นับเป็นเรื่องอัปยศของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเมื่อน.ส.ปณิตา ยศปัญญา หรือ “น้องแบม” นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดโปงขบวนการทุจริตงบโครงการช่วยเหลือผู้ไร้ที่พึ่งและติดเชื้อเอดส์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นจนลุกลามบานปลายพบการทุจริตในลักษณะเดียวกันทั่วประเทศจนเป็นข่าวครึกโครม โดยน.ส.ปณิตาเปิดเผยพฤติการณ์อันเลวทรามของอาจารย์หัวหน้าภาควิชาในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ทั้งนี้ หลังจากที่น.ส.ปณิตาและเพื่อนนิสิตซึ่งอีก 4 คน ที่ไปฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น และพบการทุจริตได้มาแจ้งให้อาจารย์หัวหน้าภาควิชาทราบ แต่แทนที่จะยกย่องในอุดมการณ์ความซื่อสัตย์สุจริตทำเพื่อคนไร้ที่พึ่งและเพื่อรักษางบแผ่นดิน อาจารย์หัวหน้าภาควิชาคนดังกล่าวนอกจากไม่สนใจรับฟังคำชี้แจงของลูกศิษย์แล้ว ยังสั่งให้ลูกศิษย์ไปกราบเท้าขอโทษผู้บริหารศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นที่ทุจริตเพื่อปกปิดให้เรื่องยุติ
แต่ด้วยความเด็ดเดี่ยวยึดมั่นในความถูกต้องน.ส.ปณิตาได้ร้องเรียนเบื้องหลังการทุจริตไปยังคสช.จนเรื่องลุกลามบานปลายใหญ่โตซึ่งอาจารย์หัวหน้าภาควิชาคนดังกล่าวแทนที่จะสำนึกกลับเรียก น.ส.ปณิตาเข้าพบแล้วต่อว่าด่าทอด้วยความโกรธกล่าวหาว่าน.ส.ปณิตาทำให้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยเสื่อมเสียและใช้มือทุบหลังน.ส.ปณิตา 2 ครั้ง เพื่อระบายอารมณ์ อีกทั้งน.ส.ปณิตายังถูกกลั่นแกล้งให้เปลี่ยนหัวข้อทำวิจัยใหม่ทำให้จบการศึกษาช้ากว่าเพื่อนๆ
แม้ขณะนี้รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการจะให้การคุ้มครองน.ส.ปณิตา และสั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมหาวิทยาลัยมหาสารคามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ดูเหมือนว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะส่อพฤติการณ์เชิงปกป้องอาจารย์หัวหน้าภาควิชาที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอ้างว่าเป็นเรื่องกิจการภายในของมหาวิทยาลัยและไม่แน่ใจว่าคำให้การของน.ส.ปณิตาเป็นเรื่องจริงหรือไม่
เพราะฉะนั้นกระทรวงศึกษาธิการต้องติดตามควบคุมการสอบสวนข้อเท็จจริงของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้การสรุปผลสอบสวนบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเท่ากับทำร้ายเยาวชนที่ซื่อสัตย์สุจริตและมีอุดมการณ์เป็นแบบอย่างของคนรุ่นใหม่ ขณะที่ผู้ซึ่งสั่งให้ลูกศิษย์ไปกราบเท้าคนทุจริตไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์และเป็นแบบอย่างอันเลวร้ายหากยังอยู่ในระบบราชการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี