แผนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้านของรัฐบาล คสช.ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำที่ได้ประกาศใช้ไปแล้วในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนปีนี้ซึ่งผู้รวบรวมการจัดทำแผนคือสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ซึ่งประธานของสำนักงานคณะกรรมการคือ ดร.อำพน กิตติอำพนและเลขาธิการคือ ดร.ปรเมธี วิมลศิริ
สำนักงานคณะกรรมการฯได้ประสานและดำเนินการให้เป็นไปตามที่กําหนดในพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศ 2560 จนถึงขั้นตอนสุดท้ายได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการประกาศแผนการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ กําหนดให้ดําเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่างๆ ให้เกิดผล
ตามที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศซึ่งวิธีการจัดทําแผนต้องให้ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมต้องมีการวัดผลการดําเนินการ และระยะเวลาดําเนินการปฏิรูปประเทศทุกด้านซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ จํานวน 11 คณะ ประกอบด้วย
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม ด้านพลังงาน และด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศทุกด้านได้ดําเนินการจัดทําร่างแผนการปฏิรูปประเทศเรียบร้อยและได้เสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 เห็นชอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศนอกจากนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ประชุมรับทราบแผนการปฏิรูปประเทศเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย ระบุการปฏิรูปจะไม่สำเร็จเพราะให้ข้าราชการที่เป็นคนถูกปฏิรูปมาทำหน้าที่ปฏิบัติทำให้งานบางประการไม่เป็นไปตามแผนเนื่องจากข้าราชการบางฝ่ายอาจจะไม่เห็นชอบกับแผนเพราะบางข้อไปลดทอนอำนาจของข้าราชการนั้น
ทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านกฎหมายได้กล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ระบุว่าการปฏิรูปจะไม่สำเร็จเพราะให้ข้าราชการที่เป็นคนถูกปฏิรูปมาทำหน้าที่ปฏิบัติเรื่องนี้ท่านอาจจะบ่นหน่อย แต่เป็นธรรมดา ใจท่านไม่มีอะไรหรอก เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่ ความจริงมันเป็นความรู้สึกคล้ายกันของคณะกรรมการปฏิรูป 11 คณะ ว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องยาก
นายวิษณุได้กล่าวว่าต้องเข้าใจว่าเรื่องการปฏิรูปเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ต่างจากปฏิวัติที่ทำใน 24 ชั่วโมง ข้ามคืนได้ แต่ผลจะเป็นอย่างไรไม่รู้ การปฏิรูปนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมสิ่งที่คนเคยชินมาเป็นร้อยปีบางรัฐบาลใช้วิธีสิ่งจากบนลงล่างบางรัฐบาลใช้วิธีทำจากล่างขึ้นบนแต่ไม่สำเร็จระยะหลังเราจับจุดได้ว่าต้องทำทั้งสองอย่างพร้อมกันจึงมีคณะกรรมการปฏิรูปเป็นคนคิดแผนปฏิรูปและให้ส่วนราชการทำเพราะมันเกี่ยวพันกับข้าราชการ
โดยมีคณะกรรมการปฏิรูปทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบว่าส่วนราชการได้ทำตามแผนหรือไม่ ถ้าถามว่า ตั้งแต่ คสช.เข้ามาได้ปฏิรูปอะไรไปหรือไม่ อยากบอกว่าได้ทำอะไรไปแล้วมากตั้งแต่ยังไม่มีแผนปฏิรูป และอีกในไม่ช้าคงมีการเริ่มการชี้แจงแสดงผลการปฏิรูปออกมา
ส่วนที่มีผู้โจมตีว่ารัฐบาลคสช.ไม่ได้ทำอะไรเลยในเรื่องปฏิรูปถ้าเราดูไปรอบตัวเราหลายอย่างมันมีความเปลี่ยนแปลงที่ได้เริ่มแล้ว เพียงแต่เราอาจจะยังไม่เห็นผลหมดทุกเรื่องเท่านั้น คงต้องมีการไปปรับในส่วนของราชการซึ่งในเดือนมิ.ย.นี้พลเอกประยุทธ์ได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรมเป็นผู้เร่งรัดดำเนินการโดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนให้นายบวรศักดิ์ เป็นประธาน
การปฏิรูปเป็นเรื่องที่ยุ่งยากทุกๆฝ่ายมีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์และได้รับประโยชน์โดยเฉพาะนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยหลายต่อหลายคนได้ออกมาวิจารณ์รัฐบาลคสช.มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นนายจาตุรนต์ ฉายแสง,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายพิชัย นริพทะพันธุ์
ปัญหาใหญ่ในการปฏิรูปนั้นที่เห็นมาโดยตลอดสมัยระบอบทักษิณครองอำนาจด้านการเมืองมาตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2557 รวมเวลา 14 ปี คือนักการเมืองได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำมีการเล่นพรรคเล่นพวกแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและพนักงานองค์การของรัฐแบบอยุติธรรมอยู่บ่อยครั้งการที่ไปวิจารณ์รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ควรย้อนหลังกลับไปมองดูตัวเองด้วยว่าในสมัยที่นายทักษิณมีอำนาจนั้นได้ประพฤติไว้อย่างไรบ้าง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี