ช่วงโหมโรงเลือกตั้งบรรดานักเลือกตั้งทั้งหลายต่างออกมาเปิดศึกวาทกรรมกันอย่างดุเดือด ซึ่งช่วงนี้มีสองแกนนำพรรคใหญ่คู่ฟัดออกมาเปิดศึกน้ำลายกันอย่างเจ็บแสบนั่นคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มคนเสื้อแดงและอดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว กับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม
เรื่องของเรื่องเกิดจากการที่ นายณัฐวุฒิ อยู่ดีๆ ก็แกว่งปากหาเรื่องตีกินด้วยการแขวะเรียกร้องให้พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมประกาศจุดยืนให้ชัดๆ ว่าจะไม่ร่วมมือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สนับสนุนนายกฯคนนอก และน่าสนใจว่าอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ คือร่วมสืบทอดอำนาจเผด็จการหรือไม่ ซึ่งจากคำพูดดังกล่าวทำเอา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกับโกรธจนลมออกหู ออกมาตอบโต้นายณัฐวุฒิ อย่างดุเดือดเจ็บแสบว่า “ณัฐวุฒิเข้าใจหรือว่าเผด็จการคืออะไร เผด็จการมีทั้งในสภาและนอกสภา แน่นอนทหารที่มาจากการยึดอำนาจเป็นเผด็จการ แต่ผู้มาจากการเลือกตั้งก็เป็นเผด็จการได้เหมือนกันนะครับฮิตเลอร์นั่นปะไรมาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน แต่เป็นเผด็จการจนนำโลกเข้าสู่สงครามโลก ครั้งที่ 2 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่ยอมรับฟังเสียงข้างน้อย ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ของตนเองและครอบครัวจนติดคุกกันเป็นแถว นั่นเป็นเผด็จการนะครับ เขาเรียกเป็นเผด็จการพลเรือน เผด็จการพลเรือนแบบนั้นอยู่ใต้ขนตาของณัฐวุฒิแท้ๆ ไม่รู้จักเลยหรือครับ อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 เราต่อต้านทั้งเผด็จการในสภาและนอกสภา จนถึงวันนี้แล้วยังแยกไม่ออกว่าอย่างไหนคือเผด็จการ อย่างไหนคือประชาธิปไตย แบบนี้เปรียบเหมือนบัวใต้น้ำๆได้แต่เป็นอาหารของปลาและเต่าไปวันๆ”
คำตอบโต้ที่เจ็บแสบของ นายนิพิฏฐ์ จี้ใจดำเพราะพรรคเพื่อแม้วของ นายณัฐวุฒิ นั้นเดี๋ยวนี้มหาชนนับวันจะรู้เท่าทันว่าที่แท้เป็นบริษัทธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมของตระกูลชิน โดยตระกูลชิน และเพื่อตระกูลชิน โดยมองการเมืองเป็นธุรกิจที่ต้องทุ่มลงทุนซื้อ สส. ซื้อเสียง ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศ แล้วโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมหาศาล แล้วใช้อำนาจรัฐทำสิ่งชั่วร้ายตามใจชอบหวังผูกขาดอำนาจและผลประโยชน์ยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและทะเยอทะยานถึงขั้นคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศเป็นรัฐไทยใหม่
ประชาธิปไตยในความหมายของ นายณัฐวุฒิ ไม่รู้ว่าจะรวมถึงการออกมาแสดงพลังนอกสภาลักษณะ “เผาไปเลยพี่น้อง มีอะไรผมรับผิดชอบเอง” จนนำไปสู่เหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองหรือเปล่า
อีกความเคลื่อนไหวหนึ่ง นายสมยศ เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อแม้ว ออกมาให้ความเห็นเชิงแก้ต่างปกป้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก กรณีที่มีการพิจารณาคดีลับหลังเพื่อเอาผิด นายทักษิณ ที่ถูกฟ้องร้องคดีทุจริตต่อหน้าที่ยุครัฐบาลทักษิณที่ออกพระราชกำหนดแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจตระกูลชินทำให้รัฐเสียหายเป็นมูลค่าราว 66,000 ล้านบาทโดย นายสมยศ อ้างว่าการออกกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาฉบับแก้ไขใหม่ในยุคคสช.ที่ให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ถือเป็นผลไม้พิษจากการปฏิวัติรัฐประหารและเป็นการเลือกปฏิบัติ มุ่งหมายใช้บังคับกับ นายทักษิณทั้งๆ ที่หลักกฎหมายต้องเป็นไปเพื่อใช้บังคับเป็นการทั่วไป และหลักการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยในคดีอาญาก็ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้
การออกมาร้อนตัวแทนนายของ นายสมยศ ยิ่งเป็นการตอกย้ำส่อถึงความเป็นเจ้าของพรรคเพื่อแม้วของนายใหญ่ทักษิณ และอาจเข้าข่ายถูกยุบพรรคได้ตามรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ห้ามบุคคลภายนอกพรรคเข้ามามีอิทธิพลต่อพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
ส่วนที่อ้างว่ากฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาฉบับใหม่ที่ให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังได้นั้นความจริงได้รับการแซ่ซ้องสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่เพราะที่ผ่านมาเหล่านักการเมืองพอถูกจับได้ว่าโกงชาติปล้นแผ่นดินก็จะหนีโทษความผิดไปเสพสุขอยู่ในต่างแดน ซึ่งตามกฎหมายเดิมหากจำเลยหลบหนีไม่มาปรากฏตัวต่อศาลในการพิจารณาคดีนัดแรกศาลก็ต้องจำหน่ายคดีชั่วคราว ไม่สามารถพิจารณาคดีต่อไปได้ทำให้คนผิดลอยนวล แต่กฎหมายฉบับใหม่เป็นการแก้เผ็ดนักการเมืองที่โกงแล้วหนีและเป็นการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน อีกทั้งเป็นการใช้ทั่วไปไม่ได้ใช้เฉพาะ นายทักษิณ อย่างที่อ้างเพราะใช้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
จากแนวคิดของคนระบอบแม้วสะท้อนให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่ส่อตะแบงลวงโลกแบบเอาสีข้างเข้าถูโดยยึดหลักกูเป็นที่ตั้ง ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งหากมีอำนาจปกครองประเทศ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี