ในเมื่อรัฐบาลหนึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จล้นฟ้า ไร้คู่ต่อสู้ ไร้แรงบีบคั้นจากประชาคมโลก ไม่มีองค์กรถ่วงดุลตรวจสอบ ในขณะเดียวกันเสียงจากประชาชนก็ถูกปิดหูปิดตา พลังประชาชนถูกกดถูกตีกรอบ และเมื่อมีการเอ่ยปากอาสามาทำการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูประบบการเมืองที่ติดหล่มมายาวนาน ก็คงไม่แปลกที่ประชาชนภายใต้รัฐบาลนั้นๆ จะมีความคาดหวังอย่างสูงยิ่งว่า รัฐบาลขี่ม้าขาวของพวกเขาจะมุ่งใช้อำนาจทั้งหมดไปเพื่อรับใช้บ้านเมือง เพื่อความผาสุกของปวงชน
แต่ทว่าผลที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม สิ่งที่ประชาชนพลเมืองได้เห็น และตระหนักมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คือการได้ยินแต่การอธิบายโฆษณาความที่ดูมีเหตุมีผล (หรือดูสมเหตุสมผล) เป็นตรรกะน่าฟัง แต่เมื่อฟังผ่านๆ ไป และเมื่อเริ่มพินิจพิจารณาทบทวนไตร่ตรองแล้ว ก็เริ่มตระหนักว่า มันแค่เป็นเพียงตรรกะแบบเอาตัวรอด หรือไม่ก็เป็นการเอาดีเข้าตัว หรือไม่ก็ปิด
เรื่องราวให้จบสิ้นไปเสียแบบง่ายๆ ดื้อๆ
ยกตัวอย่างเช่น
1. เพื่อเสถียรภาพของบ้านเมือง จึงยังไม่ปลดล็อกการเมือง: ในทางปฏิบัติแล้ว เป็นการกีดกันนักการเมืองออกไปจากเวที แล้วให้ฝ่ายรัฐบาล คสช. ได้เล่นการเมืองแต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างเต็มที่ไร้ขอบเขต
2. ฝ่ายรัฐบาล คสช. อยู่มา 4 ปีแล้ว ประกาศแน่ชัดว่า ไม่ชอบฝ่ายการเมือง แถมโยนบาปให้ว่าเป็นตัวปัญหา แต่แล้วบัดนี้ต้องนำนักการเมืองอาชีพมาช่วยงาน โดยอ้างว่าเพราะมีประสบการณ์ ก็เลยมีคำถามของสังคมว่า แล้วเหตุใดจึงไม่เชิญมาร่วมมือกันเสียตั้งแต่ต้น? และเหตุใดจึงเลือกนักการเมืองเพียงบางกลุ่มบางคน และ “ประสบการณ์” ที่ว่านั้น มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?
3. ฝ่ายรัฐบาล คสช. ประกาศว่าจะล้างการเมืองทุนสามานย์ และส่งเสริมความดีงาม หรือการคบแต่ฝ่ายรัฐบาล คสช. ก็แวดล้อมด้วยกลุ่มทุนผูกขาดเรื่อยๆ และมุ่งกระทำการแต่ในเรื่องโครงการใหญ่ๆ โตๆ ที่ประชาชนไม่มีสิทธิ์ร่วมด้วยใดๆ และไม่มีรายละเอียดเปิดเผยแก่สาธารณชน
4. ฝ่ายรัฐบาล คสช. ก็พูดเรื่องธรรมาภิบาลและการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ในทางปฏิบัติของรัฐบาล คสช. สังคมไทยกลับเห็นว่าเรื่องสงสัยต่างๆ เช่น เรื่องการเช่าเครื่องบินไปประชุมที่ฮาวาย โครงการการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำจีน การซื้อเครื่องตรวจระเบิดและเรือเหาะ และรถหุ้มเกราะยูเครนนั้น เรื่องถูกปิดไปเฉยๆ โดยขอชี้แจงว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องเหตุการณ์นาฬิกาข้อมือ ก็บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงการเป็นบุคคลสาธารณะและเสียงสะท้อนจากประชาชน
5. ฝ่ายรัฐบาล คสช. ก็บอกว่าโครงการประชานิยมนั้นไม่ดี แต่ก็เลี่ยงบาลีด้วยการมีโครงการที่เรียกว่า “ประชารัฐ” ซึ่งใช้เงินงบประมาณ (ภาษีประชาชน) เป็นหมื่นๆ แสนๆ ล้าน ไปแบบลด แลก แจก แถม ทั้งที่ชาวบ้าน หรือชาวโลกก็เข้าใจ นี่ก็ประชานิยมเช่นกัน
6. ฝ่ายรัฐบาล คสช. ก็ลงพื้นที่ในรูปแบบของ ครม. สัญจร เป็นการเลือกเฉพาะพื้นที่และสนทนากับผู้นำท้องถิ่นว่าจะทำโน่นทำนี่ ก็มีคำถามว่า แล้วทำไมทำแค่บางพื้นที่ ทำไมไม่ทำทั่วประเทศให้ทั่วถึง และทำไมพบปะกับกลุ่มการบ้านการเมืองเป็นการเฉพาะ ฉะนั้น ไม่ยุติธรรม เป็นการเลือกปฏิบัติ เฉกเช่นในอดีต
7. ฝ่ายรัฐบาล คสช. บอกว่าจะเข้ามาปฏิรูปแก้ปัญหาบ้านเมืองแล้วจะคืนอำนาจให้กับประชาชน แต่ในความเป็นจริง เป็นการปฏิรูปเพิ่มอำนาจให้ตนเอง และเพิ่มอำนาจกลไกระบบราชการเพื่อรองรับอำนาจตน อีกทั้งไม่ยอมลงจากเวที จะอยู่บนเวทีให้ได้นานแสนนาน
8. ฝ่ายรัฐบาล คสช. มีอำนาจควบคุมประเทศล้นฟ้าดังกล่าว แต่เมื่ออดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่มีคดีติดตัว ลักลอบออกนอกประเทศไปได้ ฝ่ายรัฐบาล คสช. ก็บอกว่าเจ้าตัวเขาหลบหนีไปแล้ว ไม่รับผิดชอบใดๆ เสมือนทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ตรรกะเหล่านี้ ประชาชนรับทราบแล้วก็ทำได้แค่ปวดหัวปวดจิตปวดใจ เริ่มตระหนักว่า จะทนรับความรู้สึกที่ว่า อนาคตประเทศคงไม่พ้นความมืดมน เพราะไม่มีอะไรที่จะคาดหวังจากรัฐบาล คสช. ผู้มีอำนาจล้นฟ้าได้
ผมเองในฐานะเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ก็ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ในการส่งเสียงดังๆออกไปยังสังคมว่า ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมแบบศรีธนญชัยเหล่านี้ และขอเรียกร้องให้เลิกพฤติกรรมเหล่านั้น และหันมาใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สุขและความเจริญของประชาชนเป็นหลัก ตามที่ได้เคยสัญญาเอาไว้กับสังคมเสียที
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี