แม้ว่า นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิก จากมลรัฐแอริโซนา จะมิได้เป็นประธานาธิบดี หรือจอมทัพ แต่พิธีไว้อาลัย และงานศพของเขา ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลับยิ่งใหญ่ ชนิดแทบจะหาผู้ใดเสมอเหมือน
โดยพิธีได้ถูกจัดขึ้นที่บ้านพักมลรัฐแอริโซนา แล้วยังมีพิธีศพอีกถึง 4 แห่ง คือ ห้องโถงอาคารรัฐสภาในมลรัฐแอริโซนา ห้องโถงอาคารรัฐสภากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มหาวิหารแห่งชาติวอชิงตัน (National Cathedral) และพิธีฝังศพที่สุสานโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ เมืองแอนนาโปลิส มลรัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ นายจอห์น แมคเคน เคยร่ำเรียนจนเป็นนักบินทหารเรือ (โดยบิดาและปู่ของเขาต่างเป็นนายพลเรือเอกทั้งคู่)
พิธีใหญ่โตแบบนี้ แสดงให้สังคมเห็นและรับรู้ว่านายจอห์น แมคเคน นั้นเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งความยิ่งใหญ่นั้นมีได้หลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักรบ เป็นนักปฏิบัติ เป็นนักเปลี่ยนแปลงรูปโฉมสังคม เป็นนักคิด นักเขียน นักสังคม นักวิทยาศาสตร์ หรือเป็นนักบุญ
ความยิ่งใหญ่ของนายจอห์น แมคเคน นั้นเริ่มต้นจากการเป็นนายทหารเรือ โดยทำหน้าที่เป็นนักบินขับเคลื่อนเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดเหนือฟ้ากรุงฮานอย ในช่วงสงครามเวียดนาม ซึ่งเครื่องบินของเขาถูกยิงตก หลังจากนั้น นายแมคเคนถูกชาวเวียดนามลากร่างออกมาจากหนองน้ำ และเกือบเสียชีวิตจากการถูกรุมประชาทัณฑ์ทั้งที่บาดเจ็บสาหัส และถูกคุมขังเป็นนักโทษเชลยศึกในคุกที่ได้รับฉายาจากทหารอเมริกันว่า Hanoi Hilton (ฮานอยฮิลตัน : เป็นการประชดประชัน โดยนำเอาชื่อฮิลตันซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มโรงแรม 5 ดาวระดับโลกมาบวกกับชื่อกรุงฮานอย) โดยระหว่างนั้น นายแมคเคนได้ถูกทรมานทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เช่นเดียวกับเชลยศึกอเมริกันคนอื่นๆ เป็นระยะเวลาหลายปี โดยต้องดำรงชีวิตอย่างแร้นแค้น ชนิดที่เรียกว่าคิดจะฆ่าตัวตายให้พ้นๆ ความทรมานกันไปเลยทีเดียว ซึ่งความยิ่งใหญ่ของนายแมคเคนก็คือ การปฏิเสธที่จะได้รับการปล่อยตัวจากเวียดกง และส่งกลับไปยังสหรัฐฯ ก่อนเพื่อนเชลยศึกคนอื่นๆ โดยเห็นว่าเป็นความไม่ยุติธรรม หากตนเองจะได้รับการปล่อยตัวก่อนคนที่ถูกจับมาก่อนหน้าตน เพียงเพราะมีพ่อตำแหน่งใหญ่ในกองทัพ และเลือกที่จะถูกส่งกลับเป็นชุดหลังๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเชลยทุกๆ คนจะได้รับความช่วยเหลือกลับบ้าน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นอุดมการณ์ที่คิดถึงผู้อื่นก่อนตนเอง คิดถึงความถูกต้องยุติธรรมเป็นตัวตั้ง เห็นแก่เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ของตน และผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน
หลังจากได้รับอิสรภาพแล้ว ฝันที่จะรับใช้ชาติ โดยการเจริญรอยตามปู่ และพ่อ ที่เป็นนายทหารได้พังทลายลง เพราะร่างกายที่พิการ จากการถูกทรมานมาเป็นเวลานานนับปี
นายแมคเคนจึงตัดสินใจผันตัวไปรับใช้บ้านเมืองแทน (Public Service) ด้วยการกระโดดเข้าสู่สนามการเมือง ซึ่งประสบความสำเร็จ ได้ดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎร จากมลรัฐแอริโซนา และยังได้เป็นวุฒิสมาชิกต่อเนื่องอีก 6 สมัย (สมัยละ 6 ปี) โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ ประธานคณะกรรมการกิจการทหาร นอกจากนั้นยังเคยท้าชิง เป็นผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน เมื่อปี ค.ศ. 2001 ซึ่งได้พ่ายแพ้ต่อ นายจอร์จ บุช และต่อมา ปี ค.ศ. 2008 ได้รับชัยชนะเป็นตัวแทนชิงชัยประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อนายบารัค โอบามา แห่งพรรคเดโมแครต
ในด้านการทำงาน เป็นที่รู้กันว่า นายแมคเคนเป็นผู้ทำงานแบบเอาจริงเอาจัง ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย และคุณสมบัติที่สำคัญของเขาก็คือ การยึดเอาความถูกต้อง และผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง การตัดสินใจขับเคลื่อนกฎหมายและนโยบาย และลงคะแนน หนึ่งใด จะต้องเอาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งเท่านั้น มิยึดเอาพรรคพวก หรือผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง เรื่องใดที่เขาเห็นว่าดีต่อชาติ แม้จะถูกเสนอโดยฝ่ายตรงข้าม เขาก็จะสนับสนุน และหาหนทางที่จะทำงานร่วมกัน โดยการปรึกษาหารือเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน
ด้วยความที่ นายจอห์น แมคเคน นั้นจริงจังกับงาน จึงมีบุคลิกใจร้อน บวกกับการพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา (แต่มีสาระ) และเมื่อไหร่ที่คิดว่าตนเองทำอะไรผิดไป ก็จะแสดงการขอโทษขอโพยในทันที สะท้อนให้เห็นว่าเป็นคนกล้าหาญที่จะรับความผิดพลาดได้ และรีบหาทางแก้ไข
ด้วยวิธีการทำงาน และการวางตัวเช่นนี้ นายจอห์น แมคเคน จึงเป็นดาวดวงเด่นในสังคมการเมืองสหรัฐ ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นยักษ์ใหญ่แห่งความดีงาม (A Giant Figure) เป็นผู้นำ เป็นแบบอย่าง ของนักการเมือง และชาวอเมริกันที่ดี
ดังนั้น จึงไม่มีข้อกังขา ข้อสงสัยจากใครๆ ที่พิธีไว้อาลัย และพิธีศพ ของนายจอห์น แมคเคน จะถูกจัดขึ้นเยี่ยงวีรบุรุษของชาติ ซึ่งได้รับความเคารพจากทั้งมิตร และคู่ต่อสู้ทางการเมือง
นอกจากนั้นแล้ว เมื่อเขารู้ตัวว่า จะต้องตายด้วยโรคมะเร็งร้าย แทนที่จะโศกเศร้า อาลัยอาวรณ์ เขากลับรับสภาพด้วยสติ และเตรียมตัวตายอย่างสงบ โดยวางแผนการดำเนินการพิธีศพของเขาให้กับครอบครัวว่า จะต้องทำอะไรบ้าง จะเชิญใครมางานศพบ้าง และจะให้ใครกล่าวไว้อาลัย รวมถึงจะให้ใครบ้างร่วมช่วยแบกหีบศพ ซึ่งเป็นอีกความยิ่งใหญ่หนึ่งของเขาที่มีสติ ครบถ้วน แม้จะเผชิญหน้ากับความตาย
นอกจากทางด้านการเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะที่โดดเด่น แล้วนายจอห์น แมคเคน ยังขึ้นชื่อในการเป็นพ่อ เป็นปู่-ตา ที่ดีเยี่ยม โดยคอยหมั่นอบรมบ่มเพาะให้ลูกหลานเป็นคนดี รักชาติ เห็นประโยชน์ต่อสังคมและรับใช้ชาติ โดยสามารถดูได้จาก ลูกหลานของเขา ที่ต่างมีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือสังคม และมีความประพฤติที่ดี
ก่อนเสียชีวิต นายจอห์น แมคเคน ได้เชิญ ประธานาธิบดีบุช และประธานาธิบดีโอบามา มาร่วมงานศพของเขา และร่วมกล่าวไว้อาลัยด้วย แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง ที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในศึกใหญ่ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า นายจอห์น แมคเคน นั้นเป็นผู้มีจิตใจกว้าง และให้เกียรติกับผู้ทำความดีต่อชาติ
นี่คือความยิ่งใหญ่แห่งความเป็นมนุษย์ และการกระทำในความเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคนเป็นทั้งวีรบุรุษสงคราม เป็นวีรบุรุษผู้ยืนหยัดอยู่กับหลักการและค่านิยม ผู้เห็นว่าไม่ว่าจะทำการใด หลักการและค่านิยมต้องมาก่อน ผู้อาสาเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองจักต้องยืนอยู่กับความถูกต้องชอบธรรมเป็นสำคัญ
ในฐานะนักการเมือง เขาได้แสดงให้สังคมเห็นว่า การเล่นการเมืองแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกบนผลประโยชน์ บนการแพ้ชนะกันให้ถึงที่สุด มิใช่วิถีทางที่จะเข้ามารับใช้บ้านเมือง หากแต่ต้องร่วมกันคิดหาหนทางที่จะหาจุดร่วมเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ
วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน ได้มอบมรดกตกทอดของการรับใช้ชาติ ไว้เป็นเครื่องเตือนสติและเป็นแบบอย่าง และการเสียชีวิตของเขา น่าจะส่งผลต่อการเมืองสหรัฐอเมริกาในอนาคตอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน สังคมไทยเรากำลังมุ่งหน้ากลับสู่สังคมเสรีประชาธิปไตย เราคนไทยทุกคน ก็จะต้องเริ่มเตรียมตัวเตรียมใจที่จะยึดเอาอุดมการณ์ผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง เฉกเช่นเดียวกับ นายจอห์น แมคเคน เพราะเราทุกคนต่างไม่ต้องการเห็นการกลับมาของการเมืองผลประโยชน์ หรือการเมืองแบบสามานย์กันอีก
ส่วนนักการเมืองไทยที่ดี ก็ควรจะได้ศึกษาการดำรงชีวิตของ จอห์น แมคเคน ไว้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตนหลังจากที่ประชาชนเลือกให้เข้าไปช่วยเป็นตัวแทนบริหารประเทศ อย่าได้หักหลังความหวังของประชาชน โดยกระทำตนเป็นนักการเมืองเลว เพราะหลังจากนี้ นอกจากจะได้รับการสาปแช่งจากสังคมแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าลูกหลานจะอาศัยในสังคมไทยอย่างยากลำบาก เพราะชีวิตจะเต็มไปด้วยความอับอาย และความน่าสมเพช
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี