ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency International) ประกาศผลดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันโลกปี 2560 โดยประเทศไทยติดอันดับที่ 96 จาก 180 ประเทศซึ่งผลการจัดอันดับ ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อการประเมินภาพลักษณ์คอร์รัปชันเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความมั่นคงและความมีเสถียรภาพด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เสรีภาพของสื่อและสิทธิของพลเมืองด้วย ผู้เขียนจึงอยากชวนทุกท่านหันมามองประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไทยในกลุ่มอาเซียนว่า สถานการณ์บ้านเขาเป็นอย่างไร โดยประเทศที่ได้อันดับ 1 คือ สิงคโปร์ อันดับ 2 มาเลเซีย อันดับ 3 ติมอร์เลสเต อันดับ 4 ไทย และอินโดนีเซีย และอันดับ 5 เวียดนามตามมาด้วย ฟิลิปปินส์ พม่า ลาว และกัมพูชาตามลำดับ
ข้อสังเกตที่น่าสนใจจากการจัดอันดับของกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่า ประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วงปี 2555- 2560 ได้แก่ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ส่วนหนึ่งผู้เขียนคาดการณ์ว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายประเทศในด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยมุ่งเน้นสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการภาครัฐและสร้างช่องทางให้พลเมืองเข้ามามีส่วนร่วม (Citizen Engagement) ในการร้องเรียนปัญหาต่างๆ สอดคล้องกับข้อสรุปจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่ระบุว่า ประเทศที่ได้รับคะแนนดีขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่รัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงานของภาครัฐในเรื่องความโปร่งใสได้อย่างเสรีภาพด้วย
ดังนั้น การสร้างความเชื่อมั่นในความโปร่งใสและสร้างช่องทางให้พลเมืองเข้ามามีส่วนร่วม (Citizen Engagement) จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในหลายประเทศ เพราะการเปิดโอกาสให้พลเมืองมีส่วนร่วมเท่ากับเป็นการบ่มเพาะให้เกิดพลเมืองตื่นรู้ (Active Citizen) มีความตื่นตัวในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันและมองว่า เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคนทั้งประเทศในการติดตามตรวจสอบการทำงานภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องอาศัยภาครัฐอย่างเดียว แต่สามารถขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุกด้วยพลังของประชาชน
เครื่องมือสำคัญที่สร้างเสริมให้เกิดพลเมืองตื่นรู้(Active Citizen)ในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมือง(Citizen Engagement)ที่มีเงื่อนไขความสำเร็จอยู่ที่ การริเริ่มโดยรัฐบาล (Government Initiative) และการเต็มใจเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชน (Willingness to Involvement) เพราะการสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Citizen Engagement) มีความเข้มข้นตรงที่เป็นการริเริ่มจากบนลงล่าง(Top-down initiative) ดังนั้นการทำงานจึงต้องมีภาครัฐเป็น Change Agent และมี Active Citizen เป็นหัวหอกดึงเอาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นทางการ (Public Decision Makers) เพื่อช่วยให้ภาครัฐสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ (Trust) ระหว่างภาครัฐกับประชาชนในการทำงาน
จากแนวคิดดังกล่าว สนับสนุนข้อคิดเห็นของผู้เขียนในประเด็นที่ว่า บทบาทของภาคพลเมืองจะช่วยสร้างระบบที่ประชาชนในประเทศเข้ามาร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชันและเสริมสร้างธรรมาภิบาลให้ภาครัฐในที่สุด กอปรกับผู้เขียนได้ศึกษาโครงการช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร้องเรียนการให้บริการภาครัฐ(Citizen Feedback)จากอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นตัวอย่างการนำแนวคิด Citizen Engagement และ Active Citizen ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันด้วยการสร้างเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการร้องเรียนของประชาชน ดังนี้
โครงการ LAPOR ของอินโดนีเซียริเริ่มโดยรัฐบาล มีแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมในการให้บริการสาธารณะ จึงสร้างช่องทางรับเรื่องร้องเรียนภายในประเทศ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานภาครัฐในการให้บริการ ซึ่งรัฐบาลได้จัดหาเครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสมกับประชาชนแต่ละพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เช่น SMS Website ApplicationSocial media และวิทยุท้องถิ่น LAPOR เปิดใช้งานปี 2554 ถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้งานในระบบอยู่ที่ 290,000 คน รายงานเรื่องร้องเรียนต่างๆกว่า 2 ล้านเรื่องและ45%ของเรื่องร้องเรียนได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแรงจูงใจสำคัญของการมีส่วนร่วมเกิดจากประชาชนเห็นประโยชน์จากการร้องเรียน ขณะเดียวกันภาครัฐก็สร้างความไว้วางใจ(Trust)ด้วยการแก้ไขปัญหาที่ได้รับแจ้ง นอกจากนี้รัฐบาลได้ร่วมกับภาค NGO จัดทำสื่อและแคมเปญรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในการใช้ระบบร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เครื่องมือดังกล่าวกลายเป็นช่องทางหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในที่สุด
โครงการ Citizen App ของเมืองดานัง เกิดจากการปฏิรูประบบราชการและการปรับปรุงการเข้าถึงบริการด้านสังคมทั่วประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการประชาชนในท้องถิ่นรวดเร็วขึ้น เมืองดานังเป็นเมืองนำร่องที่นำระบบ Citizen App มาใช้พัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ ลดโอกาสทุจริตและเพิ่มความพึงพอใจของประชาชนในการให้บริการ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมผ่านการติดตั้ง Application ในสมาร์ทโฟนเพื่อร้องเรียนหรือให้ความเห็นด้วยการพิมพ์ข้อความสั้นๆ ภายหลังจากที่แจ้งเรื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการรับผิดชอบด้วยการรายงานผลไปยังประชาชน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ถูกร้องเรียนจะได้รับจดหมายตักเตือนจากหัวหน้างาน ผลลัพธ์ที่ได้จากการสร้างช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้การบริการหน่วยงานสาธารณะของเมืองกว่า 1,278 แห่งได้รับการปรับปรุงและถูกจัดอันดับในกลุ่มจังหวัดที่สูงขึ้นจากการประเมินการให้บริการภาครัฐ (PAPI)ปัจจุบัน เมืองดานังมีภารกิจหลักในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตพลเมืองให้ดีขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ
สำหรับประเทศไทยมีการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันเป็นการเฉพาะ แต่ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าเรายังไม่มีโครงการที่ภาครัฐสร้างช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชนเหมือนกับโครงการ Citizen Feedback อย่างไรก็ตาม ก็เห็นสัญญาณที่ดีจากผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (CSI) ปี 2560 ที่ระบุว่า 98%ของกลุ่มตัวอย่างมองว่า เรื่องคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัวและ 87% ยินดีมีส่วนร่วมป้องกันการต่อต้านการทุจริต คำถามคือ เราจะสร้างช่องทางให้ประชาชนอยากเข้ามีส่วนร่วมได้อย่างไร เพราะหลังจากที่ข่าวทุจริตในภาครัฐ ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาการทำหน้าที่ของภาครัฐ ผู้เขียนจึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับการประเมินความโปร่งใสภาครัฐในรูปแบบที่ประชาชนไว้วางใจ เช่น ภาคเอกชน
โครงการ "สังคมดี๊ดี 2 นาทีง่ายๆ" เป็นความร่วมมือของประชาชนและภาคเอกชนที่ต้องการปรับปรุงการให้บริการหน่วยงานรัฐ โดยให้ผู้รับบริการแสดงความคิดเห็นและความพึงพอใจผ่านแบบสอบถามออนไลน์ด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว สำหรับผลที่ได้จากการประเมินจะถูกส่งกลับไปยังหน่วยงานและเปิดเผยสู่สาธารณะได้รับรู้ร่วมกัน ในปลายปี 2560 โครงการได้นำร่องในหน่วยงานรัฐ 5 แห่ง และได้รับผลตอบรับที่ดี วัดได้จากการเก็บแบบสอบถามเพียงแค่ 1 เดือนพบว่าประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม 2,758 คนและได้รายงานผลประเมินไปยังหน่วยงานที่เข้าร่วม นำไปสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นโดยกลางปี 2561 โครงการจะเปิดให้ประเมินหน่วยงานอีกครั้งผู้สนใจสามารถติดตามโครงการได้ที่เว็บไซต์ http://www.easyfeedback.org
ผู้เขียนมุ่งหวังว่าหากโครงการต้นแบบนี้ประสบความสำเร็จ จะช่วยเพิ่มธรรมาภิบาลในภาครัฐด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมให้ข้อมูลและตรวจสอบการให้บริการหน่วยงานภาครัฐตามหน้าที่ของพลเมือง ซึ่งผลที่ได้ตามมา คือ การสร้างสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เอื้อต่อการสร้างพลเมืองตื่นรู้(Active Citizen) ในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันร่วมกับภาครัฐ เพราะความตื่นรู้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากนั่งเฉยๆ แต่ต้องลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น จนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้และนำไปสู่ความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี