ผมได้เห็นวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงเรื่องคน ทรัพยากรมนุษย์ หรือทุนมนุษย์ มากว่า 40 ปี ที่ได้ทำงานเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงแรกๆ ปัญหาที่สำคัญก็คือ ปลูกฝังให้คนไทยรู้ว่า คนคือทรัพยากรสำคัญที่สุดของประเทศและขององค์กร
ในอดีต เราพัฒนาประเทศโดยใช้แรงงานราคาถูก ให้ความสนใจปัจจัย ด้านทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ที่ดิน แร่ธาตุ ทรัพยากรธรณีว่า สำคัญกว่าทรัพยากรมนุษย์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งสถาบันทรัพยากรมนุษย์เมื่อ 40 ปีมาแล้ว คนไทยและวงการธุรกิจเริ่มสนใจเรื่องคนมากขึ้น ถือว่า คนเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ปัจจุบันคนในประเทศเข้าใจเรื่อง “คน” ชัดขึ้น เปลี่ยนจากคำว่า บริหารงานบุคคล เป็นทรัพยากรบุคคล หรือ ทรัพยากรมนุษย์ หรือตอนหลังเป็นทุนมนุษย์ กว่าจะได้คุณภาพของคน ต้องลงทุนอย่างมีวิธีการ เช่น ได้ปริญญาอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีปัญญาด้วยมีปัญญาอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ มีนวัตกรรมและต้องมีมูลค่าเพิ่มด้วย อันเป็นที่มาของการสร้างทุนมนุษย์ให้มีมูลค่าเพิ่มชนิด 3V’s
V1 Value Added สร้างมูลค่าเพิ่ม
V2 Value Creation สร้างคุณค่าใหม่
V3 Value Diversity สร้างคุณค่าจากความหลากหลายจากความคิดสร้างสรรค์ Value Creation อันหลากหลาย
ในที่สุด ยุคพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ลูกแม่รำเพยมาทำเรื่อง ประเทศไทย 4.0 ทำให้เห็นความสำคัญของคนมากขึ้น
แต่ 4.0 เน้นนวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์ คนไทยยังตามไม่ทันการมีเทคโนโลยีแบบปัญญาประดิษฐ์ คือ มนุษย์ทำให้เครื่องจักรฉลาด ทำงานแทนคนได้ในหลายเรื่อง ทำให้โลกวิตกว่า คนจะปรับตัวอย่างไร เพราะคนถูกทดแทนด้วยปัญญาประดิษฐ์
ส่วนผมไม่วิตกนักเพราะตลอดเวลาของการทำงานเรื่องคน เห็นว่า ความเป็นคนยังสำคัญอยู่ ตราบที่เราสามารถเรียนรู้ทุกวัน เป็น Lifelong Learning เราจะรู้ทันปัญญาประดิษฐ์ได้แน่นอน
กลับเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนปรับตัวให้มีคุณภาพมากขึ้น มิฉะนั้นคนจะตกงานกันมหาศาล
จุดเริ่มต้นในแนวคิดของผมจะแนะนำว่าในทุนมนุษย์มีอย่างน้อย 6 ปัจจัยที่ปัญญาประดิษฐ์ทำแทนไม่ได้ ส่วนการนำปัญญาประดิษฐ์มาเสริมการทำงานของมนุษย์ได้ จะทำให้ศักยภาพการทำงานในอนาคตมีคุณค่าสูงขึ้น
ปัจจัย 6 ข้อ คือ จากทฤษฎี 2I’s ของผม
I ตัวแรกคือ Inspiration หรือแรงบันดาลใจการสอนหนังสือมักจะพูดอยู่เสมอว่า ผมมาให้แรงบันดาลใจแก่ผู้ฟัง ไม่ได้มาให้ลอกความคิดของผม ครั้งหนึ่งที่กระทรวงเกษตรฯ มีข้าราชการบ่นว่า เบื่อการเรียน เพราะเรียนไป ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ งานมีเยอะอยู่แล้ว ผมจึงบอกว่า คิดอย่างนี้ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ขอให้คิดใหม่ว่า อย่ายอมแพ้ มาสร้างพลังร่วมกัน สร้างแรงบันดาลใจสร้างความรู้สึกว่า ยังมีความหวัง ซึ่งเรื่องนี้ ปัญญาประดิษฐ์ AI ทำไม่ได้ เพราะ AI ถูกสั่งให้ทำตามมนุษย์ สมองกลสร้างแรงบันดาลใจไม่ได้
ส่วน I ตัวที่สองคือ Imagination ต้องมีจินตนาการ เพราะถ้ามีจินตนาการ ก็ไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ จากนั้นไปสู่นวัตกรรมและไปสู่จิตวิญญาณผู้ประกอบการ สำหรับผมจากนวัตกรรมก็นำไปสู่การเอาชนะอุปสรรค
กฎที่ 3 ของทุนมนุษย์ที่ปัญญาประดิษฐ์ AI ไม่มีคือ ความสุข Happiness ปัญญาประดิษฐ์ เก่งอย่างไรก็ไม่มีเรื่องความสุข ไม่มีความรักที่มีต่อกันได้เช่น ผมสอนหนังสือเพราะเห็นคุณค่าของลูกศิษย์ อาจารย์กับลูกศิษย์มีความผูกพันกันอย่างมากซึ่งปัญญาประดิษฐ์ AI ไม่มี
ประเด็นที่ 4 คือ เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ AI ไม่มีความสามารถมีจริยธรรม Morality ศีลธรรมหรือ Integrity ความซื่อสัตย์หรือTransparency ความโปร่งใส
ส่วนอีก 2 ปัจจัยที่ปัญญาประดิษฐ์ AI สู้ทุนมนุษย์ไม่ได้คือไม่สามารถมีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ เพราะคุณสมบัติของปัญญาประดิษฐ์ AI ไม่สามารถบอกได้ว่า ความกตัญญูคืออะไร
สุดท้าย ความได้เปรียบของมนุษย์ คือ ทุนทางอารมณ์ ปัญญาประดิษฐ์ AI ทำงานตามข้อมูลและสมองกล แต่มนุษย์มีอารมณ์ทั้งดี ไม่ดี ถ้ามนุษย์ควบคุมอารมณ์ไว้ได้ คือ
มี Emotional Intelligence ได้จะประสบความสำเร็จ
ทั้ง 6 ข้อ เป็นคุณสมบัติที่มนุษย์ควรมี ไม่ได้หมายความว่า มนุษย์ทุกคนมี จึงต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจัยดังกล่าวอยู่ภายในของมนุษย์ที่จับต้องได้ยาก ไม่เหมือนวัตถุ แต่ปลูกฝังได้ เป็นสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ AI เป็นตัวแปรมาทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างดี ซึ่งภาษาเศรษฐศาสตร์เรียกว่า Complementคือ มาเสริมกัน ไม่ใช่มาทดแทนกันตามที่กลัวว่า ปัญญาประดิษฐ์ AIจะทำให้มนุษย์ตกงาน
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี