อย่าคิดว่าชาติจะล่มสลายไม่ได้ ตามประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือเอเชีย เจ้าผู้ครองนครเล็กๆ ต่างก็ควบคุมดูแลอาณาจักรเล็กของตน ต่อมาเมื่อนครใดเข้มแข็งขึ้น ก็ขยายและรวบรวมนครอื่นๆ เข้าเป็นราชอาณาจักรเดียวกัน เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน กลายเป็นประเทศต่างๆ จนทุกวันนี้ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร ไทย พม่า จีน ฯลฯ
เมื่อรวมกันเป็นชาติใหญ่แข็งแรง ก็สามารถสร้างความสุข และความมั่งคั่งให้แก่คนในชาติได้ รวมทั้งมีความมั่นคงในอาณาเขตของประเทศ แต่ถ้าการบริหารประเทศในระยะต่อมาไม่ดีพอ ขาดความสามัคคี มีการรบราฆ่าฟันกันเองระหว่างคนในชาติ มีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง มีการเห็นประโยชน์ส่วนตน และเครือญาติมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ ประเทศก็สามารถล่มสลายได้
จากบทความตอนที่ผ่านๆ มา ของ “การเมืองและการสร้างชาติ” ได้เรียกร้องให้คนไทยทุกรุ่น ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนวัยทำงาน หรือผู้สูงวัย ได้ช่วยกันคิดหาวิธี หานวัตกรรมทางการเมือง ว่าเราจะทำอย่างไร จึงจะพ้นวงจรอุบาทว์ (Vicious Circle) ที่เป็นมาแล้ว 86 ปี อันได้แก่ การเมืองน้ำเน่า แล้วประชาชนออกมาต่อต้าน แล้วเกิดวิกฤติขึ้นในบ้านเมือง แล้วทหารออกโรงมาแก้ไขสถานการณ์ แล้วก็มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ แล้วก็มีการเลือกตั้ง แล้วก็กลับไปเป็นการเมืองน้ำเน่า คือ การซื้อเสียง การดูดเสียง การตอบแทนกันด้วยผลประโยชน์ และก็การคอร์รัปชั่น เป็นวงจรอุบาทว์ที่เกิดมาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน
เพื่อเป็นตัวอย่างของชาติที่ล่มสลาย หรือเสื่อมถอยจากความเป็นชาติแนวหน้า มาสู่ชาติที่ล้าหลัง ประชาชนเดือดร้อน ก็อาจจะพอแยก ได้จากสาเหตุหลายประการ แยกเป็นกลุ่มๆ ได้ ดังนี้
1.เพราะการเมืองน้ำเน่า อันเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง การแสวงหาประโยชน์ของนักธุรกิจการเมือง และนโยบายประชานิยม ตัวอย่างของประเทศเหล่านี้ ก็ได้แก่
เวเนซุเอลา ในอเมริกาใต้ ซึ่งมีทรัพยากรมากมาย มีน้ำมัน และทรัพย์ในดินมากมาย มีน้ำมัน เคยเป็นประเทศที่รวย ประชาชนมีชีวิตที่ดีมานาน เมื่อมาพบการเมืองน้ำเน่า และคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง ประกอบกับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลธุรกิจการเมือง เศรษฐกิจของประเทศก็พังลง ประชาชนอดอยากไม่มีจะกิน ข้าวของแพงขึ้นหลายสิบเท่าตัว เงินหมดค่าลง ประชาชนต้องอพยพเป็นกลุ่มใหญ่ออกไปหางานทำในประเทศใกล้เคียง ที่เรียกกันว่า Exodus
ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ก็เคยจะเจริญรุ่งเรือง แต่มาพบเอารัฐบาลที่คอร์รัปชั่นอย่างมโหฬารของมาร์คอส ก็ทำเอาประเทศพังไป ราษฎรอดอยากยากจน บ้านเมืองมีแหล่งสลัมมากมาย จนในที่สุด ประชาชนก็ต้องรวมตัวกันออกมาขับไล่ รัฐบาลมาร์คอส ขณะนี้ก็ผ่านรัฐบาลค่อนข้างดีมาหลายสิบปี ก็ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นเท่าเดิม
2.เพราะสงครามกลางเมือง (Civil War) เป็นต้นเหตุอันสำคัญของการล่มสลายของชาติใดชาติหนึ่งอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้ในปัจจุบัน เช่น
ซีเรีย ประเทศที่เคยรุ่งโรจน์มาในอดีต เมื่อมีความแตกแยกทางการเมือง และต่างประเทศเข้ามาช่วยถือหางฝ่ายที่ตนสนับสนุน ก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมา บ้านเมืองถูกทำลายจนแทบจะราบเรียบ ประชาชนล้มตายหลายแสนคน หนีออกนอกประเทศทั้งทางบกทางน้ำอีกนับล้านคน (Exodus อีกเช่นกัน) จนป่านนี้ก็ยังรบกันอยู่ นี่คือการล่มสลายเพราะแตกแยกทางการเมือง
หวังว่าถึง “พ่อ” ไม่อยู่แล้ว คนไทยก็คงจะไม่ห้ำหั่นกัน เพราะความมี “สี” ที่แตกต่างกัน จนถึงกับต้องอพยพไปหากินในพม่า, ลาว และเขมร
อัฟกานิสถาน ก็เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความแตกแยกทางลัทธิการเมืองอย่างรุนแรง จนมีสงครามกลางเมือง ตราบเท่าทุกวันนี้ ประกอบกับการเข้ามาถือหางของมหาอำนาจต่างๆ จึงทำให้สงครามยังไม่ยุติ ประชาชนอยู่ในความเดือดร้อนจนทุกวันนี้
-------------
หากคนไทยเกิดรบราฆ่าฟันกันขึ้นมาเพราะการเมือง ก็แน่นอนว่า จะต้องมีประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซง ถือหางฝ่ายต่างๆ ปราสาทราชวัง วัดวาอาราม สถานที่ราชการ และแม้แต่บ้านเรือนของคนจน คนรวย ก็คงจะต้องแหลกยับเยินไป เช่น อัฟกานิสถาน
การรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือ การเป็นคนไทย ภายใต้พระบารมีขององค์ประมุของค์เดียวกัน ให้อยู่รอด จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน
-------------
3.เพราะเผด็จการทหาร ถึงแม้ในประเทศไทย ทหารจะมีบทบาทในการเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ความล้มเหลวทางการเมืองได้หลายครั้งหลายครา และแม้จะมีผู้นำทางทหารที่อยู่ในตำแหน่งระยะยาวหลายคน เช่น จอมพล ป.พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร แต่ท่านเหล่านี้ก็มิได้เป็นเผด็จการทหารแบบผู้นำของอิรัก และผู้นำของลิเบีย ซึ่งนำความล่มสลายมาสู่ประเทศของตน
อิรัก เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย เคยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เคยรุ่งเรืองมาในอดีต สมัยอาณาจักรออตโตมาน มีความร่ำรวยเพราะมีน้ำมันมากเป็นที่ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย ผู้นำทางทหารก็คือ ซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งนำประเทศไปสู่ความหายนะ โดยเข้ามาเป็นประธานาธิบดี เมื่อปี ค.ศ.1979 (พ.ศ.2522) ได้นำประเทศเข้าสู่สงครามกับอิหร่าน เคยเข้ายึดครองคูเวต เมื่อปี ค.ศ.1990 จนถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และพันธมิตรต้องส่งกำลังเข้ายึดครองจนถึงปี ค.ศ.2011 ซัดดัม ฮุสเซน เป็นผู้ทำให้อิรักทรุดโทรม ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน ในที่สุดถูกสหรัฐและฝ่ายพันธมิตรบุกเข้าไปจับได้ และถูกแขวนคอเมื่อปี ค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) แม้จนขณะนี้ประเทศก็ยังไม่สงบ มีการสู้รบกันอยู่ตลอดเวลา
ลิเบีย ประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกาเหนือ ใหญ่โตกว่าประเทศไทยถึง 4 เท่า มูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำทางทหารของลิเบีย ก็เป็นผู้นำเผด็จการอีกคนหนึ่งที่นำความหายนะมาสู่ประเทศ โดยการอยู่ในอำนาจแบบเผด็จการถึงเกือบ 40 ปี จนประชาชนต้องลุกยืนขึ้นต่อต้าน และเกิสงครามกลางเมืองอย่างร้ายแรง แม้ขณะนี้ กัดดาฟี่จะถูกกำจัดไปแล้ว การเมืองก็ยังแตกออกเป็นสองฝ่าย และยังสู้รบกันอยู่ในสงครามการกลางเมืองครั้งใหม่จนทุกวันนี้
4.เพราะลัทธิการเมือง
สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics หรือ USSR) ซึ่งเดิมไปรวบรวมเอาประเทศข้างเคียงมาเป็นประเทศเดียวกัน ได้แก่ ลิทัวเนีย, ลัตเวีย, เอสโตเนีย, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, ยูเครน, อาร์เมเนีย ฯลฯ ก็ต้องล่มสลายไปเพราะลัทธิโซเซียลนิสต์ หรือคอมมิวนิสต์ หมดความนิยม เมื่อปี ค.ศ.1997
ยูโกสลาเวีย ของจอมพลยอซีป บรอซ ตีโต ก็ต้องล่มสลายไปด้วยสาเหตุเดียวกับโซเวียต แยกออกมาเป็นประเทศ เซอร์เบีย, สโลวีเนีย, โครเอเชีย, บอสเนีย, มาเซโดเนีย, มอนเตรเนโกร เป็นต้น
สรุปแล้วตัวอย่างที่ชาติล่มสลาย เพราะการคอร์รัปชั่น โดยนักธุรกิจการเมือง เพราะสงครามกลางเมือง อันเกิดจากการแบ่งแยก แตกความสามัคคี เพราะเผด็จการ จึงควรจะเป็นบทเรียนอันดีของคนไทย ที่จะต้องหาทางแก้ไข มิให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขึ้นได้ในประเทศเรา
ประเทศไทย ได้รับการยกย่องจาก Travel Bulletin ของประเทศอังกฤษว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุด และได้รับการโหวตจากนิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐว่า
มีพลเมืองที่มีอัธยาศัยไมตรีอันดีต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นอันดับ 1 ของโลก สิ่งเหล่านี้ซึ่งนำรายได้มาสู่ประเทศและประชาชนคนไทยปีละล้านล้านบาท เราจึงควรจะรักษาความดีเหล่านี้ไว้ รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี รักษาศิลปวัฒนธรรม รักษาสิ่งก่อสร้างวัดวาอาราม และโบราณวัตถุ ไว้เพื่อเป็นแหล่งรายได้ของเราตราบชั่วกาลนาน
อย่าให้การเมืองน้ำเน่า การคอร์รัปชั่น การเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ของนักการเมืองน้ำเน่า และเศษผลประโยชน์ที่เขาหยิบยื่นมาให้ท่าน มาเป็นสาเหตุแห่งความล่มสลาย
ของชาติต่อไป
ข้อเสียของคนไทยอีกประการหนึ่ง คือ การกตัญญูและความซื่อ อันจะเป็นสาเหตุแห่งการล่มสลายได้ด้วย คือ เมื่อเรารับเงินจากนักการเมืองน้ำเน่า (หรืออาชญากรทางการเมือง) ไม่ว่าจะโดยถูกบังคับ หรือโดยถูกยัดเยียดให้ ก็จะมีความกตัญญูต้องไปลงคะแนนเสียง ให้นักการเมืองน้ำเน่าเหล่านี้โดยความซื่อ สิ่งนี้ คนไทยควรจะต้องปรับทัศนคติเสียใหม่ ต้องไม่ให้ความกตัญญูและความซื่อ ต่อโจร หรืออาชญากร ต้องยึดถือ “ความถูกต้อง” เป็นหลัก เมื่อจำเป็นต้องรับเงินเขามา เวลาโหวตเราต้องลงคะแนนให้คนที่เราเห็นว่าดีที่สุด ไม่ใช่โหวตแก่ผู้ให้เงิน เพราะเขาเป็นอาชญากรการเมือง ที่ทำไม่ถูกต้อง แล้วเขาก็จะกลับมาโกงกินเงินของชาติต่อไป
นอกจากนั้น เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ทุกอาชีพ ทุกวัย ที่จะต้องช่วยกันถก ช่วยกันคิด ว่าเราจะหาทางออกจากวงจรอุบาทว์ได้อย่างไร เพื่อให้ได้เกิดความเปลี่ยนแปลง และออกจากวงจรอุบาทว์ ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่จะนำเสถียรภาพ ความโปร่งใส ความอยู่ดีกินดีของคนไทย และความสามารถในการแข่งขันในประชาคมโลก มาสู่ประเทศในที่สุด
ศิริภูมิ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี