“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 29 ยังไม่ยอมลั่นวาจาว่าจะกลับมาเป็น “นายกรัฐมนตรี” ภายหลังเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยครั้งที่ 27 ในปีหน้า 2562 หรือไม่ แม้จะมีผู้สื่อข่าวสำนักใหญ่2-3 คน ที่เป็นที่ทราบกันดีว่าบุคคลผู้นั้นได้รับคำสั่งสายตรงจากนายใหญ่ให้มายั่วอารมณ์ “ลุงตู่” เล่นๆ และนับเป็นการหยั่งท่าทีของหัวหน้าคสช.ไปด้วยในตัวว่าจะพร้อมในการตอบคำถามหรือไม่ ? !
การเมืองในระยะ 9-10 เดือนข้างหน้าจึงเป็น “ห้วงเวลา” ของการชิงไหวชิงพริบระหว่างรัฐบาลทหาร คสช.กับพรรคเพื่อไทยเป็นหลักและมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นม้ารอง คอยสอดแทรกทำคะแนนนิยมจากประชาชนเป็นระยะๆ เพราะเจตนารมณ์ของเหล่าประชาธิปัตย์นั้นต้องขอสงวนจุดอ่อนคอยหาจังหวะเหมาะๆ ออกหมัดแย็บเก็บคะแนนจากประชาชนฝ่ายสนับสนุนไปเรื่อยๆ เพราะเล็งเห็นว่าฐานคะแนนนิยมของประชาชนยังไม่มากพอรอเวลาไปก่อนน่าจะดีกว่า
สำหรับ “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีนั้นอย่างไรเสียก็มีคะแนนจากสว. 250 คน เป็นฐานอยู่หากได้คะแนนจาก สส. มาสนับสนุนอีกสัก 200 กว่าเสียง มันก็น่าจะเพียงพอที่จะให้มีการเสนอชื่อ “พลเอกประยุทธ์” ให้ “เข้าป้าย” เป็นนายกรัฐมนตรีได้ตามความประสงค์ซึ่งเมื่อ “รัฐธรรมนูญ” ให้โอกาสไว้จะมาห้ามความต้องการของประชาชนชาวไทยได้หรืออย่างใด?
อย่างไรก็ตาม ทางด้านพรรคเพื่อไทยนั้นเองก็ยังมีจุดอ่อนตรงที่ว่านโยบายแบบทักษิณคิด เพื่อไทยทำไม่อาจจะนำมาใช้ได้เพราะทักษิณเป็นผู้ต้องขังและผู้ต้องหาที่หนีคดีอาญามากถึง 7 คดี คุณพี่เขาไม่ยอมมาปรากฏตัวที่ศาลมันก็หมายความว่าหมดสิทธิ์ที่จะมาร้องแรกแหกกระเชอใดๆ ทั้งสิ้นถือว่าเป็นการแพ้น็อกเอาท์ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวทีสู้เมื่อไม่ยอมมาศาลก็หมายความว่าไม่มาแก้ต่างด้วยตัวเองจะใช้ทนายความมาสู้กี่คนมันก็แพ้
มันไม่เหมือนกับโอเจ ซิมป์สัน อดีตนักกีฬาคนดังของสหรัฐอเมริกาและดาราภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ตกเป็นผู้ต้องหาว่าฆ่าอดีตภรรยาและเพื่อนหนุ่มคนใหม่ 2 ศพ ที่โอเจใช้กลยุทธ์นำกองทัพทนายความมือดีหลายๆ คนมาสู้ในชั้นศาลในเมื่อหลักฐานของฝ่ายโจทก์คืออัยการนครลอสแองเจลิสและรัฐแคลิฟอร์เนีย สืบพยานไม่เคลียร์ให้คณะลูกขุนเห็น ฝั่งคณะลูกขุนเลยมีมติว่าโอเจเขาไม่มีความผิดในคดีอาญาทำให้รอดไม่ต้องติดคุก
อันที่จริงตัวทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 นั้นในเมื่อไม่อยากมาสู้คดีในศาลก็ต้องไปใช้การเมืองในการเลือกตั้งถ้าหากทักษิณบอกว่าเพื่อไทยจะชนะแบบหิมะถล่มถ้ามันทำได้จริงก็ต้องยอมรับว่าประชาชนชาวไทยเขาคิดว่าทักษิณบริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์เขาเลยลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกแบบนี้ก็คงวุ่นต่อไม่รู้จบเพราะกลับมานโยบายแรกของพรรคมี
ข้อเดียวเหมือนเดิมคือออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบสุดซอยคือยกผลประโยชน์แก่จำเลยทุกฝ่ายทุกคนให้ออกมาจากเรือนจำ
ถ้าทำแบบเดิมแบบเก่าที่เคยทำมาโลกต้องตราหน้าว่าพรรคการเมืองไทยและประชาชนคนไทยเป็นแบบนี้ใครโกงไม่สนข้าชอบเสียอย่างยังไงคนนั้นก็ดีไปหมดเพราะจะบอกกันต่อๆว่าทักษิณถูกแกล้งซึ่งการแกล้งแบบนี้คณะผู้พิพากษาไทยทำไม่ได้และไม่ได้มี 2 มาตรฐาน แต่อย่างใดในเมื่อคุณไม่ยอมเดินทางเข้ามาสู้คดีอาญาในศาล คุณก็ต้องผิดนั่นแหละถึงได้หนีคดีออกไปเป็นพลเมืองของประเทศอื่นแทนการเป็นคนไทยเมื่อไม่ได้เป็นคนไทยแล้วจะมาสั่งการพรรคการเมืองไม่ได้และคงต้องถูกศาลสั่งยุบพรรคหากมีใครร้องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งทักษิณหรือว่า “น้อย” และพลเอกประยุทธ์หรือ “ตู่” มีความเหมือนกันอย่างหนึ่งนั่นคือต่างเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารเหมือนๆ กันต่างมาจาก “รั้วจักรดาว” เหมือนกันทักษิณนั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นศิษย์เก่าจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เชียงใหม่ แล้วมาต่อที่เตรียมทหารในรุ่นที่ 10 ในปี 2512 และมาจบรร.นายร้อยตำรวจรุ่นที่ 26 ในปี 2516 ส่วน “บิ๊กตู่” จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ มาเข้าเตรียมทหารในรุ่นที่ 12 มาจบโรงเรียนนายร้อย จปร.รุ่นที่ 23
ส่วนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นสมัยมัธยมศึกษาเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลถนนสามเสน กทม.จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นก็มาเข้าโรงเรียนเตรียมทหารในรุ่นที่ 6 ปี 2508จบโรงเรียนนายร้อย จปร.รุ่นที่ 17 ปี 2512 ขณะที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่มัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ เตรียมทหารรุ่นที่ 6 และรร.นายร้อย จปร.รุ่นที่ 17 รุ่นเดียวกับพลเอกประวิตร
พลเอกประยุทธ์จะท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ได้หรือไม่ได้ต้องรอคำตอบในเดือนหน้าคือเดือนกันยายน 2561ทีมข่าวการเมืองแนวหน้าคงไม่ไปคาดคั้นเอาคำตอบอะไรจากท่านก่อนเพราะอย่างไรก็อยู่ที่การ “ตัดสินใจ” ของท่านแต่ผู้เดียวนั่นเองครับ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี