เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำมาเลเซีย วัย 92 ปี ซึ่งเลิกราจากวงการเมืองด้วยตัวเอง หวนกลับมาสมัครรับเลือกตั้งและได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นนั้น ด้วยมันสมองยังปราดเปรื่องและแม้จะวัยสูงอายุ (เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุสูงสุดในโลก) แต่สภาพของร่างกายที่ยังแข็งแรงสามารถคงทนต่อการทำงานทางการเมืองไม่ต่างจากนักการเมืองวัยฉกรรจ์ทั่วไป ด้วยการหวนกลับมาทำงานการเมืองด้วยการนำกลุ่มการเมือง 2 กลุ่ม คือ พรรคเอกภาพประชาชนมาเลเซีย และพรรคความยุติธรรมแห่งปวงประชาชน ที่นำโดย ดร.วาน อาชิชาห์วาน อิสมาวิล ภรรยาของ นายอันวาร์ อิบราฮิม แกนนำคนสำคัญของพรรคซึ่งในอดีตได้ถูกวางตัวเป็นทายาททางการเมืองของ ดร.มหาเธร์ ครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของนายอันวาร์ อิบราฮิม จนถูกรัฐบาลของ ดร.มหาเธร์ จำคุก แต่บัดนี้ความบาดหมางระหว่างทั้งสองได้เปลี่ยนไปเข้าใจว่าเพื่อประโยชน์ของประเทศทำให้ร่วมกันในทางการเมืองอีกครั้ง ผลทำให้กลุ่มการเมืองภายใต้การนำของ ดร.มหาเธร์์ ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างถล่มทลาย ผิดจากความคาดหวังของโพลล์ทั้งหลาย สาเหตุสำคัญนอกจากการร่วมกันระหว่างพรรคของ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กับพรรคของ นายอันวาร์ อิบราฮิม แล้ว ปัญหาการทุจริตของรัฐบาลภายใต้การนำของราจิบ อดีตนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกองทุนวันมาเลเซียดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นเงินถึงประมาณ 26,000 ล้านริงกิต โดยมีชื่อ นายราจิบและครอบครัวเข้าไปเกี่ยวข้อง
สาเหตุสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลของนายราจิบสำเร็จนอกจากเรื่องทางการเมืองแล้ว ที่สำคัญ คือ ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลโดยเฉพาะนายราจิบ นายกรัฐมนตรี กับครอบครัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหันกลับมาลงคะแนนให้กลุ่มการเมืองของ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด และนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้รับชัยชนะ บทเรียนที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศมาเลเซียควรจะเป็นบทเรียนแก่ประเทศต่างๆ ที่มีการปกครองไม่ว่าระบอบใด ปัญหาใหญ่ของสังคมโลกในปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมที่การสื่อสารมีความรวดเร็วและเปิดกว้างจะทำให้ทุกสังคมมีการเรียนรู้เท่าเทียมกันในเวลาอันสั้น
ฉะนั้น สังคมใดที่ผู้มีอำนาจถ้าคิดว่าสามารถจะปกครองประเทศในระบอบใดก็ตาม ถ้ามีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในเรื่องการทุจริตโดยเกิดจากตัวผู้มีอำนาจเองหรือพวกพ้องก็ตามยากที่จะอยู่ได้ แต่ถ้าผู้ปกครองที่ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมรวมทั้งไม่ยินยอมให้บุคคลใดไม่ว่าจะมีความผูกพันกันในระดับใดทุจริตเปรียบเสมือนสุภาษิตที่ว่า “ปลาร้าพันห่อด้วยใบคา ใบก็เหม็นคาวปลาคละคลุ้ง” ฉะนั้นผู้บริหารประเทศนอกจากตัวเองสะอาดแล้วยังต้องควบคุมบุคคลแวดล้อมให้สะอาดด้วยก็จะได้รับการยอมรับจากสังคม
อย่างไรก็ดี เมื่อสังคมโลกเป็นสังคมที่ยอมรับการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ เป็นการปกครอง “ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน” ฉะนั้น ประชาชนทุกประเทศก็ปรารถนาให้การปกครองเป็นไปตามระบอบนี้ อย่างไรก็ดี นักการเมืองในระบอบนี้ต้องมีความโปร่งใสปราศจากการทุจริตประพฤติมิชอบในเวลาเดียวกัน ประชาชนทุกคนต้องปกป้องสิทธิ์และปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้โดยต้องท่องคำว่า “ธุระใช่” โดยลืมคำว่า “ธุระไม่ใช่” สังคมจึงเป็นสังคมประชาธิปไตยได้ยั่งยืน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี