เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ทรงมีรับสั่งต่อคณะองคมนตรีที่เข้าเฝ้าฯว่า “ฉันจะตั้งกองทุนการศึกษา ให้เอาเงินฉันไปใช้ ไปทำอย่างไรก็ได้ เป้าหมายคือให้โรงเรียนสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง” โดยพระราชทานเงินส่วนพระองค์มาดำเนินการในขั้นแรกเป็นจำนวน 200 ล้านบาท รับสั่งว่าเป็นเงินที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวายมา พร้อมกับรับสั่งว่า “หมดเมื่อไรก็บอก”
คณะองคมนตรีเมื่อได้รับพระราชดำริมาก็เร่งดำเนินการจัดตั้งเป็นโครงการ “โรงเรียนคุณธรรมจริยธรรม” โดยคัดสรรโรงเรียนมาร่วมดำเนินการในขั้นแรก 155 โรงเรียนจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ทรงให้เริ่มด้วยการปรับสภาพความเป็นอยู่ของครู โดยรับสั่งให้เลือกบ้านพักครูที่แย่ที่สุดเพื่อสร้างให้ใหม่ ประการต่อมาคือการปรับปรุงห้องน้ำครูและนักเรียน ตลอดจนปรับปรุงห้องเรียนที่ชำรุด หลังคาที่รั่ว โต๊ะเรียนเก้าอี้ที่พังแล้ว โดยทรงขอให้ทำโดยประหยัด ใช้วัสดุในพื้นที่ แต่ให้คงทนแข็งแรง
พระองค์มีพระประสงค์ให้เลือกนักเรียนโรงเรียนละ 2 คน เพื่อส่งให้เรียนต่อจนจบเท่าที่จะเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรี-โท-เอก ก็แล้วแต่เขา และทรงฝากขอให้นำความจากพระองค์ไปบอกนักเรียนว่า มีพระราชประสงค์ที่จะเห็น “เด็กที่เรียนดีนั้นเป็นคนดีด้วย”
สำหรับครู ทรงให้ความสำคัญมาก มีรับสั่งว่า อยากให้ครูอยู่สบายแม้เป็นโรงเรียนที่ห่างไกล เพื่อที่เด็กๆ ในชนบทจะได้มีครูดีๆ สอนให้เป็นคนดี เพราะครู อาจารย์ ไม่ใช่แค่สอนความรู้อย่างเดียว แต่ยังต้องอบรมเด็กด้วย มีรับสั่งให้คัดเลือกครูที่เก่ง ขยันมา จะพระราชทานเงินพิเศษหรือส่งให้เรียนต่อเพื่อให้มีความรู้เพิ่มเติม เพียงแต่ต้องสัญญาว่า อย่าทิ้งเด็ก อย่าทิ้งโรงเรียนที่ห่างไกลเหล่านั้น
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ตอนที่สำคัญก็คือตอนที่ทรงย้ำกับคณะองคมนตรีที่ทรงตามให้มาเข้าเฝ้าฯ ว่า “ต้องช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง แม้การสร้างคนดีเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ต้องทำ ขอให้ถือเป็นหน้าที่”
เรื่องราวของคำที่ทรงมีรับสั่งและพระราชดำริต่างๆ เกี่ยวกับด้านการศึกษาเพื่อสร้างคนเก่งและดีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 นี้เป็นพระราชกรณียกิจในช่วงปลายรัชสมัยของพระองค์ แม้จะประทับอยู่ในโรงพยาบาล ก็ยังทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรของพระองค์ เรื่องราวนี้รวบรวมมาจากถ้อยคำบอกเล่าถ่ายทอดจากปาฐกถาของ ศาสตราจารย์ นพ.เกษม วัฒนชัย และนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในวาระต่างๆ กันเกี่ยวกับแนวพระราชดำริด้านการศึกษา ซึ่งทำให้เห็นว่าสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นห่วงบ้านเมืองมาก ก็คือเรื่องของการศึกษาให้โรงเรียนสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง
สำหรับกระทรวงศึกษา ก่อนหน้าที่จะมีแนวพระราชดำริโครงการโรงเรียนคุณธรรมนี้ ก็เคยมีคำสั่งให้ทุกโรงเรียนบรรจุหลักสูตรต้านทุจริตต่างๆ ในหลักสูตรการเรียนการสอนปกติของนักเรียนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในขั้นประถมศึกษา ซึ่งมีจำนวนนักเรียนมากถึง 7.2 ล้านคน เริ่มด้วยโครงการ โรงเรียนสุจริต ในรัฐบาลก่อนหน้านี้ ตามด้วยโครงการโตไปไม่โกง ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และล่าสุดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2561 ก็คือ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งก็เป็นคำสั่งโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ละเว้นการปฏิบัติตามมิได้ โดยมติ ครม. รวมหลักสูตรที่เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตนี้ได้เยอะมาก จนครูไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปสอน
ในวันนี้จึงเป็นที่น่ายินดีมากที่กระทรวงศึกษาธิการยุคใหม่ในสมัยที่มีรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีแนวคิดก้าวหน้าและทันสมัย คือ นายแพทย์ ธีรเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ที่มีนโยบายจะขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยจะระดม สรรพกําลังจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันหาแนวทางร่วมในการสอดแทรกวิถีสร้างคนดีเข้าไปในระบบการศึกษาของไทย โดยนำหลักสูตรและโครงการต่างๆ ที่มีอยู่มากมายนี้มาบูรณาการใช้ประโยชน์ร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
รัฐมนตรี นพ.ธีรเกียรติ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้มีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ โดยเชิญคุณประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ให้มาเป็นประธาน และมีคุณปานเทพ กล้าณรงค์ราญ อดีตประธาน ป.ป.ช. และ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มาดำรงตำแหน่งรองประธาน นอกจากนี้ยังเชิญ คุณปราโมทย์ โชติมงคล อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์โรงเรียนคุณธรรม ซึ่งเป็นโรงเรียนสร้างคนดีตามแนวพระราชดำริมาร่วมด้วย และมีกรรมการที่เป็นบุคคลที่มีบทบาทในเรื่องของการศึกษาเพื่อสร้างคนดีอีกหลายท่าน อาทิ คุณกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา ประธานเครือข่ายสุจริตไทย ดร.บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย รองศาสตราจารย์ เจษฎ์ โทณะวณิก กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รองศาสตราจารย์ เสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อดีตประธานกรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด รองศาสตราจารย์ ปภัสวดี วีระกิตติ ผู้อำนวยศูนย์โรงเรียนคุณธรรม และรองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค อดีตประธานอนุกรรมการต่อต้านทุจริตด้านการป้องกัน ของ คตช. ให้มาร่วมกันทำภารกิจที่สำคัญมากในคณะกรรมการชุดนี้
คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ได้ประชุมกันในเบื้องต้น มีแนวทางจะระดมความคิดและประสบการณ์ตลอดจนการใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีอยู่เพื่อการสร้างคนดี ในเบื้องต้นได้รับทราบว่านอกจากหลักสูตรขนาดใหญ่ 4 โครงการแล้ว กระทรวงศึกษาธิการเองก็มีกิจกรรมสร้างคนดีมีคุณธรรมอีกนับสิบหลักสูตร ส่วนภาคประชาสังคมก็มีโครงการ เยาวชนตื่นรู้สู้โกง (Active Youth) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพื่อคนไทย ก็ได้มีการดำเนินการเสาะแสวงหา ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา การต่อต้านการคอร์รัปชัน รวมไปถึงด้านเทคโนโลยี พร้อมรวบรวมหลักสูตรและเครื่องมือต่างๆ ทั้งหมดที่มีอยู่แล้วหรืออยู่ระหว่างการพัฒนามาบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ ก็พบว่ามีอีกอย่างน้อย 9 เครื่องมือหรือหลักสูตร ที่น่าสนใจมาก เช่น การสร้างเกมส์ออนไลน์เพื่อประกอบการสอนชื่อว่า เกม เดอะ คอรัป ที่ให้คนเล่นได้เห็นผลของการตัดสินใจของตนเองเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์ส่วนตนผ่านการเล่นเกม เป็นตัวอย่างหนึ่งของความหลากหลาย ที่จะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
การปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กไทยเป็นคนดีอย่างเป็นระบบในครั้งนี้เป็นการร่วมมือครั้งใหญ่จากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม จึงหวังได้ว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล อย่างไรก็ตามอีกส่วนหนึ่งของสังคมที่มีความสำคัญมากต่อการผลักดันการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้คือ ครอบครัว ถ้าคนในครอบครัวช่วยอบรมสั่งสอนและตักเตือนกันเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่อบรมเด็ก หรือ เด็กทักท้วงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใหญ่ ก็จะทำให้สังคมเราเป็นสังคมที่ดีได้อย่างยั่งยืน ระหว่างนี้ใครมีความคิดหรือมีประสบการณ์ในการสร้างเด็กดี โปรดได้แจ้งเข้ามาเพื่อร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างคนดี เพื่ออนาคตที่ดีและรุ่งเรืองของประเทศไทย สนองพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี