เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไปร่วมงาน “86 ปี วันสถาปนาสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์” ตั้งอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีโอกาสได้พบครูอาจารย์ ท่านที่เคารพจากปักษ์ใต้ หลายท่าน
งานนี้ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ และพี่อภิชาติ โรจน์สราญรมย์ ประธานจัดงาน ต้อนรับชาวปักษ์ใต้อย่างเต็มที่ ทั้งมอบทุนให้ลูกหลานชาวปักษ์ใต้ ในกทม.ร่วม 100 คน
ในหนังสือที่ระลึกแจกในงาน มีเรื่องราวน่าสนใจมากมายที่คนรุ่นหลังควรรู้ ผมขออนุญาตท่านผู้บันทึกประวัติศาสตร์นี้ ย่อๆ ให้อ่านกัน
คือ เมื่อเกือบๆ 80 ปีก่อนโน้น ชาวปักษ์ใต้ อยู่ห่างไกลความเจริญกับเมืองหลวง(บางกอก)มาก การคมนาคมแสนจะลำบาก การเดินทางไปมาส่วนใหญ่ คือ ทางรถไฟ เรือสินค้าทางทะเล และจักรยานหรือเท้าเปล่า สมัยนั้นชาวปักษ์ใต้ถ้าใครได้เดินทางมาเรียนหนังสือในบางกอกได้ นับว่าโชคดีที่สุด เสมือนคนไทยในปัจจุบันที่ได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่ยุโรปหรือเมริกาโน่น
ดังนั้นพวกภาคใต้เราที่มาเรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพอยู่ที่บางกอกนั้นมีความว้าเหว่มาก จะพบพรรคพวกเพื่อนฝูงแต่ละครั้งหาที่นัดพบกันลำบาก เพราะส่วนใหญ่อาศัยอยู่วัดกันทั้งนั้น การติดต่อนัดพบก็ลำบาก รถเมล์มีน้อย โทรศัพท์ก็ไม่มี ต้องอาศัยรถรางในการเดินทาง ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่เอง จึงทำให้ “สมาคมชาวปักษ์ใต้” เกิดขึ้นตราบทุกวันนี้ คือมีชาวภาคใต้กลุ่มหนึ่งได้นัดหมายให้พบปะกันที่ร้านกาแฟ หน้าวัดประยูรวงศ์ เชิงสะพานพุทธฯ ธนบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2475 เพื่อปรึกษาหารือกันเรื่องต่างๆ ในที่สุดสรุปว่าเราจะก่อตั้งสมาคมพวกเราขึ้นมา โดยให้ชื่อว่า “สมาคมชาวปักษ์ใต้” เพื่อให้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้นประมาณ 85 คน เก็บเงินค่ากาแฟลงขันได้ 116 บาท จ่ายค่าอาหารเสีย 81.60 บาท เหลือเงิน 34.30 บาท เก็บไว้เพื่อเป็นการเริ่มต้นจดทะเบียนสมาคมฯ
โดยตั้งบุคคลขึ้นคณะหนึ่งในการติดต่อกับทางราชการจดทะเบียนสมาคมชาวปักษ์ใต้ อันประกอบด้วย ร.ต.ถัด รัตนพันธ์, พ.ต.หลวงอภิบาลภูวนาถ, ร.อ.หลวงวีรวัฒน์โยธิน,หลวงคเชนทรมาตย์, ขุนวรศาสตร์ดรุณกิจ, นายมงคล รัตนวิจิตร, นายกิมผ่อง โกศลสถิตย์, นายเที่ยง จินดาวัฒน์, นายห้วน ประชาบาล, นายปิ๋ว เปรมะดิษฐะ, นายพัน โกมลกุญชร, นายถัด พรหมาณพ, นายจูกี้ ถิระวัฒน์, นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล
คณะบุคคลดังกล่าวได้ดำเนินการตามมติที่ประชุมเสร็จเรียบร้อย โดยทางราชการออกหนังสือรับรองว่า “สมาคมชาวปักษ์ใต้” จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม2475 นับว่าเป็นสมาคมที่ 2 ของประเทศไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีสโมสรคณะราษฎร์ จดทะเบียนเป็นสมาคมที่ 1 ของประเทศไทย การจดทะเบียนก่อตั้งสมาคมฯครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1.ส่งเสริมบำรุงรักษาความสามัคคี และอุปการะซึ่งกันและกันระหว่างชาวปักษ์ใต้ 2.อุดหนุนการศึกษาของชาวปักษ์ใต้ 3.ช่วยในการกุศลเมื่อสมาชิกถึงแก่มรณภาพ 4.บำรุงทางอนามัย คือ การเล่นกีฬาต่างๆ
เมื่อได้หนังสือรับรองเป็นทางการแล้ว ทางคณะบุคคลผู้ก่อตั้งได้เรียกประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการขึ้นมาตามข้อบังคับที่ได้จดทะเบียนไว้ โดยมติส่วนใหญ่ได้เลือก พ.ต.หลวงภิบาลภูวนาถ เป็นนายกสมาคมคนแรกของสมาคมชาวปักษ์ใต้ และได้เลือกคณะกรรมการบริหารตามข้อบังคับโดยถูกต้อง สถานที่ตั้งสมาคมฯได้รับความอนุเคราะห์จากนายถัด พรหมาณพ โดยให้ใช้สำนักงานของท่านเป็นที่ทำการสมาคมฯชั่วคราว อยู่ที่ถนนข้าวสาร อำเภอพระนคร กรุงเทพฯ จากนั้น จึงได้ย้ายไปเช่าบ้านเลขที่ 600 ถนนจักรเพชร เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า อำเภอพระนคร กรุงเทพฯ สถานที่ทำการดังกล่าวอยู่ได้ไม่นานนักไม่สะดวกกับการบริการสมาชิกเพราะคับแคบ จึงย้ายไปอยู่ที่ถนนดินสอ สมัยก่อนเรียกว่าตึกดิน อยู่หลังร้านอาหารแดงปัจจุบัน ถนนราชดำเนินนอก อำเภอพระนคร กรุงเทพฯ
สมาคมฯตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้นานหลายปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2496 จึงได้ย้ายไปอยู่ที่ ซอยศิริพงษ์ ตำบลเสาชิงชา แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกไล่ที่ ด้วยผู้ที่ขอเช่าต่อจะนำสถานที่นั้นไปใช้เป็นกิจการโรงแรม ในปีพ.ศ.2498 สมาคมฯจึงได้ย้ายมาอยู่บ้านเลขที่ 365 ซอยพญานาค อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสมาคมฯมาจนถึง พ.ศ.2535 สถานที่ดังกล่าวนี้เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่แห่งใหม่นี้มีตัวอาคารเป็นเรือนไม้เก่าแก่และชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่สามารถจะเข้าอยู่ และใช้เป็นที่ทำการของสมาคมฯได้ จำเป็นต้องซ่อมแซมอีกมาก ในการนี้ได้รับการช่วยเหลือจาก ร.ต.ท.สุริยน ไรวา สมาชิกคนหนึ่งของสมาคมฯ (ซึ่งต่อมาได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯลำดับที่ 8) โดยการส่งมอบเงินส่วนตัวให้สมาคมฯ เพื่อใช้จ่ายในการซ่อมอาคารหลังนี้กับสร้างอาคารกีฬาในร่มชั้นเดียว เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเสียสละของท่าน สมาคมฯจึงตั้งชื่ออาคารกีฬาในร่มหลังนี้ว่า “อาคารไรวา”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสมาคมฯได้พิจารณาและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องหาทุนสร้างอาคารถาวรหลังใหม่ขึ้นสักหลัง เพื่อเป็นที่ทำการของสมาคมฯโดยเฉพาะ จึงต้องหาเงินสะสมเอาไว้เท่าที่จะทำได้ ด้วยเหตุนี้สมาคมฯจึงกำหนดให้มีการจัด “งานทักษิณบอลล์” ขึ้น โดยครั้งแรกจัดในปี พ.ศ.2502 ในสมัยที่ ร.ต.ท.สุริยน ไรวา เป็นนายกสมาคมฯ หลังจากนั้นได้จัดงานนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2508 สมัย พล.ต.จำเนียร พงษ์ไพโรจน์ เป็นนายกสมาคมฯ ความคิดที่จะสร้างอาคารถาวรของสมาคมฯ มีความเป็นจริงมากขึ้น กล่าวคือ ได้มีการออกแบบอาคารที่จะก่อสร้าง และคณะกรรมการสมัยนั้นได้เชิญเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ มาเป็นประธานในการวางศิลากฤษ์ ในขณะที่เตรียมการเรื่องนี้อยู่ ก็มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในปลายปีนั้น คือ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2508 อาคารของสมาคมฯที่มีอยู่เดิม 2 หลัง ได้ถูกไฟลุกลามมาจากอาคารข้างเคียง ไหม้วอดวายไปเกือบหมด อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ทำให้คณะกรรมการหมดกำลังใจที่จะสร้างอาคารแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับทำให้ต้องเร่งสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นโดยเร็ว จนในที่สุดสามารถสร้างอาคารถาวรหลังนี้ได้สำเร็จ โดยสร้างเป็นตึก 3 ชั้น หลังคาทรงไทย ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 8 เดือน ค่าก่อสร้าง 550,000บาท เมื่อสร้างเสร็จได้ขอพระราชทานอัญเชิญสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงประกอบพิธีเปิดอาคารเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2510 ซึ่งตรงกับวันสถาปนาสมาคมฯ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2529-2536 สมัย พล.ต.อ.มนัส ครุฑไชยันต์ เป็นนายกสมาคมฯ ได้ซื้อที่ดินฝั่งธนบุรีย่านพุทธมณฑลวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารสมาคมฯหลังใหม่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2530 โดยมี ฯพณฯพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเป็นประธานในพิธี
ในปี พ.ศ.2535 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จ ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 34 ล้านบาท บนเนื้อที่ 6 ไร่ 9 ตารางวา เป็นที่ตั้งสมาคมฯ อันสมเกียรติและสง่างามในวันที่ 25 ตุลาคม 2537 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมาคมฯอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในสมัย พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ เป็นนายกสมาคมฯ
ครับก็เป็นข้อมูลทางประวัติ-ศาสตร์น่าสนใจ
ตบท้าย สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ จะจัดงานเดือนสิบปีนี้ ระหว่าง 29 ก.ย.-9 ต.ค. ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ กทม. ไปเที่ยวกันนะครับ มีอาหาร สินค้าจากปักษ์ใต้ หนังตะลุง มโนราห์ แสดงตลอดงาน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี