บ้านเมืองของเราขณะนี้ สิ่งที่เรียกว่า “ความทุจริต” กำลังขยายตัวเหมือนโรคร้ายที่กำลังระบาดหนักทุกหย่อมหญ้า จนดัชนีชี้วัดในเรื่องคอร์รัปชั่นในโลกเมื่อปี 2559 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้คะแนนลดลง จากคะแนน 100 ได้เพียง 35 คะแนน คือสอบตก
เห็นแล้วเป็นอย่างไร ภายใต้อำนาจการรัฐประหาร
เราท่านทั้งหลายคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การใช้อำนาจและกลไกต่างๆของรัฐในการบริหารจัดการบ้านเมือง ยังไม่สามารถกู้สถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะ “ความทุจริต” ยังคงเบ่งบานขยายตัวไม่หยุดยั้งในทุกวงการของบ้านเมืองอย่างที่เห็น
ต้นเหตุสำคัญมาจากการทำงานที่ขาดธรรมาภิบาล
มีการทุจริต คอร์รัปชั่นกันทุกระดับ ใช้เงินเป็นเครื่องมือในการซื้อทุกอย่างที่ต้องการ ซื้อคนที่ต้องการนำมาใช้เพื่อให้ทำในสิ่งที่ต้องการ
เคยมีการวิเคราะห์ในทางวิชาการในเรื่องการทุจริตในวงราชการไทย ที่ไม่เคยหยุดยั้งและมีต่อเนื่องกันมาตลอดถึงขณะนี้ว่า เกิดจากปัจจัย 3 ฝ่ายด้วยกันคือ ฝ่ายที่เข้ามามีอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือการยึดอำนาจ และฝ่ายข้าราชการตลอดจนฝ่ายพ่อค้านักธุรกิจ ที่ทำให้เกิดการเล่นพรรคเล่นพวกเพื่อประโยชน์ตนเป็นหลัก
การมีอำนาจนั้นส่งผลกระทบตามมาเสมอ ถ้าผู้มีอำนาจหรือผู้ได้อำนาจไปใช้เป็นคนที่มีคุณลักษณะ 3 อย่าง คือ
1.เป็นคนโลภ จะเกิดการโกงกินกันทุกรูปแบบ
2.เป็นคนหลงในอำนาจ มัวเมาในอำนาจ
3.เป็นคนเจ้าโทสะ ทำอะไรไม่มีสติยับยั้ง
คนใดที่ได้อำนาจไปใช้ และมีคุณสมบัติดังกล่าวติดตัว คนผู้นั้นเป็นตัวกัดกร่อนภูมิต้านทานของสังคม เป็นคนหลงในอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของส่วนรวม
นอกจากนี้ “ค่านิยมของสังคม” หลายภาคส่วนก็เป็นอุปสรรคมากในการป้องกันในเรื่องความทุจริต มีการยึดติดด้านวัตถุกันมากขึ้น อวดความมีฐานะทางสังคม หรือความร่ำรวยมั่งคั่ง โดยไม่สนใจว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้มาด้วยวิธีการใด สุจริต หรือ ทุจริต
ข้าราชการหาผลประโยชน์ให้ผู้มีอำนาจ
ผู้มีอำนาจก็อยากได้คนดังกล่าวมาใช้งาน
เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่เป็นคนทุจริต และข้าราชการที่ทุจริตก็ไปด้วยกันได้ดีเสมอมาจนกระทั่งทุกวันนี้
การทุจริตในวงราชการไทยที่มีมากขึ้นนั้น เกิดจากการทุจริตในระบบงานของรัฐ ที่มีโครงสร้างทางการเมืองเป็นแบบระบบอุปถัมภ์ หรือ “พวกพ้อง” ซึ่งทำให้เกิดความหละหลวมในการควบคุมพฤติกรรมทางทุจริต ซึ่งยังเปิดช่องทางให้เห็นโอกาสที่จะหารายได้เพิ่ม และประเพณีการปฏิบัติในการช่วยเหลือพวกพ้อง เช่นกลุ่มโรงเรียนเดียวกัน รุ่นเดียวกัน และสถาบันเดียวกัน เป็นต้น รวมทั้งระบบตรวจสอบในระบบราชการอ่อนแอ เพราะเป็นพวกพ้องเดียวกัน อย่างที่เห็นในหลายกรณีที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โยกโย้ ยืดเวลาในการตรวจสอบชำระความให้เสร็จสิ้นตามกำหนด
การทุจริตที่สำคัญอย่างมากเรื่องหนึ่งในวงราชการไทยขณะนี้ ที่เห็นกันอยู่เป็นประจำก็คือเรื่อง “การจัดซื้อจัดจ้าง” ที่ไม่มีความโปร่งใส ทำให้
เจ้าหน้าที่รัฐไม่เห็นความสำคัญที่จะเอาจริงเอาจังกับการตรวจสอบในความถูกต้อง เพราะเหมือนลูบหน้าปะจมูก คนกันเอง หรือไม่ก็ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาถึงตนด้วยซ้ำไป
สรุปในภาพรวม เกี่ยวกับสาเหตุการทุจริตในวงราชการไทยปัจจุบัน ก็คือ ระบบอุปถัมภ์ เป็นปัจจัยเอื้อให้เกิดการทุจริตจากพวกพ้องหรือญาติพี่น้อง รองลงมาคือรายได้ในการครองชีพของข้าราชการ แต่ที่ยังรับราชการเพราะอาชีพรับราชการเป็นอาชีพที่มีเกียรติ โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีหนี้สิน ต้องหารายได้เพิ่ม โดยการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปในทางมิชอบ
นอกจากนี้ สาเหตุทางการเมืองที่ทำให้เกิดการทุจริตในบ้านเมืองก็คือ ผู้มีอำนาจทางการเมืองใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือในทิศทางของผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชั่วดี หลงในอำนาจที่มีอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่ได้อำนาจมาจากกระบวนการที่ไม่โปร่งใส หรือไม่ถูกต้องตามกฎกติกาของระบบการเมืองการปกครองที่วางไว้
สาเหตุทางด้านเศรษฐกิจก็เช่นเดียวกัน ที่ทำให้เกิดการทุจริตในวงราชการไทย และบ้านเมืองไทยโดยรวมขณะนี้ก็คือ ค่านิยมที่ไม่รู้จักพอของผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน เพื่อเอื้อประโยชน์แก่คนให้
ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวมา แก้ไขและป้องกันได้ ถ้าบ้านเมืองมีองค์ประกอบสำคัญต่อไปนี้
1.ผู้นำในการบริหารปกครองบ้านเมืองต้องมีจิตสำนึก ไม่เป็นคนทุจริตเสียเอง สามารถควบคุมผู้คนของตนได้ในการทำงานให้โปร่งใสตลอดเวลา
2. ภาคประชาชนคนเสียภาษี ต้องมีบทบาทในการตรวจสอบและติดตามเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง รู้ทันในเรื่องการใช้อำนาจในทางไม่ถูกต้องของผู้บริหารปกครองว่าเป็นอย่างไร รู้ทันพวกขี้ฉ้อทุจริตในบ้านเมืองทั้งในภาคราชการและภาคธุรกิจต่างๆ
ภาคประชาชนคนเสียภาษีดังกล่าวนี้ ต้องเลือกตัวแทนของตนขึ้นมาให้ได้จากกลุ่มต่างๆที่มีอยู่ทุกแขนงในบ้านเมือง ให้ทำหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว ให้สมกับที่เข้าใจกันมาโดยตลอดว่า บ้านนี้เมืองนี้มีประชาชนเป็นเจ้าของ จะปล่อยปละละเลยไม่ได้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี