คุณเชื่อไหมว่า ทุกวันนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ขับรถยนต์กันขวักไขว่บนถนนในบ้านเรานั้น ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และหลายคนก็ไม่มีใบอนุญาตขับขี่จักรยานยนต์ด้วย แล้วเคยมีใครสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมในเมื่อไม่มีใบอนุญาตขับขี่ แต่คนจำนวนไม่น้อยก็สามารถนำรถยนต์และจักรยานยนต์ออกไปขับขี่กันได้โดยอิสระเสรี ราวกับบ้านเมืองนี้ไม่มีกฎหมายใดๆ บังคับ
ต้องบอกก่อนว่า บ้านเมืองเรานั้นมีกฎหมาย แต่ปัญหาใหญ่คือคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่เคารพกฎหมาย และผู้บังคับใช้กฎหมายจำนวนไม่น้อยก็ไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยเคร่งครัด ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจที่เรามักจะพบเห็นตำรวจ และฝ่ายปกครองบ้านเมืองปล่อยให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา ซึ่งไม่มีวันจะมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างแน่นอน แต่เราก็พบกันเป็นประจำว่านักเรียนชั้นประถมเหล่านั้นสามารถขับขี่จักรยานยนต์ผ่านหน้าตำรวจ และผ่านหน้าเจ้าหน้าที่ปกครองของ
บ้านเมืองได้เป็นประจำทุกวัน โดยที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้น
ก็มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็จะปรากฏเป็นระยะๆ ว่าอาจจะมีการตั้งด่านตรวจ แต่ถามว่า เมื่อตรวจแล้วก็ไม่เห็นจะมีการลงโทษสถานหนักแต่ประการใด เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอถามว่า ใครเกรงกลัวหรือเคารพยำเกรงกฎหมาย
ล่าสุดมีการกำหนดโทษสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ โดยจะต้องเสียค่าปรับเป็นเงินสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท พอเรื่องนี้ปรากฏในสังคมไทย ก็เกิดกระแสต่อต้านคัดค้านกันอย่างครึกโครม บางฝ่ายวิจารณ์ว่าการกำหนดโทษเช่นนี้ดูเสมือนเป็นการเอื้อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นช่องทางก่อเหตุทุจริตคอร์รัปชั่นได้มากขึ้น
ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าตั้งคำถามว่า อะไรเป็นมูลเหตุให้ผู้กำหนดโทษในเรื่องนี้ต้องกำหนดโทษปรับไว้สูงมากถึงเพียงนั้น ทำไมไม่ตั้งเกณฑ์การปรับไว้ที่เพียง 2 พันบาท หรืออาจจะแค่เพียง 1 พันบาท ก็น่าจะเพียงพอ สำหรับโทษของผู้ที่ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ไว้กับตัวในยามขับขี่ยวดยานพาหนะ แต่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดจริงจัง มีการตั้งคำถามว่า การกำหนดโทษปรับไว้สูงมากเช่นนั้น ชวนให้เกิดข้อสงสัยได้ว่าอาจจะมีเหตุไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในสังคมที่คนกระทำผิดกฎหมายกับผู้มีหน้าที่ดูแลกฎหมาย มักจะมีแนวโน้มเรื่องการให้และเรียกรับเงินสินบนเป็นประจำ
มีผู้เสนอว่า ไม่จำเป็นต้องเขียนโทษปรับไว้ว่าปรับได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท แต่ควรจะระบุให้ชัดเจนตายตัวไปเลยว่า ผู้ขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือไม่พกใบอนุญาตขับขี่ไว้กับตัวเองในระหว่างขับขี่ ต้องถูกปรับ 1 พัน ก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าหากไม่มีเงินชำระค่าปรับ ก็จะต้องไปทำงานโยธาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลากี่วันเพื่อทดแทนเงินค่าปรับ และการชำระเงินก็จะต้องออกใบเสร็จเป็นหลักฐานชัดเจน โดยเงินค่าปรับต้องถูกส่งเข้าหน่วยงานของรัฐทุกบาททุกสตางค์ เพื่อป้องกันการกรรโชกทรัพย์โดยเจ้าหน้าที่
หากบ้านเมืองของเรามีการบังคับใช้กฎหมายจราจรโดยเข้มงวดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ปัญหาคนจงใจฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจราจรจะเบาบางลงไป หรืออาจจะหมดไปในอนาคตอันใกล้ แต่ถ้าหากยังปล่อยให้ผู้บังคับใช้กฎหมายสามารถใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาโทษปรับกับผู้กระทำผิดกฎหมาย
ต่อไป รับรองว่าปัญหาจราจรจลาจลจะไม่มีวันหมดสิ้นไปจากประเทศไทย เพราะคนทำผิดกับผู้ควบคุมบังคับใช้กฎหมายย่อมจะหาทางเลี่ยงตลอดไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี