ในบรรดาพรรคการเมืองใหม่ช่วงโหมโรงต้อนรับการเลือกตั้งช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่กำลังจะมีขึ้น พรรคที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็น “พรรคไพร่หมื่นล้าน”ที่ประกาศว่าเป็นพรรคทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ถูกจับตา กำลังจะเป็นพรรคทางเลือกใหม่สำหรับชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงตามที่สร้างภาพไว้หรือไม่
พรรคฉายา “ไพร่หมื่นล้าน” ที่ว่าก่อตั้งโดยสองแกนนำคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารไทยซัมมิทกรุ๊ป ทายาทธุรกิจระดับหมื่นล้าน หลานชายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม ยุครัฐบาลทักษิณผู้อื้อฉาว กับ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในแกนนำนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์
นายธนาธร ประกาศว่าพรรคที่ตัวเองและคู่ซี้คือ ดร.ปิยบุตร ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองโดยจะเป็นพรรคทางเลือกใหม่ที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งในชาติบ้านเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปีเสียที
การประกาศเป็นพรรคทางเลือกใหม่เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งในชาติของบุคคลทั้งสองถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะคอการเมืองที่ติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จะรู้ปูมหลังบุคคลทั้งสองว่า แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นคนหน้าใหม่หรือมีแนวคิดที่เป็นทางเลือกใหม่แต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหน้าเดิมๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าแอบอิงกับพรรคเพื่อแม้ว กลุ่มคนเสื้อแดง สื่อเสื้อแดง และขบวนการที่มีแนวคิดต่อต้านสถาบันเบื้องสูงมาตลอด
นายธนาธร ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นนายทุนนิตยสารและเว็บไซต์ “ฟ้าเดียวกัน” ที่เสนอเนื้อหาวิจารณ์สถาบันเบื้องสูงมาอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง
ขณะที่ ดร.ปิยบุตร ในฐานะหนึ่งในแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ เคยแสดงความเห็นอย่างรุนแรงให้ยกเลิกมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยโทษฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และยังเสนอแนวคิดอีกหลายประการอันเป็นการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูง
ขณะที่ ดร.ปิยบุตร เคยเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันเบื้องสูงร่วมกับกลุ่มนิติราษฎร์และนักวิชาการเสื้อแดงที่มีแนวคิดล้มเจ้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีความใกล้ชิดกับ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการเสื้อแดงที่ขณะนี้หนีหมายจับข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามมาตรา 112 ไปเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศแถบยุโรป
นอกจากนี้ในงานแต่งงานของ ดร.ปิยบุตร ก่อนหน้านี้เป็นที่น่าสังเกตว่าล้วนเต็มไปด้วยนักการเมืองพรรคเพื่อแม้ว แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนักวิชาการแนวคิดต่อต้านสถาบันเบื้องสูง
บรรดาขบวนการต่อต้านสถาบันเบื้องสูงมักใช้วาทกรรมแบ่งแยกทางชนชั้น เรียกชนชั้นนำในสังคมว่า “อำมาตย์” ขณะเดียวกันเปรียบประชาชนว่าเป็น “ไพร่” ซึ่งเป็นการปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อตามหลักของค่ายคอมมิวนิสต์เพื่อดึงมวลชนมาเป็นพวก ทั้งๆ ที่โดยเนื้อแท้แล้วคนในระบอบแม้วและพันธมิตรหลายคนเป็นนักธุรกิจระดับหมื่นล้านและมีวิธีคิดตลอดจนใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อแบบทุนนิยมไม่ได้สะท้อนจิตวิญญาณความเป็น“ไพร่”แม้แต่นิดเดียว
นอกจากนี้ทั้ง นายธนาธรและนายปิยบุตร ถูกจับตาจากหน่วยงานด้านความมั่นคงมานานแล้วโดย นายธนาธร เคยถูกตรวจสอบว่าเป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงให้กับสื่อเสื้อแดงรวมทั้งขบวนการแดงใต้ดิน ตลอดจนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาบ่อนทำลายอำนาจรัฐในปัจจุบันที่นำโดย นายรังสิมันต์ โรม หรือ นายสิรวิชญ์เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว”
ดังนั้นพรรคของ นายธนาธร และ นายปิยบุตร ที่กำลังจะยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองจึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่พรรคทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่อย่างที่พยายามสร้างภาพ แต่เป็นพรรคของคนหน้าเดิม มิหนำซ้ำอาจเป็นพรรคนอมินีของระบอบแม้วที่เดินเกมในลักษณะแยกกันเดิน แต่ร่วมกันตี ด้วยการสร้างภาพพรรคทางเลือกใหม่เพื่อดูดคะแนนเสียงจากมหาชนแล้วไปจับมือกับพรรคเพื่อแม้วเดินเกมจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
อีกทั้งมีการตั้งคำถามกับคำประกาศการเป็นพรรคทางเลือกใหม่เพื่อยุติความแตกแยกในชาติซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งในตัวเอง เพราะด้วยปูมหลังของทั้งนายธนาธรและดร.ปิยบุตร ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะยิ่งเป็นชนวนสุมไฟแตกแยกในชาติให้ลุกโชนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะแนวคิดที่สุดขั้วในประเด็นที่เป็นเรื่องอ่อนไหวต่อจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี