สาระสำคัญหลักของเค้าโครงการเศรษฐกิจ สรุปได้ดังภาคผนวก
ภาคผนวก
สรุปสาระสำคัญหลัก
เค้าโครงการเศรษฐกิจ ของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์)
เนื้อหาของเค้าโครงเศรษฐกิจประกอบด้วย “ข้อระลึกในการอ่านคำชี้แจง” และสาระสำคัญ ๑๑ หมวด1 สรุปได้ดังนี้
ข้อระลึกในการอ่านคำชี้แจง
แนวความคิดของหลวงประดิษฐ์มนูธรรรม เห็นว่า การที่จะส่งเสริมให้ราษฎรมีความสุขสมบูรณ์ ก็มีอยู่ทางเดียว รัฐบาลจะต้องเป็นผู้จัดการเศรษฐกิจเสียเอง โดยแบ่งการเศรษฐกิจนั้นออกเป็นสหกรณ์ต่างๆ ความคิดดังกล่าวไม่ใช่ความคิดอุปาทานที่ยึดติดกับแนวคิดของลัทธิใดๆ แต่ได้นำแนวคิดที่ดีของลัทธิต่างๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมแก่ประเทศสยามเวลานั้น มาปรับปรุงขึ้นเป็นเค้าโครง ทั้งนี้ขอให้ผู้อ่านเค้าโครงการนี้ด้วยใจที่เป็นกลาง ปราศจากเหตุแห่งความลำเอียงและทิฐิมานะ และหากติดขัดสงสัยประการใดให้ถามและชี้แจงเหตุผล
สาระสำคัญหลักของเค้าโครงการเศรษฐกิจ
๑.ด้วยเหตุแห่งความไม่เที่ยงแท้แห่งการดำรงชีวิต เช่น การเจ็บป่วยหรือพิการทำงานไม่ได้ ทำให้ราษฎรทุกคนควรได้รับการประกันความสุขสมบูรณ์จากรัฐบาล ตั้งแต่เกิดจนสิ้นชีพว่าจะได้ปัจจัยแห่งการดำรงชีวิต เนื่องจากเหลือวิสัยที่เอกชนจะทำได้หรือหากทำได้ราษฎรจะต้องเสียค่าประกันแพงจึงจะคุ้ม โดยรัฐบาลไม่ต้องเก็บเบี้ยประกันภัยจากราษฎรโดยตรง แต่อาจจัดให้แรงงานใช้ประโยชน์มากขึ้น หรือการเก็บภาษีทางอ้อม
๒.การประกันความสุขสมบูรณ์ ต้องออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกันความสุขสมบูรณ์ของราษฎร กำหนดให้เป็นหน้าที่รัฐที่จะต้องจ่ายเงินให้ราษฎรทุกคนเป็นจำนวนพอที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการในการดำรงชีวิต (มีการเขียนรายละเอียดในเค้าร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกันความสุขสมบูรณ์ของราษฎร)
๓.การที่รัฐบาลจ่ายเงินเดือนเพื่อประกันความสุขสมบูรณ์ให้ราษฎรนั้น จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้จัดการเศรษฐกิจ
เสียเอง (มีการเขียนรายละเอียดในเค้าร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบการเศรษฐกิจ) และมีข้อยกเว้นให้เอกชนประกอบการเศรษฐกิจกรณีได้รับสัมปทานจากรัฐบาล ทั้งนี้เนื่องจาก ราษฎรไม่มีทุนและที่ดินเพียงพอ “แรงงานเสียไปไม่ได้ใช้เต็มที่” (ชาวนาทำงานปีหนึ่งไม่เกิน ๖ เดือน ทำให้เวลาที่เหลือสูญเสียไป)
๔.การปล่อยให้เอกชนต่างคนต่างทำจะทำให้ใช้แรงงานสิ้นเปลืองกว่าการรวมกันทำ และหากรัฐประกอบการเศรษฐกิจโดยนำเครื่องจักรกลมาใช้จะส่งผลดีไม่ส่งผลเสียดังเช่นให้เอกชนประกอบการที่การนำเครื่องจักรกลนำมาใช้จะส่งผลให้คนไม่มีงานทำ หากรัฐประกอบการเองจะสามารถสร้างงานอื่นให้กับผู้ไม่มีงานทำได้
๕ .วิธีการจัดหาที่ดิน แรงงาน และทุน เพื่อใช้ในการประกอบการเศรษฐกิจของรัฐ
ที่ดิน รัฐบาลจะซื้อที่ดินกลับคืนจากเจ้าของที่ดิน (เฉพาะที่ดิน ที่นา ที่ใช้ประกอบการเศรษฐกิจ ไม่รวมที่อยู่อาศัย) รัฐบาลอาจออกใบกู้ให้เจ้าของที่ดินตามราคาที่ดิน และรัฐบาลกำหนดให้เงินผลประโยชน์แทนดอกเบี้ย โดยเจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การซื้อที่ดินกลับมานี้เป็นวิธีที่ต่างกับวิธีริบทรัพย์ของคอมมิวนิสต์ เมื่อรัฐบาลได้ที่ดินกลับคืนมา จะได้สามารถวางแผนการใช้ที่ดิน การใช้เครื่องจักรกล การทำคูน้ำทำได้ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
แรงงาน รัฐบาลให้ราษฎรที่อยู่ในวัยแรงงาน (๑๘ ปีขึ้นไป)เป็นข้าราชการเพื่อให้แรงงานใช้ประโยชน์ได้ตลอดปี รัฐบาลกำหนดให้ราษฎรทำงานตามคุณวุฒิและความสามารถ เงินเดือนแตกต่างกันตามคุณวุฒิแต่กำหนดเงินเดือนขั้นต่ำสุดที่พอเพียงแก่การดำรงชีพ และยกเว้นให้บางคนไม่ต้องรับราชการ เมื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
ทุน รัฐบาลจัดหาทุน โดยไม่ริบทรัพย์ของเอกชน แต่จะหาทุนโดยวิธีอื่น ได้แก่ การเก็บภาษี เช่น ภาษีมรดก ภาษีรายได้ หรือภาษีทางอ้อม การออกสลากกินแบ่ง การกู้เงิน และการหาเครดิต
๖.ในเค้าร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบการเศรษฐกิจ ได้เสนอการจัดให้มีธนาคารแห่งชาติ โดยเอาเงินทุนสำรองและรัฐบาลและเงินกู้จากเอกชนมาเป็นทุนของธนาคารแห่งชาติ
๗.การรับรองกรรมสิทธิ์ของเอกชน ให้เอกชนมีกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ซึ่งเอกชนหามาได้ และยอมรับกรรมสิทธิ์แห่งการคิดประดิษฐคิดค้นของบุคคล
๘.การจัดให้รายจ่ายและรายได้เข้าสู่ดุลยภาพ ทั้งดุลยภาพภายในและดุลยภาพระหว่างประเทศ
๙.การที่รัฐบาลจะเป็นผู้ประกอบการเศรษฐกิจที่มีพลเมืองกว่า ๑๑ ล้านคน เช่นประเทศไทย จำเป็นต้องแบ่งการประกอบการเศรษฐกิจเป็นสหกรณ์ต่างๆ โดยสมาชิกรวมกันประกอบการเศรษฐกิจครบรูป คือ ร่วมกันประดิษฐ์ จำหน่าย ขนส่ง จัดหาของอุปโภคให้แก่สมาชิก และร่วมกันในการสร้างสถานที่อยู่ โดยรัฐบาลเป็นผู้ออกที่ดินและทุน และสมาชิกสหกรณ์เป็นผู้ออกแรง ทั้งนี้การจัดให้สหกรณ์มีการปกครองตามแบบเทศบาลย่อมทำได้สะดวก
๑๐.รัฐบาลต้องถือหลักว่าจะต้องจัดการกสิกรรมและอุตสาหกรรมทุกอย่างให้มีขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยต่างประเทศ เพื่อป้องกันอันตรายจากการปิดประตูทางการค้า เพื่อให้ประเทศมีเอกราชในทางเศรษฐกิจ
๑๑.การจัดทำแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ ให้มีสภาทำหน้าที่วางแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ เกี่ยวกับ กสิกรรม อุตสาหกรรม ขนส่งและคมนาคม การจัดสร้างที่อยู่ให้ราษฎรและการแยกงานออกให้สหกรณ์ต่างๆ โดยคำนวณสืบสวนหาความต้องการปัจจัยแห่งการดำรงชีวิต และประมาณการปัจจัยที่ดิน แรงงาน ทุนที่ต้องใช้ แผนเศรษฐกิจแห่งชาตินี้ กำหนดประมาณการว่าปีหนึ่งรัฐบาลจะทำได้อย่างไร และแจ้งผลการกระทำต่อมหาชนทุกสัปดาห์
หลวงประดิษฐ์ฯ ได้เสนอ “เค้าโครงการเศรษฐกิจ” เพื่อเป้าประสงค์ที่จะวางรากฐานเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง เพื่อบรรลุภารกิจในหลักการทั้ง ๖ ประการ ดังที่เขียนไว้ในหมวดสุดท้าย “ผลสำเร็จอันเกี่ยวแก่หลัก ๖ ประการ” ได้แก่ เอกราช ความสงบเรียบร้อยภายในสังคม การเศรษฐกิจ ความเสมอภาค เสรีภาพ และการศึกษา
จะเห็นได้ว่า แนวคิดที่อาจารย์ปรีดี นำเสนอสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจทั้ง ๓ ด้าน ได้แก่ ความมั่นคง/เสถียรภาพ ความเท่าเทียม และประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
------------
1 อ่านรายละเอียดออนไลน์ ได้ที่ http://www.openbase.in.th/files/puey014.pdf
ผศ.ดร.อิสริยา นิติทัณฑ์ประภาศ บุญญะศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี