ภาพคุ้นตาที่กำลังจะหายไป : สข.ประยูร สงแก้ว ฉีดยุงในเขตจตุจักรด้วยตัวเอง
ภาพจำสมัยผมเป็นเด็ก มีคนผิวคล้ำๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ เก่าๆ แบกเครื่องฉีดยุงมาพ่นแถวบ้าน จัดงานเลี้ยงพระทีก็คอยขนเต็นท์ขนเก้าอี้มาให้ เลยถามพี่คนงานว่าชื่ออะไร เค้าตอบว่าชื่อ “ประยูร สงแก้ว” เป็น สข.จตุจักร … ตอนนั้นยังงงว่าเป็น สข. เค้าทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ
ผ่านมาแล้วยาวนานถึง 33 ปี นับตั้งแต่ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มีผลใช้บังคับ หลายคนคงได้เห็นวิถีชีวิต “คนกรุง” กับ “สมาชิกสภาเขต (สข.)” ไม่ต่างจากผมที่มีความผูกพันกับพี่ประยูรมานานหลายปี จนกระทั่งเรื่องน่าใจหายเกิดขึ้น เมื่อร่างแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ฉบับล่าสุด ที่อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นโดยกรุงเทพมหานครผ่านทางเว็บไซต์ www.bangkok.go.th บัญญัติไว้ในมาตรา 22 อย่างชัดเจนว่าให้ยกเลิก “สภาเขต”
เดิม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ระบุในมาตรา 71 ให้แต่ละเขตการปกครองของกรุงเทพมหานครมีสภาเขต ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างน้อยเขตละ 7 คน สรุปหน้าที่หลักได้ดังนี้ เป็น “ที่ปรึกษา” ให้ผู้อำนวยการเขต “เป็นองค์คณะกรรมการตรวจสอบข้าราชการในเขตของตน” ไม่มีอำนาจกำหนดหรือพิจารณาอนุมัติงบประมาณใดใดเลย งานเสนอโครงการต่างๆเป็นเรื่องของข้าราชการ กทม. และการพิจารณาอนุมัติเป็นอำนาจสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ผมขอสรุปว่า สข.เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งตำแหน่งเดียวที่อยู่ห่างไกลความเสี่ยงต่อการทุจริตมากที่สุด เพราะไม่ได้ข้องแวะกับเงินเลย
ในทางกลับกัน หน้าที่ของเค้าคือการเอาเรื่องทุกข์ร้อนของชาวบ้านไปประสานบอกข้าราชการในสำนักเขตให้ดำเนินการ แต่จะไปบังคับให้ข้าราชการทำก็ไม่ได้ เพราะก็เป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น หากจะมีดุลต่อรองบ้างก็คงเพราะเป็นผู้ตรวจสอบข้าราชการในสำนักงานเขตนั้นๆ จึงต้องมีความเกรงใจในจุดหนึ่ง ด้วยความที่ สข. เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมจากคนในพื้นที่
ลองคิดตามกันดูนะครับ สข. 7 – 8 คน จะต้องดูแลคนทั้งเขตจำนวนเป็นแสนคน บนฐานเงินเดือน 11,990 บาท/เดือนเท่านั้น พูดกันให้เข้าใจง่ายๆ ว่างานนี้ เหนื่อย เงินน้อย ถ้าไม่เสียสละกันจริงๆ คงไม่มาทำงานเป็น สข.
ยุครัฐประหารนี้ ที่ประชาชนคาดหวังเรื่องการปฏิรูป รวมถึงการปฏิรูปการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ได้โอกาสลงมือเขียนแผนกลับกลายเป็นอดีตข้าราชการประจำ ที่ยึดแนวความคิดแบบข้าราชการ (Bureaucrat) บวกกับอัตลักษณ์ของการทำรัฐประหารคือการรวมศูนย์อำนาจ เลยเป็นผลให้แผนปฏิรูปการกระจายอำนาจออกมาในรูปแบบการตัดสิทธิ์ผู้แทนประชาชน จนเกิดเป็นรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการปกครองท้องถิ่น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่เสนอให้ยกเลิกสภาเขตหรือสมาชิกสภาเขต (สข.) เพราะมองว่า สข. ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งมาเป็นแค่ตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์หรือหัวคะแนนพรรคการเมืองเท่านั้น และพยายามแทนที่ด้วย “คณะกรรมการประชาคมเขต” จำนวน 20 คนต่อเขต มาจากกลุ่มอาชีพและผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน ตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์แก้ปัญหาเมืองหลวงและปริมณฑล ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้ความเห็นชอบมา
ผมขอให้ผู้มีอำนาจร่างกฎหมายในขณะนี้ อย่าใช้ความรู้สึกเกลียดชังนักการเมืองเลือกตั้งจนไม่คำนึงถึงสาระหน้าที่จริงของ สข. “การที่จะเปลี่ยนจากเลือกตั้งเป็นแต่งตั้ง จาก สข.เป็นกรรมการประชาคมเขต จะทำให้ดุลการตรวจสอบข้าราชการในสำนักงานเขตหายไปทันที” เพราะใครจะกล้าไปตรวจผู้ที่แต่งตั้งตนเองมา
ขณะนี้ไม่มีการเลือกตั้ง สข. มาทำหน้าที่ โรคระบาดใน กทม. อย่างไข้เลือดออกระบาดหนักที่สุดในปี 2560 ครองแชมป์สถิติจังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยสูงสุดถึง 8,739 ราย ไม่ต่างจากพิษสุนัขบ้า ซึ่งกรุงเทพมหานครถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดงที่มีการระบาดหนัก ทั้งที่ กทม. มีงบประมาณในการดูแลถึง 79,047 ล้านบาทในปีนี้
เมื่อไร้ สข.เป็นสะพานเชื่อมนำพาทุกข์ร้อนจากประชาชนสู่ข้าราชการ กทม. เราจึงไม่เห็นคนกระตือรือร้นมาฉีดยุง ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง จะเห็นจะได้ยินก็แต่เจ้าหน้าที่เขตมา “ฉีดยุงฉีดหมา” ให้ ก็แต่การร้องขอเป็นรายต่อรายเท่านั้น จะเห็นเดินหน้าปูพรมกันแบบเมื่อก่อน อย่างที่เคยปฏิบัติกันมาก็ไม่มีแล้ว
ฝากถึงแฟนคอลัมน์ที่คอยอ่านอยู่ หากยังเห็นความสำคัญของ สข. ตัวแทนผู้ใกล้ชิดประชาชน ก็ขอให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นที่ www.bangkok.go.th เราจะได้มี สข. ไว้ดูแลรับใช้พวกท่านต่อไป ส่วนผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ ทั้ง กทม. ครม. และ สนช. ก็ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของกรุงเทพมหานครในอนาคต มากกว่าสาละวนอยู่กับการเกลียดชังนักการเมือง ทุกอาชีพมีทั้งคนดีคนเลว ผมขอให้ระบอบประชาธิปไตยได้แก้ไขปัญหาด้วยตัวมันเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี