ความจริงสังคมไม่อยากรื้อฟื้นแผลสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินมาตอกย้ำอีก แต่เผอิญก่อนหน้านี้มีแกนนำพรรคเพื่อแม้วบางคนออกมาพูดในทำนองว่านายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ใช่นักโทษหนีคดี แต่ถูกลั่นแกล้งทางการเมือง ทำให้มีบางฝ่ายออกมาตอบโต้ว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงสร้างความสับสนต่อสังคมและเป็นเรื่องใหญ่เพราะเท่ากับเป็นการบ่อนทำลายความศักดิ์สิทธิ์และความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาล
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกโรงชี้ว่า การที่กลุ่ม สส.พรรคเพื่อแม้วออกมาบิดเบือนว่า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำความผิดใดๆ จึงไม่ใช่คนหนีคดี ซึ่งนี่คือการบิดเบือน ทั้งๆ ที่ความจริงทุกคดีที่สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินกระทำผิดถูกตัดสินโดยศาล อาทิ โครงการรับจำนำข้าวซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยคนสำคัญที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างมหาศาล ดังนั้นเหตุใดรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จึงไม่ออกมาอธิบายปล่อยให้กลุ่มคนของพรรคเพื่อแม้วออกมาหลอกลวงชาวบ้าน
นายราเมศ ย้ำว่ารัฐบาลคสช.ต้องออกมาปกป้องอำนาจตุลาการบ้าง ถ้า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ไม่มีความผิดแล้วการตัดสินจำคุกทั้งสองของศาลหมายความว่าอย่างไร กลุ่มคนพวกนี้คือพวกที่ชอบอ้างประชาธิปไตย แต่การกระทำกลับทำลายประชาธิปไตย ฝ่ายนิติบัญญัติใช้เสียงข้างมากล้างผิดให้คนโกง ออกกฎหมายกู้เงินเพื่อเป็นช่องทางทุจริต พยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เมื่ออำนาจตุลาการตัดสินว่าทำผิดก็พยายามทำลายอำนาจตุลาการ
คนพวกนี้หรือที่จะพูดเรื่องประชาธิปไตย รัฐบาลคสช.ต้องกล้าอธิบายความจริงว่า บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
นอกจากบรรดาแกนนำพรรคเพื่อแม้วที่ออกมาฟื้นฝอยหาตะเข็บพยายามบิดเบือนว่าสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินไม่ผิด เมื่อไม่กี่วันก่อน นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ“โอ๊ค” บุตรชายคนโตนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาฐานฟอกเงินคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครยุครัฐบาลทักษิณทำให้รัฐเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้ นายทักษิณ เป็นจำเลยที่ 1 โดย “โอ๊ค” แพร่ภาพผู้เป็นพ่อขณะก้มกราบพื้นสนามบินสุวรรณภูมิหลังกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดเป็นครั้งแรกหลังถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549
ขบวนการเพื่อแม้วพยายามอ้างมาตลอดว่าสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองซึ่งเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ได้มีการใช้อำนาจพิเศษใดๆเพื่อเอาผิดกับสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินแต่อย่างใดทั้งสิ้นและทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ คำถามก็คือถ้าไม่ผิดแล้วหนีทำไม ที่หนีเพราะจำนนต่อความจริงและหลักฐานพอเข้าตาจนศาลจะตัดสินก็เลยหลบหนีโทษความผิดออกนอกประเทศ
อย่างกรณี นายทักษิณ เมื่อหลายปีก่อนหลังกราบพื้นสนามบินสุวรรณภูมิและกลับประเทศเป็นครั้งแรกในยุครัฐบาลระบอบแม้วก็นำครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาแถลงข่าวใหญ่โตกลางโรงแรมหรูว่า จะวางมือทางการเมืองและพร้อมที่จะต่อสู้คดีและยอมรับคำตัดสินของศาลโดยดุษณี แต่ก่อนที่ศาลจะตัดสินไม่นาน ทนายความของ นายทักษิณ ถือถุงขนมซึ่งภายในใส่เงิน 2 ล้านบาทเพื่อหยั่งเชิงคิดติดสินบนผู้พิพากษาในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกที่ นายทักษิณ เป็นจำเลย แต่ผู้พิพากษาตงฉินไม่เล่นด้วยซ้ำยังฟ้องทนาย นายทักษิณ ทำให้ นายทักษิณ รู้ว่าติดคุกแน่จึงหนีออกนอกประเทศก่อนศาลตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เหมือนกันเดินตามรอยพี่ชายโดยก่อนศาลตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวก็แสดงบทวีรสตรีพร้อมตายคาสนามประชาธิปไตยและยืนยันจะไปฟังคำพิพากษาของศาลแน่นอนเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่แล้วก่อนศาลจะตัดสินแค่ 2 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยการช่วยเหลือของตำรวจบางคนก็เผ่นหนีออกนอกประเทศก่อนศาลตัดสินจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญาไปสมทบกับพี่ชายเสพสุขอยู่ในต่างแดนและพยายามเคลื่อนไหวทางการเมืองหวังกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
ที่ผ่านมาระบอบแม้วยึดหลักกูบ่อนทำลายองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมถึงขนาดเคยใช้กองกำลังแดงฮาร์ดคอร์ปาระเบิดใส่ศาลมาแล้วโดยอ้างว่าสองมาตรฐานทั้งๆ ที่หลายคดีพอศาลตัดสินเป็นผลดีแก่ฝ่ายตัวเองก็ชื่นชมยอมรับ แต่พอตัดสินไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการก็อ้างว่าไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่ศาลเป็นสถาบันที่เป็นอิสระและดำรงความเที่ยงธรรมมาช้านาน
พรรคเพื่อแม้วยังถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นบริษัทธุรกิจการเมืองจำกัดในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่มองการเมืองเป็นธุรกิจที่ต้องทุ่มทุนซื้อเพื่อให้ได้อำนาจรัฐ และใช้อำนาจเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม จนเป็นต้นเหตุของวิกฤติสร้างความบอบช้ำให้ประเทศตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาจากการออกมาแสดงพลังขับไล่ของมวลมหาประชาชน
เพราะฉะนั้นเมื่อความจริงเป็นอย่างนี้ คำถามคือแล้วประชาชนควรให้พรรคที่ชอบบิดเบือนและเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติกลับมามีอำนาจซึ่งจะนำไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายอีกหรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี