่ผู้มีอาชีพเป็นนักการเมืองจะต้องปรับปรุงตัวเองอย่างใหญ่หลวง และพัฒนาตัวเองเป็นระยะๆ เพื่อให้สมกับศักดิ์ศรีและคุณค่าในฐานะหน้าที่ที่เป็นผู้แทนหรือตัวแทนของชาวประชา ซึ่งหมายความว่า พฤติกรรมที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนาต่างๆ ที่เคยมีกันมา จำต้องถูกกำจัดให้สิ้นไป จะมีพฤติกรรมเหลืออยู่แค่หนึ่งเดียวคือ การรับใช้ชาติ
บ้านเมืองหรือการทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ในกรอบกฎหมายและตามครรลองของประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามเท่านั้น
อาชีพนักการเมืองเป็นอาชีพในบริบทของสังคมเสรีประชาธิปไตยของราชอาณาจักรไทย ฉะนั้นนักการเมืองก็ต้องเป็นนักประชาธิปไตย รู้เรื่องประชาธิปไตยและมีความนึกคิดและมีจิตสำนึก หรือจิตวิญญาณของการเป็นนักประชาธิปไตย และจะต้องปฏิเสธระบบและนักเผด็จการใดๆ ทั้งสิ้น
แล้วจะเริ่มต้นกันใหม่จากตรงไหน หรืออย่างไร?
ผมเห็นว่ามี 2 ประเด็นนอกจากการปรับปรุงตนเองให้เป็นนักประชาธิปไตยดังกล่าวแล้วคือ
1.สร้างพรรคให้เป็นองค์กรประชาธิปไตยที่แท้จริง : เป็นเรื่องสำคัญที่การปฏิรูปการเมืองของไทยจะต้องมีตัวบทกฎหมายข้อบังคับให้พรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีความเป็นประชาธิปไตย อันได้แก่ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคโดยสมาชิกพรรค และคัดเลือกผู้สมัครทั้งระดับชาติและท้องถิ่นผ่านระบบการลงคะแนนคัดกรองโดยสมาชิกพรรค (Primary) เป็นต้น
ทั้งนี้ก็เป็นที่เข้าใจโดยสามัญสำนึกว่า เมื่อพรรคเป็นของสมาชิกแล้ว การตรวจสอบ และการกำกับ โดยสมาชิกก็จะบังเกิดขึ้นและความโปร่งใสก็จะตามมา หรือนัยหนึ่งก็อำนาจที่แท้จริงเป็นของสมาชิก และมิใช่ของบุคคลหรือกลุ่มใดในพรรคทั้งสิ้น
2.อำนวยอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยให้เป็นที่ประจักษ์ : เป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคและโดยเฉพาะผู้บริหารและผู้สมัครต่างๆ จะต้องยึดมั่นและเคารพในกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติของประชาชน หรือต้องเคารพต่อการตัดสินใจแล้วของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนข้อความใดของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่จะทำให้ประชาธิปไตยถดถอย ก็สามารถที่จะแก้ไขได้ในภายหลัง แต่เมื่อกฎหมายรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้แล้ว ก็ต้องให้บังคับใช้ โดยเฉพาะเพื่อการเลือกตั้งที่จะมีมาในอนาคตอันใกล้นี้ และการกระทำบทบาทในรัฐสภาในอนาคตก็ต้องเป็นไปตามกติกาและครรลองของหลักประชาธิปไตย โดยไม่มีการโอนอ่อนต่ออามิสสินจ้าง ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ และไม่โอนอ่อนต่ออิทธิพลเผด็จการใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อพรรคการเมืองทั้งหลายมีความเป็นประชาธิปไตยภายในตัวแล้ว และสมาชิกทุกคนมุ่งสร้างสังคมประชาธิปไตย โอกาสที่ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการเป็นสังคมเสรีประชาธิปไตยก็พึงจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งความเจริญก้าวหน้าและความสงบสุขก็จะพึงตามมา
ฉะนั้น นักการเมืองที่มีอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย ก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงกลับคืนมา โดยการปฏิบัติตนให้สอดคล้องและโดยการร่วมปฏิรูปความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค ศรัทธาและความเชื่อถือ นับหน้าถือตาก็จะกลับคืนมา และเรตติ้งก็จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี