การหยั่งเสียงเพื่อคัดเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไปซึ่งอาจจะเป็นคนที่ 8 ในประวัติของพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของเมืองไทยจะมีขึ้นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2561นั้น นัยว่าจะมีผู้เสนอตัวลงแข่งขันแค่ 3 รายเท่านั้น ได้แก่หัวหน้าพรรคคนที่ 7 ที่เป็นมาแล้ว 13 ปีเต็ม 3 เทอม เทอมละ 4 ปี ได้แก่ อาจารย์อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ดำรงตำแหน่งในระหว่างปี 2548 ถึงปีนี้ 2561 ซึ่งเป็นปีที่ 13 ของหัวหน้าอภิสิทธิ์
รายที่ 2 ได้แก่ “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร หนุ่มใหญ่จากเมืองเพชรบุรี อดีตนักหนังสือพิมพ์เก่าเล่ายี่ห้อ “เสี่ยจ้อน”นั้นเคยมีประสบการณ์ทางด้านการเมืองมาพอสมควรไม่เป็นรองจากอภิสิทธิ์แต่ถูกเพ่งเล็งว่าเขามีความใกล้ชิดกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่และที่สำคัญอาจจะใกล้ชิดสนิทสนมกับนักหนังสือพิมพ์ใหญ่สายที่นิยมระบอบทักษิณเสียด้วยเพราะดั้งเดิมพื้นฐานนั้น “เสี่ยจ้อน” เองก็เคยทำงานในลักษณะเป็นลูกน้องของเขารายนั้นอยู่นานตั้งหลายปีเลยทีเดียว
มารายที่ 3 คือ คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม นายแพทย์นักการเมืองจากเมืองสองแคว พิษณุโลก ที่มีฝีมือโดดเด่นในการ “ขุดคุ้ย” และ “ขุดรากถอนโคน” โครงการอภิมหาโคตรโกงครั้งใหญ่ของพรรคเพื่อทักษิณ ในยุคแรกและยุคที่ 2ที่มี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี โครงการที่รัฐบาลยอมรับจำนำเมล็ดข้าวเปลือกยังผลให้รัฐบาลขาดทุนโครงการนี้เป็นยอดเงินมโหฬารกว่า 650,000 ล้านบาท
ทีนี้ลองมาดูสถานการณ์ของพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมประชาธิปัตย์ที่ระบุจากนายทะเบียนพรรคว่า มีสมาชิกรวมทั้งสิ้นทั่วประเทศ 2,895,933 คน ว่ากันว่าพรรคปชป.เป็นพรรคที่มีสมาชิกทั่วประเทศเป็นกลุ่มเป็นก้อนมีสาขาพรรคทั่วประเทศ ทุกๆ จังหวัด และมีคณะผู้บริหารพรรคแบบเป็นระบบเหมือนพรรคการเมืองมาตรฐานในต่างประเทศ เราลองมาดูประวัติของ 3 ขุนพล ของปชป.ที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค โดยสังเขปว่าใครเป็นใครดังนี้
รายแรก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2507 อายุ 54 ปี เขาเกิดที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ เป็นชาวกรุงเทพมหานคร บิดาคือ ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ มารดาคือ ศาสตราจารย์แพทย์หญิงสดใส เวชชาชีวะ เป็นทายาทชาวจีนฮกเกี้ยนในสมาคมฮากกาหรือหวี่ฝ่อ ที่มีฐานะเป็นมหาเศรษฐี เคยเรียนที่โรงเรียนประถมสาธิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปศึกษาที่โรงเรียนมัธยมอีตัน อังกฤษ แล้วก็ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ จนจบปริญญาตรี กลับมารับราชการทหาร มียศร้อยตรีเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.
พ้นภาระการรับราชการทหารนายอภิสิทธิ์กลับไปศึกษาระดับมหาบัณฑิตหรือปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเดิม แล้วกลับมาเข้ารับราชการในทบวงมหาวิทยาลัย ในฐานะอาจารย์สอนในคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังสำเร็จปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยนายอภิสิทธิ์เป็นสส.ทั้งหมดถึง 7 สมัย นับตั้งแต่ปี 2535 ถึงปี 2554 และเป็นนายกรัฐมนตรี 1 สมัยในระหว่างปี 2551-2554 เขามีประสบการณ์ถูกปองร้ายหมายชีวิตถึง 3 ครั้ง ในระหว่างปี 2552-2557
รายที่ 2 นายอลงกรณ์ พลบุตร เกิดวันที่ 27 ธันวาคม2499 อายุ 61 ปี เป็นชาวเพชรบุรี โดยกำเนิด คุณปู่ของเขาชื่อนายผาด พลบุตร เป็นตระกูลนักการเมืองเก่าแก่ของเมืองเพชรบิดาเขาชื่อ นายเพิ่มพล พลบุตร อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนอรุณประดิษฐ์เพชรบุรี ปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยจบประกาศนียบัตรสื่อสารมวลชนชั้นสูงที่ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
เริ่มทำงานกิจการเหมืองแร่ของครอบครัวจากนั้นมาทำงานเป็นนักข่าวและคอลัมนิสต์ของ นสพ.เสียงปวงชนรายวัน ในยุคของนายกำแหง ภริตานนท์ นักนสพ.ชื่อดังที่ภายหลังเป็นหน.กองบก.ของ นสพ.เดลินิวส์ รายวัน แล้วก็มาทำงานนสพ.บ้านเมือง นสพ.แนวหน้า รอง ผอ.นสพ.ข่าวสด บก.อำนวยการนิตยสารรายสัปดาห์มาตุภูมิ ประธาน
บริษัท เทเลเพรส จำกัด ผู้ผลิตข่าวให้สถานีโทรทัศน์ ททบ.ช่อง 5
ปี 2535 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.เพชรบุรีครั้งแรกแต่สอบตก ปีเดียวกับเขาสอบได้เป็นสส.เพชรบุรี ปี 2538 เป็น สส.เพชรบุรีสมัยที่ 2 ปี 2539 สอบตกที่เพชรบุรีในสมัยที่ 4 ปี 2544 ได้เป็นสส.เพชรบุรีในการเลือกตั้งสมัยที่ 5 แล้วได้ตำแหน่ง สส.ในปี 2548, 2550 และ 2554 รวมเป็น สส. 5 สมัย เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
รายที่ 3 คือนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม เกิดวันที่ 1 พฤษภาคม 2504 อายุ 57 ปี เป็นชาวสุโขทัย เกิดที่อำเภอเมือง มีความสนใจการเมืองมาตั้งแต่ยังเยาว์จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนเบญจมบพิตร กทม.สำเร็จปริญญาตรีสาขาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นบุตรชายของนักธุรกิจค้าข้าวเจ้าของโรงสีข้าวที่สุโขทัย เคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จบวุฒิบัตรแพทย์ผู้ชำนาญโรคเฉพาะทางด้านสูตินารีแพทย์และนรีเวชวิทยา ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จบปริญญาโทมหาบัณฑิตสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า มีภรรยาเป็นนายแพทย์คือแพทย์หญิงสุวรี
หมอวรงค์เคยรับราชการเป็นนายแพทย์กระทรวงสาธารณสุขตำแหน่งผอ.โรงพยาบาลโซ่พิสัย และโรงพยาบาลพรเจริญ หนองคาย และผู้ช่วย ผอ.โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ในปี 2542หลังจากนั้นได้สมัครสส.ในปี 2548 ในนามพรรคประชาธิปัตย์จนได้รับเลือกตั้งให้เป็น สส.พิษณุโลก อีก 2 ครั้ง ในปี 2550 และ 2554 ใครจะเป็นหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่คงต้องรออีก
2 เดือน จึงจะรู้ผล! ?
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี