เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ผู้ช่วยโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ครั้งที่ 6/2561 ที่จังหวัดระนอง และชุมพรในวันจันทร์ที่ 20 และวันอังคารที่ 21 สิงหาคมนี้
โดยได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่บริเวณจังหวัดและอำเภอโดยรอบเพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและสร้างการรับรู้เข้าใจกับประชาชนตลอดจนประเมินประเด็นปัญหาอุปสรรคในการบริหารงานรายจังหวัดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับและติดตามปฏิบัติราชการในกลุ่มพื้นที่จังหวัดและเป็นประธานการประชุมรวมทั้งเตรียมการบูรณาการเนื้อหาประเด็นต่างๆ ในครั้งนี้
ทางด้านจังหวัดระนองนั้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ห้องประชุมรัตนรังสรรค์ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับครม.สัญจร ชุมพรกับระนอง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมกัน โดยนายจตุพจน์กล่าวว่าเนื่องจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีประสานการลงพื้นที่คณะรัฐมนตรีมีกำหนดการประชุม ครม.สัญจร
ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน กำหนดลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติราชการในเขตพื้นที่จังหวัดระนองกับชุมพร ในวันที่ 20 สิงหาคม โดยจะมีการพบปะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ณ หอประชุมคอซู้เจียง ศาลากลางจังหวัดระนองหลังจากนั้นจะไปพบปะประชาชนในพื้นที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติพร้อมเยี่ยมชมศูนย์ฟื้นฟูโรงพยาบาลระนองและเยี่ยมโครงการพัฒนาท่าเรือระนอง
ส่วนวันที่ 21 สิงหาคมนั้น จะมีการประชุมครม.ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร ที่ประชุมร่วมของภาคเอกชน ซึ่งมี หอการค้าจังหวัดสภาอุตสาหกรรมจังหวัดและชมรมธนาคารได้ข้อสรุปโครงการที่จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณา 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างท่าเรืออเนกประสงค์ซึ่งเป็นโครงการที่เคยศึกษาความเหมาะสมแล้วและโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำท่าแซะที่ครม.ให้ชะลอโครงการไปก่อน
ทั้ง 2 โครงการขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มศักยภาพจังหวัดชุมพร ทั้งทางด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวโดยเฉพาะท่าเรืออเนกประสงค์เป็นส่วนหนึ่งโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้หรือเอสอีซี ส่วนโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำท่าแซะถือเป็นโครงการสำคัญที่จะสร้างประโยชน์ให้ภาคการเกษตรของจังหวัดเนื่องจากชุมพรยังไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่
ทางด้านดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผยว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ระนอง และชุมพร ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ Southern Economic Corridor ให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ให้เป็น 2 โครงการใหญ่ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ทั้งด้านการลงทุนและท่องเที่ยว
โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ตามแนวคิดจะให้ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะเป็นที่รองรับการลงทุนและการท่องเที่ยว แบ่งการพัฒนา 3 จุดโดยที่จังหวัดชุมพร จะพัฒนาเป็นแหล่งผลไม้ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟที่ลงมาจากทางเหนือ ระนองที่มีท่าเรือพัฒนาให้เป็นท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามันที่จะเชื่อมไปยังกลุ่มประเทศความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล ที่ประกอบด้วย บังกลาเทศ อินเดียศรีลังกา ทำให้สินค้าในพื้นที่ภาคใต้มีประตูทางออกไปยังต่างประเทศ ส่วนสุราษฎร์ธานี ที่มีความสมบูรณ์ด้านการเกษตร รัฐจะผลักดันเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมชีวภาพ
ชุมพรนั้นเป็นจังหวัดขนาดกลางเป็นเมืองหน้าด่านสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นเมืองโบราณตั้งแต่ปี 1070 ยุคอาณาจักรศรีวิชัยเป็นหน้าด่านทางเหนือของแคว้นศิริธรรมนครหรือศรีธรรมราช 1 ใน 12 เมืองบริวารนักษัตรมีประชากร 509,650 คน มี 8 อำเภอ คือ อ.เมือง ท่าแซะ ปะทิว หลังสวน สวี พะโต๊ะ ละแม ทุ่งตะโก อาชีพหลักคือเกษตรกรรม การประมงทะเล การพาณิชย์ การท่องเที่ยว
ระนองเดิมเป็นเมืองขึ้นของชุมพรนั่นเองตั้งเมืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายมีประชากร 190,399 คน เดิมมีแหล่งแร่ดีบุกปัจจุบันไม่มีแร่แล้วมี 5 อำเภอ คือ อ.เมืองสุขสำราญ กะเปอร์ กระบุรี ละอุ่น รัฐจะพัฒนาเป็นเมืองท่าอ่าวเบงกอลมีรายได้จากการประมง เกษตรกรรม การท่องเที่ยวเช่นเดียวกับชุมพร
ทั้ง 2 จังหวัด มีสส. 4 คน เป็นฐานสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ การดูดทางด้านการเมืองที่นี่คงไม่มีหรือมีก็คงทำได้ยากรัฐบาลคงให้ความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจไม่เหมือนสุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราชที่เป็นจังหวัดขนาดใหญ่และมีความสำคัญมากกว่า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี