ประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่หกของเอเชียได้หรือไม่ เป็นคำถามที่มีคนให้ความสนใจถามมานานแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเรื่อยมาจนถึงรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าหากพิจารณาในแง่ของรายได้ประชาชาติแล้วไทยก็ใกล้จะเป็นเสือตัวที่หกเต็มทีแล้วปัจุจบันปี 2561 ต่อกับปีหน้า 2562 ไทยมีรายได้ประชาชาติใกล้ 18 ล้านล้านบาทแล้ว ปี 2560 รายได้ประชาชาติอยู่ที่ 15,452,882 ล้านบาท ปี 2561 อยู่ที่ 16,457,300 ล้านบาท ปี 2562 จะมาอยู่ที่ 17,592,900 ล้านบาท
ปี 2563 หรือ 2020 น่าจะมากกว่า 18,000,000 ล้านบาท เสือ 5 ตัวแรกของเอเชีย คือ ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, จีน, เกาหลีใต้, สิงคโปร์ โดยจีนนั้นรวมเอาฮ่องกงเข้าไปด้วย ไทยน่าจะเป็นเสือตัวที่หกโดยรายได้ประชาชาติหลักมาจากการส่งสินค้าออกและนำสินค้าเข้าประเมินว่าไทยมีรายได้จากการส่งออกปีละ 240,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 นี้ เฉลี่ยเดือนละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกระทรวงหลักที่ทำหน้าที่นี้คือกระทรวงพาณิชย์รองลงไปคือ กระทรวงอุตสาหกรรม,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามด้วยกระทรวงแรงงาน
กระทรวงพาณิชย์นั้นปัจจุบันมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ นางชุติมา บุณยประภัศรเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค เป็นปลัดกระทรวงโดยปลัดกระทรวงคนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในวันที่1ตุลาคม 2562 คือ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร กรมที่ทำหน้าที่ผลักดันให้เกิดการส่งสินค้าส่งออกไปต่างประเทศได้แก่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กรมการค้าค่างประเทศ, กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีหน้าที่ในการสร้างเศรษฐกิจที่เกิดจากการสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy โดยใช้การส่งเสริมและพัฒนานักออกแบบไทยให้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมนำผลิตผลและผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าไทยออกไปสู่ตลาดโลกและสามารถแข่งขันกับสินค้าของชาติอื่นๆ ในโลกได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้เวทีที่เรียกว่าดีมาร์ค 2018 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถนักสร้างสรรค์ไทยเทียบเท่าระดับนานาชาติ ในปีนี้นักออกแบบสินค้าไทยได้รางวัล 61 รายการ จากที่มีการส่งเข้าประกวดรวม 608 รายการ
เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีการจัดงานมอบรางวัลแก่นักออกแบบสินค้าไทย 61 รายการที่เข้าประกวดในงาน 2561 Design Excellence Award 2018 หรือ Demark 2018 ซึ่งเป็นรางวัลที่รับรองความสามารถของนักออกแบบไทยและถือเป็นหนึ่งโครงการของกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy
ซึ่งที่ผ่านมานั้น นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผู้รับผิดชอบโครงการนี้ได้เผยว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการให้เพิ่มพูนมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพต่อผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการประกวดการออกแบบในปี 2561 นี้ มีผู้ออกแบบ 608 รายการ ส่งเข้าประกวด
ได้รับรางวัล DeMark 61 รายการใน 6 สาขา คือเฟอร์นิเจอร์ไลฟ์สไตล์ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และกราฟิกดีไซน์ซึ่งผลงานชนะเลิศ DeMark ทุกๆ รายการจะได้นำไปจัดแสดงพร้อมเปิดตัวสินค้า ในงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ในวันที่ 17-21 ตุลาคม 2561 นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ด้วยโดยตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ของโครงการได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางฝีมือและความคิดของนักออกแบบไทยอย่างเป็นลำดับตลอดมา
พิธีมอบรางวัลในครั้งนี้จึงเป็นแรงสนับสนุนที่ดีเพื่อให้นักออกแบบไทยได้ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทรและเจดีพี หรือ Japan Institute of Design Promotion ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัลGood Design Award หรือ G-Mark ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพิจารณาตัดสินรางวัล นอกจากนี้มีรางวัลการออกแบบของนักออกแบบไทยรวม 18 ผลงานได้รับการคัดเลือกไปแสดงในงาน G-mark ที่ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 31ตุลาคมถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ด้วย
ด้านหม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่า D-Mark คือเครื่องหมายรับรองผลงานที่ได้รับการยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านการออกแบบทั้งด้านรูปลักษณ์และคุณสมบัติในการใช้งานและยังเป็นการยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบที่ดีโดยฝีมือคนไทยให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี