พักนี้มีการอ้างที่จะทำสิ่งโน้นจะทำสิ่งนี้ ในทางที่ผู้คนทั้งหลายไม่ชอบใจอยู่เสมอ แล้วก็อ้างว่าเรื่องนี้ไม่มีกฎหมายห้าม ประหนึ่งว่าอะไรก็ตามที่ไม่มีกฎหมายห้ามไว้ก็สามารถทำได้ทุกอย่างฉะนั้น
ถ้าอ้างกันอย่างนี้ได้เรื่อยไป สักวันหนึ่งก็จะเล่นชู้กับคู่ครองของคนอื่นแล้วอ้างว่าไม่มีกฎหมายห้ามก็ได้ หรือแม้จะเอาผู้คนในครอบครัวศักราชเข้าไปมีตำแหน่งแหล่งที่ตรงไหนก็ได้ตามใจชอบ
ควรจะสังวรไว้ว่า เพราะอ้างอย่างนี้แหละคนมีอำนาจบางคนจึงถูกประชาชนและทหารร่วมกันขับไล่ไสส่งให้กลายเป็นสัมภเวสีไม่มีแผ่นดินจะอยู่อาศัยให้ปรากฏมาแล้ว
อันการบริหารบ้านเมืองนั้นย่อมมีแบบแผนและประเพณีการปกครองที่ต่อเนื่องสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน บางอย่างที่ดีงาม แม้ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำก็จำต้องทำ เพราะเมื่อทำแล้วก็จะบังเกิดประโยชน์สุขและความร่มเย็นแก่แผ่นดิน อาณาประชาราษฎรก็แซ่ซ้องสรรเสริญ
บางอย่างแม้กฎหมายไม่ห้ามไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าหากโลกนิยมเห็นว่าเป็นเรื่องชั่วช้าเลวทรามหรือเป็นเรื่องไม่ตั้งอยู่ในความยุติธรรม หากทำไปก็จะเป็นที่เคียดแค้นชิงชังหรืออย่างน้อยก็ไม่เป็นที่ไว้วางใจหรือเลื่อมใสของอาณาประชาราษฎร
ดังเช่นสมัยหนึ่งมีคนจัดการให้ผู้นำรัฐบาลไปนั่งเป็นประธานพิธีทำบุญประเทศในโบสถ์วัดพระแก้วซึ่งเป็นวัดสำหรับพระมหากษัตริย์ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระมหากษัตริย์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสำคัญ ก็คงจะคิดว่าไม่มีกฎหมายห้าม แต่หลังจากนั้นอัปมงคลก็ครอบงำ และวิบากกรรมก็สนองให้เห็นในทันตามาแล้ว
มาวันนี้แนวคิดดั้งเดิมก็คงจะกำเริบขึ้นมาอีก จึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ตั้งอยู่ในธรรมและขัดแย้งกับความรู้สึกนึกคิดของราษฎรก็พยายามจะทำขึ้น
อันการปกครองบ้านเมืองนั้น ประเทศไทยของเรามีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงสืบทอดพระบรมราชปณิธานต่อกันมาในทิศทางเดียวกันคือ “จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาล รัฐสภา หรือศาล หรือองค์กรอิสระใดๆ เมื่อภารกิจใดเกี่ยวข้องกับราชการแผ่นดิน จึงต้องตระหนักมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจนั้นโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
ไม่ใช่ทำตัวเป็นเถรขวาดที่คอยคิดเอาแต่ว่าถ้าอะไรที่กฎหมายไม่ห้ามก็จะทำได้ตามอำเภอใจ อะไรที่กฎหมายห้ามก็จะออกกฎหมายมาสนองความปรารถนาของตนตามอำเภอใจ หากทำการอย่างนี้ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นอธรรม มีพฤติกรรมเป็นทรราช และมีอนาคตที่ต้องเป็นสัมภเวสีไม่มีแผ่นดินจะอาศัยเป็นแน่แท้
ในการปกครองบ้านเมืองนั้น กฎหมายมีฐานะเป็นแค่สิ่วขวานที่สร้างสิ่งที่ดีงามขึ้นในบ้านเมือง ที่จะกำราบปราบปรามอธรรมร้ายให้หายสูญไปจากบ้านเมือง เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ไม่ใช่สรณะ ไม่ใช่ของวิเศษอันใด
ประเทศไทยฉิบหายมาถึงวันนี้ก็เพราะการบริหารราชการแผ่นดินผิดเพี้ยน แล้วยกย่องสิ่วขวานเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่อาศัยในการปกครองบ้านเมือง
แต่ไหนแต่ไรมาการแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายก็จะพึ่งพาอาศัยให้กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นส่วนราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการยุติธรรมและกฎหมายของบ้านเมือง รวมทั้งการออกความคิดความเห็นหรือวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน
เพราะกระทรวงยุติธรรมมีหน่วยราชการหลายหน่วยที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องความยุติธรรมและกฎหมาย ทั้งการชำระสะสาง ทั้งการตั้งขึ้น หรือการตรากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและการบังคับคดีความทั้งหลายให้เป็นไปตามกฎหมาย การแผ่นดินจึงจำเริญเป็นระเบียบเรียบร้อยเรื่อยมา
จนกระทั่งถึงรัฐบาลหนึ่งได้จัดให้มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านกฎหมาย นับแต่นั้นมาราชการแผ่นดินก็วิปริตผันแปรไป เพราะมีการเข้ายึดครองกลไกที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ราวกับว่าเป็นสมบัติส่วนตน
นานวันเข้าก็ขยายบทบาทอำนาจอิทธิพลแผ่ปกคลุมไปทั้งงานนิติบัญญัติ งานบริหาร งานปฏิรูประบบราชการ และกระทั่งองค์กรอิสระ กระทั่งจะขยายเครือข่ายไปถึงสถาบันศาลด้วย แต่แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ฟ้ามีตา แผนร้ายในการบ่อนทำลายสถาบันศาลที่ตั้งกันเป็นขบวนการจึงต้องชะงักงันลงไป
การถือเอางานกฎหมายเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ นับวันยิ่งขยายบทบาทมากขึ้น และเป็นเหตุให้หลายรัฐบาลยกฐานะตำแหน่งทางการเมืองด้านกฎหมายขึ้นเป็นถึงระดับรองนายกรัฐมนตรี กลายเป็นว่าถ้าไม่มีรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านกฎหมายแล้ว การบริหารราชการแผ่นดินก็จะทำไปไม่ได้ หรือทำไปไม่เป็น
แม้กระทั่งเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งหัวหน้าคณะปฏิวัติมีฐานะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ แต่พอนานวันเข้าจะทำอะไรก็ทำไม่ได้ กลายเป็นคนทำอะไรไม่เป็น จะทำอะไรนิดอะไรหน่อยแม้กระทั่งจะย้ายข้าราชการสักคนหนึ่งก็ต้องขอความเห็นชอบในด้านกฎหมายเสียก่อน
กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย จะต้องไม่ให้ใครเป็นเจ้าของกฎหมาย หรือตั้งตนเป็นกฎหมายเสียเอง มิฉะนั้นแผ่นดินจะไม่มีวันสงบสุข มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้เลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี